ไม่นานเรื่องที่เหล่าเฉินหมดสติไปในห้องผ่าตัดก็แพร่ไปถึงห้องผ่าตัดต่างๆ ทั้งยังแพร่ไปถึงแผนกต่างๆ อีกด้วย
ห้องผ่าตัดเป็นสถานที่ที่มีการซุบซิบมากที่สุดในโรงพยาบาลแล้ว
หากการผ่าตัดคราวนี้ของเหล่าเฉินเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา และหากเกิดเรื่องเพราะเขาหมดสติไป เช่นนั้นเขาอาจพลิกฐานะไม่ได้ไปตลอดชีวิต นี่เป็นสาเหตุที่เฉินชางพยายามปกป้อง
โชคดีที่เฉินชางเตรียมพร้อมไว้นานแล้ว และพยาบาลเหล่านั้นก็เป็นคนของแผนกฉุกเฉิน ทุกคนตัดสินใจเรื่องนี้ไปในทิศทางเดียวกันโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ย
วันนั้นหลี่เป่าซานอธิบายสถานการณ์ให้ผู้ป่วยฟัง ช่วงเวลาสามวันนี้ เฉินปิ่งเซิงอยู่กับเตียงผ่าตัดต่อเนื่องกันเป็นเวลาประมาณสี่สิบสองชั่วโมง ผ่าตัดไปเกือบยี่สิบเคส ทำให้เหนื่อยจนล้มไประหว่างการผ่าตัด ทว่าแม้จะเหนื่อยแต่ก็ยังยืนหยัดทำการผ่าตัดจนสำเร็จ ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไร
ทุกคนพากันทอดถอดใจ ไม่ต้องพูดถึงอยู่กับเตียงผ่าตัดต่อเนื่องสี่สิบสองชั่วโมงเลย แค่ทำงานสี่สิบสองชั่วโมงภายในสามวันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว คุณไม่ต้องนอน ไม่ต้องกินข้าว ไม่ต้องเข้าห้องน้ำหรืออย่างไร?
เหล่าเฉินคงจะเหนื่อยจริงๆ!
ตอนที่เฉินชางมาถึง เหล่าเฉินก็ฟื้นแล้ว เขาเอ่ยถามอย่างระมัดระวังว่า “ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรใช่ไหม?”
เฉินชางยิ้มออกมาโดยพลัน “หัวหน้า คุณเครียดเกินไปแล้วครับ ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น คุณผ่าตัดเสร็จแล้ว ผมแค่ไปเย็บท้องเท่านั้น”
เฉินปิ่งเซิงเอ่ยถามอย่างสงสัย “จริงหรือ?”
เฉินชางพยักหน้าพลางหัวเราะ “นี่ไม่ใช่เรื่องโกหก เป็นเรื่องจริงแน่นอน”
เฉินปิ่งเซิงจึงค่อยผ่อนคลายลงได้
“ใช่แล้วหัวหน้า คุณ…ทำไมคุณถึงเหนื่อยจนเป็นแบบนี้ล่ะครับ?” เฉินชางไม่คิดว่าสาเหตุของเหล่าเฉินจะมาจากการผ่าตัด
เฉินปิ่งเซิงทอดถอนใจก่อนจะหัวเราะเสียงขืนพลางส่ายหน้า “สัปดาห์นี้ผมไม่ได้พักผ่อนให้ดีน่ะครับ แต่ละวันนอนไม่ถึงสามสี่ชั่วโมง ทำให้นอนไม่พอทุกวัน คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้”
เฉินชางถามอย่างใส่ใจทันที “เป็นอะไรไปครับ? มีเรื่องอะไรหรือ?”
เฉินปิ่งเซิงมีท่าทีอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ถอนใจออกมาแล้วพูดยิ้มๆ “สงสัยช่วงนี้คงเป็นโรคนอนไม่หลับ กดดันเกินไป ทำให้เป็นโรควิตกกังวลมั้งครับ เลิกงานแล้วผมจะไปซื้อยาสักหน่อย กินยาเดี๋ยวก็หาย”
เฉินชางรู้สึกว่าเหล่าเฉินกำลังโกหกตนจึงพูดไปว่า “ไม่งั้นให้ผมโทรไปแจ้งพี่สะใภ้สักหน่อยเถอะครับ!”
เฉินปิ่งเซิงรีบหยุดเอาไว้ทันที “อย่าๆๆ พี่สะใภ้ของคุณยุ่งกว่าผมอีก อย่าโทรไปรบกวนเธอเลย”
หลี่เป่าซานให้เหล่าเฉินลาพักสามวันเพื่อให้เขาไปพักผ่อนให้ดี
คราวนี้เหล่าเฉินไม่ได้ปฏิเสธ เรื่องครั้งนี้ทำเอาเขาตกใจไปเหมือนกัน ยังดีที่ไม่ได้เป็นการผ่าตัดพิเศษอะไร มิฉะนั้น…ไม่แน่ว่าอาจเกิดปัญหาใหญ่อะไรขึ้นมาก็เป็นได้ ไปพักผ่อนสักหน่อยน่าจะดี
เหล่าเฉินไปพักแล้ว แต่แผนกฉุกเฉินไม่ได้พักด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น หลี่เป่าซานเพิ่งจะติดต่อกับศูนย์ฉุกเฉิน 120 เพื่อร่วมมือกัน ทำให้ต้องจัดการผู้ป่วยเคสถุงน้ำดียากๆ เหล่าเฉินมาป่วยเอาในเวลาสำคัญเช่นนี้ แล้วใครจะทำได้ล่ะ?
หลี่เป่าซานร้อนใจเหมือนถูกไฟเผา
เขาอยู่ผ่าตัดถุงน้ำดีในแผนกทุกวันไม่ได้ ภารกิจของเขาสำคัญกว่า เคสผ่าตัดยากๆ และสำคัญหลายเคสของโรงพยาบาลอันดับสองมีเขาเป็นศัลยแพทย์หลักทั้งนั้น
หรือจะยกเลิกการร่วมมือกับศูนย์ฉุกเฉิน 120 ดี?
หากยกเลิกแล้ว ภายหน้าจะร่วมมือกันอีกได้อย่างไร? คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไป คุณคิดว่าศูนย์ฉุกเฉิน 120 คุยง่ายหรือ!
แต่หากไม่ยกเลิกจะทำอย่างไรได้? หากมีเคสผ่าตัดยากๆ คุณจะจัดการอย่างไร!
ตัวเลือกอันยากลำบากทั้งสองตัวเลือกปรากฏเบื้องหน้าหลี่เป่าซาน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลี่เป่าซานก็รู้สึกกังวล
จะทำอย่างไรดี?
มิฉะนั้น…ลองคุยกับพนักงานที่ศูนย์ฉุกเฉิน 120 ก่อนแล้วกัน ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นวิธีรับมือกับสถานการณ์พิเศษ เชื่อว่าพวกเขาคงเข้าใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ