“อย่าพูดอะไรที่น่าสะพรึงขนาดนั้นเลยคุณ” กรินทร์เก็บกล่องยาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ถึงกับเป็นหนูทดลองหรอกคุณ ยาของผมมีอัตราส่วนความปลอดภัยค่อนข้างสูง”
“คุณหมอ งั้นผมออกจากโรงพยาบาลได้แล้วหรือยังครับ?”เขาอยู่ที่นี่จนรากจะขึ้นแล้วจริงๆ
“คงยังครับ” กรินทร์กล่าวอย่างจริงจัง “เพิ่งได้ใช้ยาตัวใหม่ไป ควรพักต่ออีก 1 สัปดาห์จะดีที่สุด เพื่อสังเกตอาการดูสักหน่อยว่ามีอะไรไม่พึงประสงค์หรือเปล่า”
เรื่องนี้เขาเคยบอกกับไวศิษฎ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว
“สังเกตการณ์แค่ตอนเช้าก่อนเถอะ ตอนบ่ายผมจะได้ออกไปข้างนอก ให้ผมหยุดครึ่งวันไม่ได้เหรอ?” ไวศิษฎ์มีความคิดอยู่ในหัวมานานมากแล้ว
กรินทร์เก็บของพลางกล่าว “งั้นค่อยเอาไว้คุยกันตอนบ่ายแล้วกัน คุณพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเถอะครับ”
“……”
ไวศิษฎ์หมดหนทาง เขาเป็นหมอก็ต้องฟังเขา
ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่นภาลัยออกไป เธอก็กำชับเอาไว้เป็นพิเศษให้เขาทำตามที่กรินทร์จัดการเอาไว้ และรักษาตัวให้ดีๆ
ในห้องอัดเสียง
ผ้าไหมอยู่เป็นเพื่อนนภาลัยที่พากย์เสียง
“มันเกี่ยวอะไรกับคุณ?จะมาสืบสาวราวเรื่องกับครอบครัวของเราทำไม?”
“ความจริงอะไรกัน?เธอเป็นน้องสาวของฉัน เป็นลูกสาวของตระกูลเครือทิวาอย่างแน่นอน คุณมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาว่าเธอเป็นลูกสาวบุญธรรม? บริษัทของคุณจะไม่เอาไว้แล้วใช่มั้ย?คุณมาพูดเดาไปมั่วซั่วแบบนี้จะได้เห็นดีกันแน่ !”
นภาลัยรู้สึกว่าทั้งน้ำเสียงและอารมณ์ของตัวเองเข้ากันได้ดีมาก และอยู่ในสภาพดีเยี่ยมแล้ว
ผ้าไหมได้ฟังจากด้านข้างๆ ก็ยังรู้สึกว่าฉากในวันนี้นั้นดีมากๆ ทำให้รู้สึกเหมือน เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลย
กว่าจะรู้ตัวก็มาถึงเวลาเที่ยงแล้ว
นภาลัยและผ้าไหมกำลังจะออกไปกินข้าวเที่ยง พอเปิดประตูห้องอัดออกก็เห็นภีมพลยืนถือข้าวกล่องอยู่ด้านนอกประตู ไม่รู้ว่าเขารออยู่นานเท่าไหร่แล้ว
เมื่อเขาเห็นเธอ รอยยิ้มอ่อนโยนก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา
นภาลัยประหลาดใจเล็กน้อย เธอเหลือบมองข้าวกล่องในมือของเขา “เอาข้าวมาส่งเหรอ?”
“สวัสดีค่ะคุณภีม” ผ้าไหมรีบกล่าวทักทาย
“เป็นอะไรไป?” ชายหนุ่มสบสายตากับภรรยาของตน “ไม่ดีใจเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก