ไม่รอให้ผู้กำกับเอ่ยปากรั้งไว้ให้อยู่ เธอก็หันกายขึ้นรถบ้านที่อยู่ไม่ไกลแล้ว
“สองคนนี้…เป็นอะไรกัน?” มีคนสงสัยและดูเหมือนว่าจะมองเห็นอะไรบางอย่าง
ในเวลานั้นเอง ปากของหนุ่มผู้ช่วยผู้จัดการกองถ่ายก็ไม่มีอะไรมาหยุดไว้ได้“เรื่องที่ทุกคนต่างก็มองออก ไม่เห็นต้องถามเลย อยู่ด้วยกันทุกวัน จะไม่ให้สปาร์คกันเห็นจะยาก”
“ในที่สุดคุณเขม์ก็มีผู้ชายที่เธอสนใจแล้ว?”
“นั่นนะสิ?”
“ฉันว่าศิษฎ์ไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่นะ?พูดคุยเป็นการส่วนตัวก็ไม่มี”
“ใครจะไปรู้?อาจจะพยายามเลี่ยงก็ได้ เรื่องส่วนตัวบอกอะไรแน่นอนไม่ได้หรอก”
สิบกว่านาทีต่อมา รถวอลโว่คันสีดำก็ขับเข้าไปในลานบ้านของวิลล่าที่มีวิวทะเล
ประตูฝั่งคนขับรถเปิดออก ไวศิษฎ์ลงจากรถ สายตาเหลือบไปเห็นร่างที่นั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟากลางแจ้ง
เธอยังมองฟ้าอยู่อีก?
ในเวลานั้นเองพี่กุ้งก็เดินออกมาจากห้องรับแขกพอดี “คุณไวศิษฎ์ อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ”
“ผมจะไปเรียกเธอ”เขาหยุดพี่กุ้งเอาไว้แล้วก้าวฝีเท้าไปหานภาลัยด้วยตนเอง
ลมเย็นพัดโชยมา กลิ่นหอมของดอกลิลลี่ก็อบอวล หอมเป็นอย่างมาก
ยิ่งเข้าใกล้เธอมากขึ้น ไวศิษฎ์ก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอใสราวกับหยกหมึก โดยเฉพาะกลิ่นหอมเย็นอันสงบสงัดติดกายนั่นเป็นสิ่งที่ถูกใจเขามาก
ไวศิษฎ์ยืนนิ่งอยู่ข้างนภาลัย เงาของเขาปกคลุมบนร่างเธอ
“เข้าไปทานอาหารเย็นกันเถอะ”น้ำเสียงของเขาสงบนิ่ง “พี่กุ้งบอกว่าเธอไม่ทานอาหารกลางวัน ถ้าทำแบบนี้ต่อไปร่างกายจะแย่เอาได้นะ”
“ฉันไม่อยากทานน่ะ” เธอยังคงมองดูเมฆบนท้องฟ้า เธอเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “นายไปทานเถอะ”
ที่เธอทำร้ายแบบนี้กับตัวเองเขาไม่ชอบที่สุด สายตาของไวศิษฎ์หนักอึ้ง “ถึงเธอไม่หิวก็น่าจะทานเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ?ฉันช่วยเขาแล้ว เธอก็ควรจะขอบคุณฉันเหรอไม่ใช่เหรอ ?”
“…”ร่างกายของเธอพลันตึงแน่นอย่างช่วยไม่ได้ รู้สึกกังวลอย่างอธิบายไม่ถูก
“ฉันไม่ได้ขออะไรมากมาย แค่ทานข้าวเท่านั้นเอง”
เธอไม่กล้าที่จะยั่วโมโหเขา ดังนั้นจึงสวมรองเท้าและยืนขึ้นเบื้องหน้าเขา
ในระยะใกล้ สายตาของทั้งสองก็ประสานกัน
เธอไม่ได้กล่าวอะไร เพียงเดินผ่านเขาแล้วเดินไปที่ห้องอาหารเพียงลำพัง
ไวศิษฎ์ไม่เข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอเอาแต่คิดถึงภีมพลทั้งวันเลยเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก