บทที่ 145
ภายในห้องหนังสือ อู๋เสวียอวี้ดึงเก้าอี้ให้ฉินเยว่นั่ง ส่วนตนก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม
“เสี่ยวฉิน เมื่อวานหลังจากคุณกลับไป ผมก็ลองอ่านให้ละเอียดอีกครั้ง รู้สึกว่ายังมีปัญหาอีกเล็กน้อย พอดีเมื่อวานอู๋เจ๋อเพิ่งกลับมา เขาเรียนทางด้านศัลยกรรมทั่วไปเหมือนกันเ พออ่านแล้วก็บอกว่าพวกคำศัพท์เฉพาะยังต้องแก้ไข”
“ผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมทั่วไปก็เลยไปให้เพื่อนร่วมงานช่วยแก้ให้ คุณเอาร่างวิทยานิพนธ์ฉบับเก่าออกมาสิครับ เดี๋ยวผมจะชี้ให้ดู”
ฉินเยว่พยักหน้า รีบหยิบบทความที่พิมพ์ไว้เมื่อวานขึ้นมา ส่งฉบับภาษาอังกฤษและฉบับภาษาจีนไปให้อย่างละเล่ม
อู๋เสวียอวี้หยิบฉบับภาษาอังกฤษขึ้นมาอ่าน เพิ่งจะพลิกเปิดไปไม่กี่หน้าก็ต้องชะงักไป พบว่าด้านบนมีรอยขีดแก้ไว้แล้วจำนวนหนึ่ง
อู๋เสวียอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นจึงอ่านให้ละเอียดอีกครั้ง โครงร่างฉบับนี้มีการแก้ไขที่สมบูรณ์แล้วเขียนไว้ด้านข้าง บางคำถูกแทนที่อย่างสิ้นเชิง บางประโยคก็ถูกแก้ไข…
เขาอ่านไปทีละส่วน หลังจากไตร่ตรองดูครู่หนึ่ งจู่ๆ ก็รู้สึกว่าแก้ได้ดีมาก อาจเหมาะสมกว่าที่เพื่อนของตนแก้ด้วยซ้ำ
เมื่อคิดถึงตรงนี้อู๋ เสวียอวี้ก็ยิ้ม วางวิทยานิพนธ์ลงบนโต๊ะ พูดกับฉินเยว่ว่า “เสี่ยวฉิน คุณแก้วิทยานิพนธ์ได้สุดยอดมากเลยนะครับ คำศัพท์เหล่านี้ผมว่าไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว ใช้ตามนี้เลยแล้วกันครับ คนแก้คงเป็นผู้ที่อยู่ในสายงานด้านศัลยกรรมทั่วไป ใช้คำศัพท์ได้เหมาะสมมากแล้ว”
ฉินเยว่รู้สึกงุนงง “เอ๋? ศาสตราจารย์อู๋หมายความว่า…”
อู๋เสวียอวี้ผลักวิทยานิพนธ์ไปให้ “คุณทำตามส่วนที่เขียนแก้ไว้ด้านบนก็พอแล้วครับ จากนั้นก็เอาไปเผยแพร่ คงไม่มีปัญหาอะไร”
ฉินเยว่รีบพูดว่า “ฉันยังไม่ได้ให้คนอื่นแก้ให้เลยนะคะ ฉัน…ตัวฉันเองยังไม่ได้ดูให้ดีเลย”
เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ฉินเยว่ก็อดหน้าแดงไม่ได้
อู๋เสวียอวี้ชะงักไป “หือ? ถ้างั้นที่เขียนอยู่ด้านบนใครเป็นคนแก้ล่ะครับ?”
ฉินเยว่ไม่เข้าใจ รีบหยิบวิทยานิพนธ์ขึ้นมาดู พลันต้องตาค้างไปเลยทีเดียว
ใครขีดเขียนวิทยานิพนธ์ของฉันจนเละไปหมดเนี่ย!
ทันใดนั้น ฉินเยว่ก็คิดขึ้นมาได้ว เฉินชางเคยบอกว่าเขาอ่านวิทยานิพนธ์ของเธอแล้ว…
หรือว่าจะเป็นเฉินชาง?
ไม่จริงน่ะ?
ไม่ใช่ว่าฉินเยว่ดูถูกเฉินชาง แต่เป็น…เอาเถอะ ก็คือดูถูกนั่นแหละ!
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะการแปลนี้จะต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการแพทย์เฉพาะด้าน แต่เฉินชางจบแค่ปริญญาตรี จะเคยสัมผัสกับภาษาอังกฤษเฉพาะด้านการแพทย์ที่ไหนกัน อาศัยแค่ภาษาอังกฤษระดับมหาวิทยาลัยนิดหน่อยนั่นน่ะหรือ? ไม่ต้องพูดถึงเฉินชางเลย แม้แต่ตนเองก็ยังอ่านไม่ค่อยเข้าใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการแปลเลย…
อู๋เสวียอวี้ยิ้ม “แปลได้ไม่เลวเลยนะครับ คุณกลับไปใช้คอมฯ แก้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”
ฉินเยว่รีบพยักหน้า
จางจิ้นเฟินเห็นฉินเยว่กำลังจะกลับจึงพูดอย่างใส่ใจว่า “เสี่ยวฉิน ให้เสี่ยวเจ๋อไปส่งนะจ๊ะ”
เมื่อบอกลาเรียบร้อย ฉินเยว่ก็รีบกลับไป
……
……
ตอนเช้า กว่าจะผ่าตัดเสร็จไปเคสหนึ่งแล้วกลับมาที่วอร์ดก็เป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้ว เฉินชางมองค่าประสบการณ์ เหลืออีกไม่ถึงสามร้อยคะแนนก็จะเพิ่มระดับแล้ว หากจัดการทุกเคสในวันนี้หมดคงไม่มีปัญหา
หลังจากกลับมาถึงก็พบว่าพยาบาลหลายคนนำโดยฉางลี่น่ากำลังคุยอะไรบางอย่างด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยวอยู่ในห้องทำงานของหมอ!
ฉางลี่น่าถือว่าตนเป็นผู้มีประสบการณ์มากกว่าจึงพูดกับฉินเล่อเล่อว่า “เล่อเล่อ เธอจะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะต้องตบไปสักที ดูสิเขายังจะอวดดีได้อีกหรือเปล่า!”
ฉินเล่อเล่อหน้าแดง “พี่น่า พี่ทำแบบนี้ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาต้องรับผิดชอบนะคะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ