เธอตกอยู่ในความงุนงง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
ปัง!
เสียงปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง และนั่นเป็นอีกครั้งที่ทำให้เธอตกใจ
นภาลัยไม่เคาะซ้ำแล้ว แต่ยืนอยู่ที่หน้าประตูเป็นเวลานาน หัวใจของเธอตกอยู่ในความคโศกเศร้า
หลังประตู ไวศิษฎ์กำลังยืนรออยู่...
เธอไม่ได้เคาะประตู ทำให้เขาเริ่มคิดอย่างฟุ้งซ่านอีกครั้ง เธอกำลังเป็นห่วงภีมพลอยู่ใช่ไหม?
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีจิตสำนึกเอาซะเลย!
เห็นว่าเขาบาดเจ็บอยู่แท้ๆ จะช่วยพูดโกหกหน่อยไม่ได้หรือไง?
นภาลัยเป็นห่วงไวศิษฎ์จริงๆ ยังไงซะเขาก็เป็นน้องชายที่ภีมพลห่วงใย แม้ว่าวิธีที่พวกเขาสื่อสารกันจะแปลกไปสักหน่อย แต่ทั้งคู่ก็มักจะนึกถึงอีกฝ่ายเสมอ
ในเวลานั้นเอง พี่กุ้งขึ้นมาชั้นบนเช่นกัน นภาลัยเหลือบมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า
พี่กุ้งตบบ่าของนภาลัยเบาๆ และปลอบเธอ “คุณนภาไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง”
“…” นภาลัยเป็นห่วงเขาจริงๆ
พี่กุ้งสังเกตเห็นความกังวลนี้เช่นกัน
นภาลัยอยากแก้ปัญหาทุกอย่างให้ดีขึ้น การทะเลาะกันมีแต่จะทำให้เรื่องราวแย่ลง และทำให้ภีมพลที่กำลังความจำเสื่อมอารมณ์เสียมากขึ้น
โดยพื้นฐานแล้วเธอมั่นใจว่าไวศิษฎ์ต้องทะเลาะกับภีมพลแน่
หลังจากที่นภาลัยจากไป พี่กุ้งก็เคาะประตู
ไวศิษฎ์เปิดประตูโดยคิดว่าเธอคือนภาลัย แววตาของความผิดหวังฉายแววในดวงตาของเขา “คุณชายศิษฎ์ ฉันทายาให้ดีไหมคะ?” พี่กุ้งถามอย่างเป็นห่วง
เขาหันกลับไป พี่กุ้งเดินเข้าไปพร้อมกับกล่องยา
เธอไม่ได้ถามเหตุผลและพูดกับเขาขณะทายาว่า “ที่จริง...คุณนภาเป็นห่วงคุณมากนะคะ”
เมื่อคิดว่านภาลัยเป็นห่วงภีมพลมากกว่า ไวศิษฎ์ก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
คืนนั้นไวศิษฎ์ไม่ได้ลงไปทานอาหารที่ชั้นล่าง
เขาขอให้พี่กุ้งนำอาหารไปที่ห้องนอนด้วยเหตุผลง่ายๆ คือเขาไม่ต้องการเห็นเธอ
ที่ห้องอาหารชั้นล่าง นภาลัยพี่กุ้งกำลังทานอาหารเย็นด้วยกัน
“เขาเป็นยังไงบ้างคะ?” เธอถามอย่างเป็นห่วง
“ดิฉันประคบน้ำแข็งและทายาเรียบร้อยแล้วค่ะ รอยฟกช้ำดีขึ้น แต่ยังอารมณ์ไม่ดีอยู่”
นภาลัยได้ยินก็รู้สึกหงุดหงิดใจ
ช่วงนี้เธอไม่อยากออกไปไหน นักข่าวติดตามเธออย่างใกล้ชิด เอาเป็นว่าช่วงนี้หลบๆ ไปก่อนก็แล้วกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก