ในงานเลี้ยงการกุศล เป็นงานชนชั้นสูงเหมือนในเทพนิยาย ดนตรีระรื่นหูดังวนเวียนอยู่ข้างหู เป็นการแสดงสดจากผู้มีชื่อเสียง
ภายในห้องบอลรูมเหลืองทองอร่าม แสงไฟระยิบระยับเหมือนสีเคลือบเซรามิก งดงามแพรวพราว
จังหวะการบริจาคเสร็จสิ้นแล้ว นภาลัยกับภีมพลดื่มอวยพรแสดงคำขอบคุณในห้องรับแขก คะนึงนิตย์อยู่ข้างกายเหล่าเด็กๆ กลายเป็นคุณย่าธรรมดาคนหนึ่ง
“แชมป์น้อย ขวัญข้าวน้อย พวกหนูอยากกินอะไร? ย่าจะไปเอามาให้พวกหนู”
“ชีสครับ!”
“คุณย่า หนูก็อยากได้ชีสค่ะ!”
“โอเคๆๆ ย่าจะไปเอามาให้พวกหนูเดี๋ยวนี้” คะนึงนิตย์จับไหล่เด็กๆ เอาไว้ “อย่าวิ่งไปไหนซี้ซั้วนะ”
มีสื่อจำนวนไม่น้อยถ่ายสารคดีพิเศษเกี่ยวกับเธออยู่เสมอ คุณนายนิตย์คนนี้ให้ความรู้สึกดีแก่ผู้คนมาก ไม่ได้น่ากลัวเหมือนในตำนานเลย
ตั้งแต่คะนึงนิตย์ยอมรับนภาลัยด้วยใจจริง เธอก็มักจะแผ่กระจายความอัธยาศัยดีของผู้ใหญ่ออกมา นั่นคือแสงอันรุ่งโรจน์ของความเป็นแม่
เธอปฏิบัติดีกับเหล่าเด็กๆ มาก เป็นคุณย่าที่ดีมีความอดทน
สื่อประเมินค่าเธอสูงมาก
ชาวเน็ตก็ถามว่า คุณย่าคนนี้ยังขาดหลานอยู่ไหม?
นภาลัยควงแขนภีมพล กล่าวขอบคุณผู้มีน้ำใจที่มาในวันนี้ ไม่สนว่าทุกคนจะบริจาคมากหรือบริจาคน้อย นั่นเป็นน้ำใจที่หาได้ยากทั้งนั้น
“ขอบคุณค่ะคุณวิศเวศ ขอบคุณ”
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณครับคุณภีม นำพาทุกคนให้พัฒนากิจการด้านการกุศลได้ดีเยี่ยม”
“ทำธุรกิจการกุศลจะทำแย่ๆ ไม่ได้ พระเจ้าจับตาดูอยู่ ต้องพัฒนาให้เจริญเท่านั้น”
“ครับ ปีก่อนบริษัทเราเจอกับวิกฤตนิดหน่อยครั้งหนึ่ง ก็แก้ปัญหาไปอย่างง่ายดาย ผมเองก็คาดไม่ถึง เลยอยากทำการกุศลกับคุณภีมให้มากๆ”
พวกเขาดื่มอวยพรกัน และพูดคุยสื่อสารอย่างเรียบง่ายกับประธานบริษัท
เมื่อสองสามีภรรยาเดินผ่านหน้ากำแพงลายเซ็น สายตานภาลัยก็กวาดมองชื่อด้านบนเล็กน้อย
สองชื่อคุ้นเคยเข้าสู่สายตา เธอหยุดฝีเท้า ดึงเบาๆ ให้ภีมพลหยุดฝีเท้า “นายดูสิ กรินทร์กับศิษฎ์ก็บริจาคด้วย”
“ใช่แล้ว” วันนี้ตอนกลางวันภีมพลเห็นยอดเงินบริจาคแล้ว “พวกเขาบริจาคกันคนละยี่สิบห้าล้านบาท”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก