เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 109

สรุปบท บทที่ 109 อาจารย์สอนมาดี: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

สรุปเนื้อหา บทที่ 109 อาจารย์สอนมาดี – เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet

บท บทที่ 109 อาจารย์สอนมาดี ของ เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่บทความนี้ค่อนข้างดีทีเดียว อย่างน้อยเฉินชางก็ไม่พบปัญหาอะไร!

แน่นอนว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะเฉินชางไม่เคยเขียนวิทยานิพนธ์มาก่อนก็เป็นได้

การจบการศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ในระดับปริญญาตรีไม่จำเป็นต้องเขียนวิทยานิพนธ์ แม้เฉินชางจะเคยอ่านวิทยานิพนธ์ในอินเทอร์เน็ตมาบ้าง แต่เขาคิดว่าวิทยานิพนธ์ที่ฉินเยว่เขียนดีมาก ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือชื่อดูน่าหมั่นไส้เกินไป ไม่สอดคล้องกับนิสัยถ่อมตัวของเขา

เฉินชางพูดขึ้นว่า “คุณจะส่งไปที่นิตยสารไหนหรือครับ?”

ฉินเยว่คิดครู่หนึ่ง “ฉันยังไม่ได้คิดเลยค่ะ ต้องไปให้อาจารย์ดูอีกครั้งก่อนว่าต้องเปลี่ยนอะไรหรือเปล่า”

เฉินชางถามด้วยความแปลกใจ “อาจารย์ของคุณคือใครหรือครับ?”

ฉินเยว่พูดอย่างภาคภูมิใจว่า “สวี่โม่!”

เมื่อพูดจบ ฉินเยว่ก็รอให้เฉินชางชมว่าสุดยอด ทว่าเฉินชางกลับชะงักไปเล็กน้อย คิดอยู่นานจึงค่อยถามขึ้นว่า “สวี่โม่คือใครหรือครับ?”

คำถามนี้ทำให้ฉินเยว่โกรธจนลุกขึ้นแล้วเดินหนีไป!

สีหน้าของเฉินชางดูไร้เดียงสายิ่งนัก ก็เขาไม่รู้จักจริงๆ นี่นา…

ตอนเช้าเฉินชางพาหวังหย่งไปผ่าตัดอีกหลายเคส คราวนี้เฉินชางไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง ทำเพียงยืนแนะนำอยู่ด้านข้าง

เฉินชางพบว่าหวังหย่งมีข้อดีไม่น้อยเลยจริงๆ คนคนนี้มีความสามารถสูง ยิ่งไปกว่านั้นยังให้ความสำคัญกับจุดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งยังเรียนรู้ได้เร็วด้วย!

เรื่องนี้ทำให้เฉินชางรู้สึกประหลาดใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผ่าตัดแบบบาดแผลน้อยด้วยการส่องกล้องของเฉินชาง ภายใต้การแนะนำของเฉินชาง หวังหย่งถึงกับเรียนรู้ไปได้เจ็ดแปดส่วนโดยที่เขาไม่รู้ตัว

ฝีมือในการเย็บแผลของหวังหย่งไม่เลวเลย นี่เป็นข้อดีของพนักงานชั่วคราว

เฉินชางและหวังหย่งไม่เหมือนหวังเชียน อีกฝ่ายมีวุฒิการศึกษาดี ได้สัมผัสกับการผ่าตัดมาตั้งนานแล้ว เมื่อมาที่โรงพยาบาล หมอในแผนกจึงเชื่อมั่นในตัวเขา ส่วนพวกเฉินชางที่เป็นพนักงานตัวเล็กๆ เมื่อมาที่โรงพยาบาลก็ทำแต่งานรักษาและงานพื้นฐานทั่วไป ทำแต่งานง่ายๆ เหนื่อยๆ ที่ไม่ต้องใช้เทคนิคมาก

ดังนั้นในความเป็นจริง ทักษะพื้นฐานของคนเหล่านี้จะดีกว่าพวกหวังเชียนเล็กน้อย ก็เหมือนกับการเย็บแผลที่หวังหย่งทำได้ดีกว่าหวังเชียน

หลังจากผ่าตัดเสร็จหนึ่งเคส หวังหย่งก็เย็บแผลอย่างตั้งใจ เฉินชางพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนกล่าวชม “ทำได้ไม่เลวเลยครับ!”

เมื่อได้ยินคำชมของเฉินชาง หวังหย่งก็รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นเป็นเท่าทวี เพราะเดิมทีความสามารถนี้ก็ได้มาจากเฉินชาง!

หวังหย่งหัวเราะก่อนจะกล่าวประจบประแจง “เป็นเพราะอาจารย์ชางสอนผมมาดีไงครับ วิธีการจัดการบาดแผลแบบนี้มหัศจรรย์จริงๆ ไม่เพียงแต่จะทำให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น ทั้งยังแทบไม่เห็นรอยแผลเป็นเลย ผมคิดว่านี่คงเป็นจุดเด่นของพวกเรา!”

“ชางเอ๋อร์ เดี๋ยวคุณมีชื่อเสียงแล้ว ผมก็เป็นนักเรียนที่น่าภาคภูมิใจคนแรกของคุณใช่ไหมครับ?”

เฉินชางรู้สึกจนใจกับคำว่า ‘อาจารย์ชาง’ แล้ว…บอกไปเป็นร้อยรอบอีกฝ่ายก็ยังไม่เปลี่ยน

เมื่อได้ยินมากเข้า เขาก็รู้สึกว่ามันเพราะเหมือนกันนะ?

เขายิ้ม ช่วงนี้ทั้งสองมักจะไปผ่าตัดด้วยกันเป็นประจำ ความสัมพันธ์จึงใกล้ชิดกันมากขึ้น

……

……

จะอย่างไรจางโหย่วฝูก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องตับและถุงน้ำดี ย่อมมีคอนเน็คชั่นและทรัพยากรไม่น้อย ตั้งแต่ส่งผู้ป่วยกลุ่มใหญ่ไปให้แผนกฉุกเฉินครั้งที่แล้ว จางโหย่วฝูก็ผ่าตัดมากขึ้น รับผู้ป่วยเข้ามาอีกสิบกว่าคน

คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่โรงพยาบาลในเมืองอันหยางส่งมาให้ หากไม่ใช่เคสผ่าตัดที่ยากจนโรงพยาบาลท้องถิ่นทำไม่ไหว ก็เป็นผู้ป่วยที่อยากผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง ทางนั้นจึงส่งมาที่มณฑล

จริงๆ แล้ว แผนกศัลยกรรมทั่วไปมีศักยภาพในการรับผู้ป่วยมาก ทั้งยังมีทรัพยากรสูง เพียงแต่จางโหย่วฝูค่อนข้างเรื่องมากในการรับผู้ป่วย

หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ?

นั่นก็คือผู้ป่วยที่มีปัจจัยอันตรายสูงเขาจะไม่อยากผ่าตัด หรือผู้ป่วยที่วินิจฉัยโรคได้ไม่ชัดเจนเขาก็ไม่เต็มใจรับ

แต่ตอนนี้ในแผนกมีผู้ป่วยน้อย เขาจึงไม่ได้เรื่องมากอีก ทำให้เตียงเต็มก่อนค่อยว่ากัน ไม่อาจปล่อยให้คนอื่นหัวเราะเยาะได้หรอกใช่หรือเปล่า?

ตอนนี้เตียงเต็มแล้ว แต่ก็มีผู้ป่วยที่มีอาการยากและซับซ้อนมาก ฝีมือของหมอก็ไม่เท่ากัน ในการผ่าตัดถุงน้ำดีธรรมดาเคสหนึ่งก็กลายเป็นมะเร็งถุงน้ำดีไปเสียได้ นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนคิดไม่ถึง!

ช่วงนี้โจวเสี่ยวตงไม่ค่อยผ่าตัดถุงน้ำดีมากนักเพราะเรื่องคืนนั้นทำให้เขาตกใจจนขวัญเสีย ตอนนั้นโชคดีที่ได้เจอเฉินชาง แต่หากว่า…หากว่าคืนนั้นเกิดปัญหาขึ้นมาจะทำอย่างไร?

ดังนั้นหลายวันนี้โจวเสี่ยวตงจึงรับผู้ป่วยน้อยมาก และไม่ยอมผ่าตัดผู้ป่วยที่มีผลวินิจฉัยไม่แน่ชัดหรือมีปัจจัยอันตรายมากเกินไป

นี่ทำให้แม่จางดีใจมาก! เธอคิดว่าตัวเองได้พบหมอดีๆ เข้าแล้ว! หลังจากปรึกษากับสามีจึงตัดสินใจไปขอบคุณหมอคนนั้น

ทว่าเธอคิดจะให้ซองแดง หมอคนนั้นก็ไม่รับ คราวที่แล้วอีกฝ่ายปฏิเสธไปแล้ว! มิฉะนั้น…คราวนี้ส่งธงประกาศเกียรติคุณไปให้เลยก็แล้วกัน!

ด้วยเหตุนี้ สองสามีภรรยาจึงหาคนทำธงขึ้นมาผืนหนึ่ง เช้าวันต่อมาก็ส่งไปที่แผนกฉุกเฉิน

คนแบบแม่จางมีไม่น้อยเลยทีเดียว หลายวันมานี้แผนกฉุกเฉินได้รับธงประกาศเกียรติคุณเยอะมาก บนธงประกาศเกียรติคุณยังเขียนขอบคุณหมอเฉินชางไว้ด้วยตัวอักษรสีทองอร่ามอีกด้วย

ฝีมือยอดเยี่ยม มีใจซื่อสัตย์ มากคุณธรรม มากเมตตา!

เมื่อนำไปแขวน ตัวอักษรก็ปรากฏงดงาม

แต่ว่า…นี่ทำให้หลี่เป่าซานไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อก่อนก็มีธงประกาศเกียรติคุณส่งมาบ้าง แต่ไม่ได้มากขนาดนี้ และไม่ได้ดูมีเกียรติขนาดนี้ด้วย!

หรือผู้ป่วยช่วงนี้ค่อนข้างฐานะดี? ครอบครัวมีความต้องการสูง? หรือมีนิสัยชอบส่งธงประกาศเกียรติคุณมาให้คนอื่น?

แต่หลังจากดูให้ละเอียดแล้ว ทำไมธงประกาศเกียรติคุณเหล่านี้จึงเขียนขอบคุณเฉินชางล่ะ ไม่มีแม้แต่ผืนเดียวที่ขอบคุณเขาและเฉินปิ่งเซิง

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

หรือเสี่ยวเฉินจงใจให้คนอื่นทำให้?

แต่นั่นไม่จำเป็นเลย!

แล้วทำไมกันล่ะ?

หลี่เป่าซานคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านี้จึงส่งธงประกาศเกียรติคุณมาให้เฉินชาง

เขาเกาหัว ลูบผมที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดบนศีรษะของตน อดตื่นตะลึงไม่ได้!

ในสมองปรากฏภาพของตน เหล่าเฉิน และเสี่ยวเฉินขึ้นมา

หรือว่า…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ