นภาลัยนั่งตรงลงข้ามเขา พี่กุ้งรีบนำอาหารเช้ามาอีกชุดหนึ่งมาเสิร์ฟทันที “คุณนภาชอบดื่มนมวันหรือนมถั่วเหลืองคะ?”
“ฉันดื่มได้หมด” เธอตอบเรียบๆ ก่อนจะเงียบราวกับดอกลิลลี่บานในขวดหลัง ไม่เคยแม้แต่มองเขาตั้งแต่ต้น
ไวศิษฎ์ไม่ได้มองเธอด้วยซ้ำ เขากำลังกินอาหารเช้าอย่างจริงจัง
พี่กุ้งรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศโดยรอบ ทั้งสองคนตรงหน้าทำตัวแปลกประหลาดซะจริง
แต่การที่คุณนภาเต็มใจลงมาชั้นล่างนั่นเป็นพัฒนาการที่ดี ทำไมคุณชายศิษฎ์ถึงไม่ทักทายเธอด้วยรอยยิ้มล่ะ เขาโกรธเรื่องอะไร?
หลังอาหารเช้า
โทรศัพท์มือถือของ ไวศิษฎ์ดังขึ้น เขารับโทรศัพท์ต่อหน้าทุกคน โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร
เขาตอบกลับไปว่า “สถานที่จัดงานตอน 9 โมงเช้า ฉันจะไปที่นั่นทันที” หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไปโดยไม่กล่าวคำอำลากับนภาลัยแม้แต่น้อย
ขณะเดินผ่าน พี่กุ้ง เขาก็วางโทรศัพท์มือถือลงและจงใจหยุด “วันนี้ฉันจะไปถ่ายละคร คงจะเลิกงานดึกหน่อย”
“ค่ะ คุณชายศิษฎ์ ไม่เป็นห่วงนะคะ” พี่กุ้งพูดอย่างครุ่นคิด “ดิฉันจะจัดการอาหารมื้อเย็นให้คุณนภาเองค่ะ”
ไวศิษฎ์หันไปมองผู้หญิงที่รับประทานอาหารเช้าโดยหันหลังให้เขา ราวกับว่าไม่สนใจว่าจะจากไปหรืออยู่ต่อ
เขาหลับตาแล้วเดินจากไปด้วยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหายไป นภาลัยวางแก้วนมลง ความเศร้าปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ เธอกังวลเรื่องของภีมพลมากขึ้นเรื่อยๆ
หัวใจห่วงแต่ภีมพล เธอเพียงแค่อยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง
เธอรู้สึกเสียใจที่ตนเองยอมประนีประนอมกับคะนึงนิตย์ในตอนแรก ความรักควรทุ่มเทจนไม่ถึงตัวเองต่างหาก
ถ้าเธอกล้าหาญมากกว่านั้นและพาเขาไปสู้กับแม่ของเขา สักวันเธออาจจะเอาชนะใจหล่อนได้
และจะไม่เป็นอย่างทุกวันนี้
นภาลัยลุกขึ้นและออกไปหลังจากรับประทานอาหารเช้า
ในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างอบอุ่น พี่กุ้งนำโทรศัพท์มือถือที่ไวศิษฎ์ซื้อมาให้เมื่อครึ่งเดือนก่อนยื่นให้เธอ “คุณนภา โปรดรับโทรศัพท์นี้ไว้ด้วยค่ะ”
เธอปฏิเสธมามากกว่าสามครั้ง
สายตาของนภาลัยจ้องไปที่เคสโทรศัพท์มือถืออันบอบบาง เธอคิดเกี่ยวกับมัน และในที่สุดก็เอื้อมมือไปหยิบ “ขอบคุณนะ”
พี่กุ้งแสดงออกอย่างมีความสุขด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณชายศิษฎ์รู้ต้องดีใจมากแน่ๆ ค่ะ”
ไม่มีอารมณ์ใดๆ บนใบหน้าของนภาลัย เธอหันสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก