เมื่อภีมพลเห็นเขาจึงหยุดและเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหนือกว่า ไวศิษฎ์วิ่งไปแต่กลับถูกชายมีฝีมือสองสามคนขวางไว้
“ภีมพล!นายไปบ้านฉันทำไม?นายคิดว่าตอนนี้ปัญหายังไม่ใหญ่พออีกเหรอ?” ไวศิษฎ์ชี้ไปที่เขา “นายมีสิทธิ์อะไรมาพาตัวเธอไป?!นายเป็นอะไรกับเธอ!”
เขาตะโกนโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายตอบ
พนักงานที่เดินผ่านไปอดไม่ได้ที่จะหยุดมองและเริ่มนินทา
ภีมพลไม่สนใจ ดวงตาสีดำอันมืดมนมองลึกเข้าไปที่อีกฝ่าย “ตอนเธอถูกสื่อล้อมไว้ นายไปอยู่ที่ไหน?”
ไวศิษฎ์โกรธ เขาสะบัดมือออกจากพันธนาการของเหล่าลูกน้องและโจมตีกลับ
ลูกน้องของภีมพลคล่องแคล่วและเอนหลังหลบได้สำเร็จ
ไวศิษฎ์โกรธมากขึ้น เขาเริ่มลงมือจริงๆ ทำให้เกิดการตะลุมบอนเล็กๆ ขึ้น
ภีมพลจ้องไปที่เขาอย่างเย็นชา เขาจำภาพในกล้องวงจรปิดได้เป็นอย่างดี
นอกห้องฉุกเฉิน...
เขาบีบบังคับให้นภาลัยกลายเป็นเป็นผู้หญิงอย่างไร้ยางอาย ทั้งสีหน้า คำพูดที่เย่อหยิ่งที่เขาพูดกับแม่ของเขา...
ทั้งหมดนี้ทำให้ภีมพลต้องการให้ลูกน้องสั่งสอนบทเรียนให้เขาเพิ่มสักหน่อย
ภีมพลไม่ได้พูด แต่ลูกน้องรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร
ในไม่ช้า ไวศิษฎ์ก็เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด เขาโดนต่อยหลายครั้ง ทำให้ผู้คนโดยรอบรู้สึกกังวลใจ
“ถ้าเจ็บตัวแล้วจะแสดงเรื่องรักแห่งอ่าวอินทนิลต่อยังไง?”
“พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาเนี่ย?เป็นเพราะคุณนภาเหรอ?”
ไม่ว่าฝีมือของไวศิษฎ์จะดีแค่ไหน แต่เขาไม่สามารถทนต่อการต่อสู้ของกลุ่มคนที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีได้
ภีมพลไม่มีอะไรจะพูดกับเขาและไม่ต้องการเสียเวลา
ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่รถลัมโบร์กินี
คนขับช่วยเปิดประตูรถและแสดงความเคารพ “เชิญครับ คุณภีม”
ไวศิษฎ์หลบหลีกในการต่อสู้ เขาเหลือบมองภีมพลนั่งรถจากไป รถถูกขับออกไปอย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกโกรธมาก หลังจากเสียสมาธิ ลูกน้องของภีมพลได้โอกาสจึงชกเข้าไปที่ใบหน้าของเขาอย่างโหดเหี้ยม
ความเจ็บปวดนั้นทำให้เขาเซถอยหลังไปหลายก้าว
ไวศิษฎ์เข้าสู้ภาวะบ้าคลั่งโดยสมบูรณ์ เขาไม่ได้หนี แต่กลับระบายความโกรธทั้งหมดไปที่รางของเหล่าลูกน้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก