เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก นิยาย บท 332

ในขณะที่เธอกำลังอ่อนแอที่สุด ตัวเองไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ ภีมพลโทษตัวเองอย่างมาก

“เธอที่กำลังขุดมดลูกในโรงพยาบาล ไม่มีมาเวลาเสียใจเพื่อตัวเอง ได้ข่าวว่าพี่เกิดอุบัติเหตุ” ไวศิษฎ์ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเพราะอะไร อยู่ดีๆก็อยากเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง

หวังว่าภีมพลจะกลับตัวกลับใจ ระงับการแต่งงานครั้งนี้

และก็อยากให้เขายอมรับความผิด

ครั้นแล้วเขาก็พูดต่อ “ตอนอยู่นอกห้องฉุกเฉิน เธอยังถูกแม่พี่ตบไปหนึ่งที เธอไม่แม้แต่จะสวมรองเท้า เธอที่เพิ่มขุดมดลูกเสร็จร่างกายก็อ่อนแออยู่แล้ว แต่เพื่อพี่ เธอคุกเข่าลงต่อหน้าผม และขอร้องให้ผมบริจาคเลือดให้พี่ "

ภีมพลขมวดคิ้วจนหว่างคิ้วเป็นสามเส้น ความรู้สึกผิดที่เพิ่มมากขึ้นในหัวใจของเขา กำลังแพร่กระจายอย่างไม่รู้จบ

“ขอบใจนายนะ” เขาที่ดวงตาแดง กล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้ง

“ไม่ต้องขอบคุณผม พี่ควรที่จะขอบคุณเธอ” ไวศิษฎ์ขมวดคิ้วไปหนึ่งที “หลังจากที่เธอมากับผม ไม่พูดไปตั้งหลายเดือน ค้นหาข่าวคราวของพี่จากโทรศัพท์เป็นประจำ แต่ว่าในข่าวกลับไม่ได้รายงานเรื่องอุบัติเหตุนั้นเลย”

“เธออยากรู้ว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า กลับไม่กล้าที่จะถามผม เพราะผมจะโกรธ”

ภีมพลปวดใจราวกับถูกเข็มทิ่มแทง ช่วงเวลานั้น เธอผ่านมันมาได้อย่างไร?

“พี่ไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกของเธอ” ไวศิษฏ์กล่าว “บางทีพี่อาจจะเกลียดเธอ เกลียดที่เธอทิ้งพี่ในขณะที่พี่ยังไม่พ้นขีดอันตราย”

ใช่

ภีมพลเคยเกลียดเธอ

เขาเสียใจเป็นอย่างมาก

เมื่อเขาเห็นคลิปเต็มจากกล้องวงจรปิด ในใจนั้นเหลือไว้แต่ความเสียใจและคิดถึง

“หลายครั้งที่เธอคิดจะฆ่าตัวตาย อารมณ์แปรปรวน” ไวศิษฎ์บอกเขา ผมให้พี่กุ้งอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอดเวลา เพื่อแชมป์กับขวัญข้าวแล้ว ในที่สุดเธอถึงเข้มแข็งขึ้นมาได้

หัวใจของภีมพลกระตุกอย่างแรง เจ็บเหมือนคลื่นลมซัดเข้ามา

“หากพี่ไม่สามารถปกป้องเธอได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ” ไวศิษฎ์หันไปทางเขา “งั้นพี่ก็ออกไปให้ไกลจากชีวิตของเธอ”

ภีมพลก็หันหน้าไป สองพี่น้องสี่ตาประสานกัน

“ถ้าหาก………” เขาถอนสายตากลับ แล้วกรอกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง ระงับความเสียดายเอาไว้ “ถ้าหากพี่สามารถทำได้ ผมจะยอมปล่อยมือ ส่งเธอให้กับพี่” หลังจากที่พูดคำว่าปล่อยมือแล้ว ในใจไวศิษฎ์ก็เจ็บเหมือนเลือดไหล

ผมชอบเธอ ผมยอมรับว่าผมนั้นจริงจัง ในชีวิตนี้ของไวศิษฎ์ไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อเห็นเธอก็มักจะยิ้มโดยไม่รู้ตัว

ความรู้สึกแบบนี้สำหรับเขา มันมีค่ามาก และอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกในชีวิตของเขา

ภีมพลไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับไวศิษฎ์เลย แต่ว่าวริศได้บอกกับเขา นี่คือเป็นน้องชายต่างมารดาของเขา

เรื่องในอดีตของตระกูลกงพลีเป็นเรื่องประหลาดมาก เขาก็จำไม่ได้แล้ว แต่มันคือความจริงที่ยังคงดำรงอยู่

ภีมพลอยากรู้อย่างมากว่าก่อนหน้านี้เขามองเรื่องพวกนี้อย่างไรบ้าง

ในห้องหนังสือ นภาลัยวางหนังสือลงเพื่อจะกลับไปดูภีมพลที่ห้องนอน กลับพบว่าในห้องมีแต่ความว่างเปล่า

เธอตกใจเล็กน้อย รีบวิ่งไปทางบันได ยังไม่ทันก้าวเดิน ก็เห็นร่างของสองคนพี่น้องที่นั่งอยู่ตรงบันได

ได้ยินเสียงฝีเท้า ภีมพลและไวศิษฎ์ก็หันหน้าไปพร้อมกัน

นภาลัยถึงได้โล่งอก “……”เขายังไม่ไป

ภีมพลลุกขึ้นเดินมาหาเธอ จับของแขนเธอ พาเธอเดินกลับไปยังห้องนอน

จากนั้นก็ล็อกประตูห้อง

นภาลัยจ้องมองเขาด้วยดวงตาคู่โตที่สดใสไม่มีความแอบแฝง "คุณเป็นยังไงบ้าง? ไข้ลดลงหรือยัง? พวกคุณทะเลาะกันอีกมั้ย?

ภีมพลกอดเอวของเธอ จูบริมฝีปากของเธอโดยไม่ลังเล

นภาลัยดิ้นรนโดยสัญชาตญาณ ผลักเขาออกอย่างเต็มแรง “ปล่อยฉัน………คุณทำอะไรน่ะ?!”

เห็นเธอต่อต้าน โกรธ เขารู้สึกปวดใจ

เพื่อไล่ตามกระเป๋าใบเดียว โดยไม่สนใจร่างกายของตัวเองเลย แท้งลูก แถมยังต้องขุดมดลูก ยังโดนตบ ยังคุกเข่าต่อหน้าไวศิษฎ์………..

เธอในวันนั้น ในใจจะสิ้นหวังขนาดไหน?

ก็มองเธออยู่อย่างนั้น คิดถึงคำพูดของไวศิษฎ์ น้ำตาของภีมพลก็ไหลลงมา มันสะกิดหัวใจเขาโดยตรง

เขาเป็นอะไร? นภาลัยตัวแข็งทื่อ

ภีมพลโน้มตัวลง เอาแก้มของเขาแนบกับแก้มของเธอ แล้วกอดเธอเอาไว้

เสียงที่เปล่งออกมานั้นสั่นเทาและแหบแห้ง "ผมขอโทษ นภา เป็นเพราะผมไม่ดี ไม่ได้ปกป้องคุณให้ดี ยกโทษให้ผมด้วย เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถอะ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก