เสียงปรบมือดังขึ้น
คะนึงนิตย์ในฐานะเป็นผู้ใหญ่ในตระกูลกงพลีก็กล่าวแถลงสั้นๆ เรียบง่ายเช่นกัน หลักๆ คือขอบคุณทุกคน
นี่แทบจะเป็นจุดไคลแม็กซ์ของงานเลี้ยงการกุศล เพราะตั้งแต่เธอเกิดเพลิงไหม้ ก็ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน โลกภายนอกเล่าลือกันด้วยซ้ำว่าเธอตายไปแล้ว
สื่อนับไม่ถ้วนถ่ายเธออย่างบ้าคลั่ง กล้องดังแชะๆ กล้องวิดีโอบันทึกทุกอิริยาบถของเธอ รวมถึงทุกประโยคที่พูด
ในฐานะภรรยาภีมพล รองประธานบริษัทคนใหม่ นภาลัยก็มีการกล่าวแถลงในโอกาสสำคัญเช่นนี้เหมือนกัน——
“ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนกิจการการกุศล และขอบคุณน้ำใจของทุกคนด้วยนะคะ” เธอสุขุมและมั่นใจ สุภาพเรียบร้อย “ฉันเชื่อมั่นมาโดยตลอด หากทุกคนมอบความรักคนละนิด โลกใบนี้จะกลายเป็นโลกที่งดงามค่ะ”
เสียงปรบมือดังครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกคนส่งสายตาอิจฉาให้เธอ
โชคดีทั้งสามชาติจริงๆ ถึงได้แต่งงานเข้าตระกูลกงพลีได้ เงินบริจาคเจ็ดพันห้าร้อยล้านบาท แสดงว่าเงินปกติก็ให้เธอเป็นคนใช้ไม่ใช่หรือไง?
วันนี้งานเลี้ยงมีการถ่ายทอดสดในงาน
ทุกการเคลื่อนไหวในงานถูกถ่ายทอดสดออกไปตั้งแต่แรก รวมถึงหน้าจอแสดงผลในห้างขนาดใหญ่ต่างๆ ในเมืองไนร์ก้าก็ฉายในจังหวะเดียวกัน
“พระเจ้า เจ็ดพันห้าร้อยล้านบาท? ใจกว้างมากอ่ะ!”
“มากกว่าห้าปีก่อนถึงสามเท่า คุณภีมเป็นผู้เสียสละจริงด้วย!”
“ไม่กี่ปีมานี้หาเงินได้เยอะขึ้นใช่ไหม? บริษัทพัฒนาอย่างก้าวกระโดด”
“รวยก็ต้องยอมบริจาคสิ ตอนนี้มีพวกผู้ประกอบการที่ขี้เหนียวเยอะมาก”
“หล่อขนาดนี้ แถมรวยขนาดนี้ น่าอิจฉาภรรยาของเขาจังเลย!”
“นั่นสิ ฉันก็อิจฉา ทุกเช้าลืมตาขึ้นมาก็เห็นสามีหล่อเหลาร่ำรวยแบบนี้ อารมณ์ดีทั้งวันแน่ๆ นี่เป็นความสุขอย่างหนึ่งใช่เปล่า?”
ผู้หญิงจำนวนมากยืนนิ่งด้านหน้าห้างที่มีผู้คนเบียดเสียด ดูการถ่ายทอดสดด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน และรู้สึกเดือดพล่านเลือดร้อนตามมา
ณ เมืองไนร์ก้า ในคอนโดแห่งหนึ่ง
ญาณีนั่งโซฟาในห้องรับแขก เธอนั่งไขว่ห้าง จ้องมองจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะชาอย่างเยือกเย็น ภาพการถ่ายทอดสดความละเอียดเฟรมสูงกระตุ้นความทรงจำอันไม่มีสิ้นสุดของเธอ
ห้าปีก่อน สิบปีก่อน สิบห้าปีก่อน เธออยู่เคียงข้างภีมพลเสมอ เธอจะยืนตำแหน่งนั้นกล่าวคำปราศรัย และจะได้รับเสียงปรบมืออันนับไม่ถ้วน
แต่วันนี้……คนเปลี่ยนแต่วิวทิวทัศน์ยังเหมือนเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก