หลังจากผิวหนังได้รับการฟื้นฟู เมื่อเธอถอดหน้ากากแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่สวยจริง ๆ
คะนึงนิตย์สวมชุดอยู่บ้านสีขาวและผมยาวดำ ถึงแม้ว่าเธอจะแก่แล้ว แต่สภาพผิวของเธอดีมาก ใบหน้าของเธอไม่มีรอยเหี่ยวย่น เปล่งประกายเสน่ห์ของหญิงสาววัยสี่ห้าสิบปี
หลังจากลงบันไดแล้ว คะนึงนิตย์เดินมายืนอยู่หน้านภาลัย เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณพลาดเที่ยวบิน แต่ยังสามารถซื้อตั๋วใหม่ได้อีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะไม่เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเด็ดขาด”
“ฉันไปแน่นอน” นภาลัยกล่าว “แต่ฉันหวังว่าคุณจะไม่บีบบังคับให้เขาทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ ถ้าวันหนึ่งเขารักญาณีจริง ๆ ฉันคิดว่าพวกเราทุกคนจะอวยพรให้พวกเขามีความสุข”
“ถ้าไม่มีคุณ คาดว่าภีมพลคงจะรักญาณีนานแล้ว” เธอรู้สึกมั่นใจความคิดของตนเอง และยังคงคิดว่านภาลัยเป็นคนที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
นภาลัยไม่ได้โต้เถียง “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะขึ้นไปเอากระเป๋า” จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปชั้นบน
“ฉันจะให้ชนรพซื้อตั๋วให้คุณใหม่” คะนึงนิตย์มองแผ่นหลังของเธอ “เขาจะรอคุณอยู่ที่สนามบิน และส่งคุณขึ้นเครื่องด้วยตนเอง”
ให้ชนรพซื้อตั๋ว หมายความว่าพวกเขาสามารถลบเบาะแสการขึ้นเครื่องของตนเองได้
ละเอียดรอบคอบจริง ๆ
นภาลัยขึ้นไปชั้นบน ภาพของรถเบนท์ลี่ย์สีแดงก็แวบเข้ามาในสมองของเธออีกครั้ง
ญาณีไม่ได้มาที่นี่ครึ่งเดือนแล้ว หลังจากเธอมาแค่ครั้งเดียว ยาก็มีปัญหา? มันบังเอิญขนาดนั้นเชียวเหรอ?
นภาลัยเป็นคนที่ชอบแสวงหาความจริง เพื่อค้นหาว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับญาณีหรือไม่ เธอจึงมาที่ห้องวิจัยยา และเปิดกล้องวงจรที่แอบซ่อนไว้
กรินทร์เป็นคนจัดเตรียมอุปกรณ์ของที่นี่ทั้งหมด กรินทร์เป็นคนที่ทำงานจริงจัง เขาซ่อนกล้องวงจรปิดไว้ทุกจุด และสามารถมองเห็นได้ทุกมุม
นภาลัยเห็นภาพจากกล้องว่าญาณีเดินเข้ามาในห้องวิจัย เธอเทยาลงไปในขวดยาทั้งหมด นภาลัยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอไม่รู้จะเอาคำพูดอะไรมาพรรณนาผู้หญิงคนนี้!
น่าเสียดายที่คะนึงนิตย์รักและเอ็นดูเธอมาก! แต่เธอกลับไม่คำนึงผลที่ตามมา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก