เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 134

สรุปบท บทที่ 134 ทะลวงสู่ระดับปรมาจารย์: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

สรุปตอน บทที่ 134 ทะลวงสู่ระดับปรมาจารย์ – จากเรื่อง เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet

ตอน บทที่ 134 ทะลวงสู่ระดับปรมาจารย์ ของนิยายSlice of Lifeเรื่องดัง เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บ้านของฉินเยว่อยู่ที่ตึกใกล้ๆ บริเวณนี้ เดินไปแค่ไม่ถึงสิบนาที ดังนั้นจึงกลับไปกินข้าวที่บ้านทุกวัน ส่วนเหล่าเฉิน ช่วงนี้เขาก็ทำตัวแปลกๆ เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วก็จะรีบกลับบ้านทุกวัน เรื่องเช่นนี้เห็นได้ยากจริงๆ ดังนั้นเพื่อนที่กินข้าวกลางวันด้วยกันกับเฉินชางก็มีแค่หวังหย่งและหวังเชียน

หวังเชียนตบไหล่เฉินชางอย่างสนิทสนม “เสี่ยวหย่ง ชางเอ๋อร์ ไปกินข้าวกัน”

หวังหย่งเก็บของเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นเตรียมจะไป

แต่เฉินชางกลับพูดว่า “ตอนเที่ยงผมมีธุระน่ะครับ พวกคุณไปกันก่อนเลย”

ทั้งสองพยักหน้าแล้วเดินออกไปกันก่อน

เฉินชางเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินไปที่ประตูตะวันตกของโรงพยาบาล ที่นั่นมีรถมาเซราติจอดอยู่คันหนึ่ง เมื่อเห็นเฉินชางเดินมา คนขับรถก็รีบวิ่งลงจากรถแล้วเข้ามาต้อนรับ

นี่คงเป็นคนขับรถของจิ้นชิงจื้อ คราวที่แล้วเขาก็เป็นคนขับรถมาส่งเฉินชางที่โรงพยาบาล

เมืองอันหยางถือเป็นเมืองระดับสอง การพัฒนาด้านเศรษฐกิจเป็นไปอย่างธรรมดา จึงเห็นรถหรูราคาสามล้านเช่นนี้น้อยมาก เมื่อรถเช่นนี้มาจอดอยู่ที่ประตูโรงพยาบาลก็ทำให้คนอื่นเหลือบมองมาหลายครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้

หลังจากเลิกงานแล้ว หยวนฟางเดินผ่านประตูตะวันตกพอดี เห็นรถมาเซราติติดป้ายทะเบียนปักกิ่งคันนี้ก็เกิดอิจฉาขึ้นมา บ่นพึมพำไปตามประสาคนริษยาหลายประโยค

แต่ในตอนนี้เอง เขาเห็นคนขับรถลงมาต้อนรับเฉินชาง ถึงกับเปิดประตูหลังให้ด้วย

หยวนฟางมองภาพนี้ด้วยความตื่นตะลึง! หยวนฟางรู้ดีว่าเฉินชางมีพื้นเพครอบครัวอย่างไร

แต่ว่า…นี่…ภาพนี้ทำให้หยวนฟางยากจะรับไหวจริงๆ ทันใดนั้นหยวนฟางพลันเกิดความคิดหนึ่งขึ้นในใจ

หรือว่า…เฉินชางจะไปผ่าตัดฉายเดี่ยวข้างนอก?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยวนฟางยังจะมีอารมณ์กินข้าวที่ไหนอีก เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดถ่ายรูปไปหลายครั้ง จากนั้นจึงโบกรถแท็กซี่คันหนึ่งแล้วให้ขับตามไป

……

……

วันนั้นหลังจิ้นชิงจื้อมาส่งเฉินชางแล้วก็ได้คุยกับหลี่เฮ่อ คำพูดในตอนนั้นของหลี่เฮ่อทำให้เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในใจ คิดว่าตนยังไม่ได้แสดงความขอบคุณต่อเฉินชางให้ชัดเจน

หลี่เฮ่อบอกเขาว่า “สภาพร่างกายของพ่อคุณไม่ค่อยดี เขาเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารเรื้อรังมานาน ระบบการย่อยเสียหายหนัก การผ่าตัดวันนั้นไม่ใช่แค่การผ่าตัดถุงน้ำดีอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการผ่าตัดลำไส้เล็กส่วนต้นเพื่อรักษาลำไส้ที่เสียหายหนักด้วย ยิ่งไปกว่านั้นที่สำคัญที่สุดก็คือ วิธีการผ่าตัดของเฉินชางสุดยอดมาก!”

“พูดแบบนี้ก็คือ การผ่าตัดของเฉินชางช่วยลดอัตราการเกิดปัญหาซ้ำซ้อนในระบบย่อยอาหาร แล้วยังลดความเสียหายและลดพังผืดที่จะเกิดในลำไส้ด้วย น่าเสียดายที่วันนั้นผมสนใจการผ่าตัดของเขาเกินไปเลยลืมถ่ายคลิป”

“ไม่งั้นคลิปวีดีโอการผ่าตัดนั่นต้องกลายเป็นเคสตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมให้โรงพยาบาลสามศูนย์หนึ่งได้แน่”

จิ้นชิงจื้อฟังจบ คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจนัดเฉินชางออกมากินข้าวเพื่อแสดงความขอบคุณเรื่องนั้น

การมาถึงของเฉินชางทำให้ทั้งโต๊ะคึกคักขึ้นมาก ซุนเจิ้งเหว่ย กัวเฉิ งและคนอื่นๆ เป็นแขกประจำของร้านเหล้าทั้งนั้น แต่เฉินชางไม่ดื่มเหล้าเพราะตอนบ่ายยังมีผ่าตัดอีก ส่วนคนอื่นๆ ดื่มไวน์ไปเล็กน้อย ระดับที่ไม่ส่งผลกระทบกับการทำงาน

ตอนจะแยกย้ายกันกลับ จิ้นชิงจื้อขอบคุณเฉินชางครั้งแล้วครั้งเล่า คราวนี้เขาไม่ได้หยิบเงินออกมาแต่จะแอดเพื่อนกับเฉินชางให้ได้ อาหารมื้อนี้ทำให้เฉินชางได้รับค่าความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นมากเลยทีเดียว

ค่าความรู้สึกดีของจิ้นชิงจื้อเพิ่มไปถึงสามสิบห้าแล้ว เฉินชางคิดว่าตัวเลขนี้ไม่น้อยเลย อย่างไรตนก็เป็นคนช่วยชีวิตพ่อเขาไว้ ค่าความรู้สึกดีระดับนี้คงแฝงไปด้วยความรู้สึกขอบคุณด้วย

เฉินชางคิดว่าได้เป็นเพื่อนกับคนที่อาจช่วยเฉินลั่วในอนาคตก็ไม่เลว แต่นั่นเป็นเรื่องหลังจากนี้ เฉินชางหวังว่าเฉินลั่วจะยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเอง

หากพูดด้วยคำของเฉินต้าไห่ก็คือ ลูกผู้ชาย หากเอาแต่พึ่งพาผู้ยิ่งใหญ่ จะเสียโอกาสกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่เสียเอง

เวลาบ่ายสอง เฉินชางเริ่มผ่าตัดอีกครั้ง ตอนนี้เฉินชางใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในการผ่าตัดหนึ่งเคส ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงกว่าเฉินชางก็ผ่าตัดถุงน้ำดีไปแล้วสองเคส! ได้ประสบการณ์ด้านคลินิกมาสามร้อยแต้ม เหลืออีกสองร้อยแต้มก็จะไปถึงระดับสิบแปดแล้ว

เฉินชางทำใจกินยาเพิ่มค่าประสบการณ์ไม่ลงจริงๆ เพราะตอนนี้ระดับทักษะการผ่าตัดกำลังติดคอขวด หาทางทะลวงระดับไปไม่ได้ แม้จะผ่านไปนานแล้ว เฉินชางก็ยังพัฒนาระดับของทักษะไปไม่ได้สักที

เมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้น เฉินชางก็รีบกลับไปที่โรงพยาบาล เนื่องจากหลายวันก่อนเพิ่งรับผู้ป่วยแอดมิทเข้ามาหลายคน และตอนบ่ายเขาก็มีการผ่าตัดจนเต็มเวลาแล้ว

นี่เป็นช่วงที่กำลังเพิ่มระดับ เฉินชางไม่อยากเสียเวลา!

ที่บอกว่ายากนั้น สิ่งสำคัญเป็นเพราะกายวิภาคของถุงน้ำดีซับซ้อนกว่าไส้ติ่ง ซึ่งความแตกต่างนี้ทำให้การผ่าตัดอย่างหนึ่งเป็นการผ่าตัดระดับสอง ส่วนการผ่าตัดอีกอย่างหนึ่งเป็นการผ่าตัดระดับหนึ่งที่เปรียบเหมือนมอนสเตอร์ในหมู่บ้านเริ่มต้น!

บริเวณถุงน้ำดีมีสามเหลี่ยมถุงน้ำดีอยู่ด้วย มีแต่ต้องแยกอวัยวะบริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดีออกจากกันให้ได้ถึงจะลงมือกับถุงน้ำดีได้ นี่เป็นเหมือนกำแพงกั้นถุงน้ำดี ทำให้การกำจัดถุงน้ำดีอยากขึ้น

เรียกว่าการผ่าตัดถุงน้ำดีค่อนข้างยาก เป็นเพราะมีอุปสรรคซับซ้อนขวางอยู่ เสมือนจะตีเมืองที่มีคูน้ำล้อมรอบเมืองเป็นอุปสรรคขัดขวางนั่นแหละ

ไส้ติ่งนี่น่าสงสารจริงๆ เป็นได้แค่มอสเตอร์ในหมู่บ้านผู้เริ่มต้นที่ถูกแยกไปโดดเดี่ยว อาจพูดได้ว่าไส้ติ่งก็เหมือนเมืองที่มีรั้วไม้ล้อมรอบไว้ขู่เล่นๆ เท่านั้น

……

……

จากความรู้ความเข้าใจในแต่ละด้านที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทำให้เฉินชางรู้สึกคล้ายตรัสรู้ขึ้นมา!

[ติ๊ง! ยินดีด้วย ทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดีพัฒนาเป็นระดับปรมาจารย์แล้ว!]

[ทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี: ระดับปรมาจารย์

คุณสมบัติพิเศษ: 1. การผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง 2. ลดการเกิดภาวะอาการหลังการผ่าตัดถุงน้ำดี]

เฉินชางดีใจขึ้นมาทันที!

ทะลวงคอขวดแล้วหรือ?! ยังไม่ทันใช้การผ่าตัดถุงน้ำดีฉบับปรับปรุงก็ใช้ความรู้พวกนี้ทะลวงคอขวดได้แล้ว!

นี่ทำให้เฉินชางทั้งยินดีและดีใจจริงๆ นี่เป็นข่าวดี!

วิธีการผ่าตัดฉบับปรับปรุงนี้กลายเป็นคุณสมบัติพิเศษที่สองของเฉินชางไปแล้ว คุณสมบัตินี้ก็คือช่วยลดการเกิดภาวะอาการหลังการผ่าตัดถุงน้ำดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ