อ่านสรุป บทที่ 152 ของขวัญจบการศึกษา จาก เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet
บทที่ บทที่ 152 ของขวัญจบการศึกษา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 152 ของขวัญจบการศึกษา
เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ เฉินชางก็ดีใจขึ้นมาทันที! นี่เรียกว่ามงคลคู่มาเยือนถึงประตูจริงๆ ดูท่าทางหวังหย่งคงผ่านการประเมินแล้ว
ได้เป็นเพื่อนใกล้ชิดกันมาหลายวัน เฉินชางและหวังหย่งเข้ากันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายผ่านการประเมิน เฉินชางก็รู้สึกดีใจแทนเขา
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดพูดกับหลี่เป่าซานไม่ได้ “หวังหย่งผ่านแล้ว!”
หลี่เป่าซานชะงักไป “คุณรู้ได้ยังไง?”
เฉินชาง “ผมเดาเอา…”
หลี่เป่าซานกลอกตาใส่ “ใช่แล้ว การสอนวิธีการผ่าตัดแบบบาดเจ็บน้อยนั่น ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ? พวกเขาเรียนได้ดีหรือเปล่า?”
เมื่อคิดถึงปัญหานี้ เฉินชางก็รู้สึกเคืองนิดๆ คนกลุ่มนั้นจะฝีมืออ่อนด้อยเกินไปหรือเปล่า? เรียนไม่ได้เลยสักคน!
เฉินชางส่ายหน้า “ไม่รู้ครับ บางทีทุกคนคงไม่เคยลอง ต้องมีโอกาสลองดูก่อนถึงจะดี!”
หลี่เป่าซานพยักหน้าแล้วเดินออกไป
ในที่สุดเฉินชางก็มีเวลาตรวจสอบแล้วว่าอะไรคือระบบศิษย์อาจารย์!
[ติ๊ง! กระตุ้นระบบศิษย์อาจารย์!]
[ศิษย์ปัจจุบัน: หวังหย่ง ระดับ 15 รายละเอียด…]
[โซ่ตรวนศิษย์อาจารย์: โบนัสค่าประสบการณ์ เมื่อทั้งสองเข้าร่วมการผ่าตัดเดียวกันจะได้รับโบนัสค่าประสบการณ์ 20%]
[ของขวัญจบการศึกษา: ในทุกๆ 5 ระดับของหวังหย่ง คุณจะได้รับของขวัญจบการศึกษา 1 ชิ้น]
เฉินชางสำรวจเสร็จก็รู้สึกเบิกบานใจ
โซ่ตรวนศิษย์อาจารย์เป็นของดี ทำให้เพิ่มระดับเร็วขึ้น ส่วนของขวัญจบการศึกษา เฉินชางคิดว่าตนรู้สึกคาดหวังนิดๆ เผื่อในแพคเกจมีของดีอะไร เช่น…อุปกรณ์ระดับเทพ?
จากนั้นจึงเปิดกดดูรายละเอียดของหวังหย่ง เมื่ออ่านไปครู่หนึ่งก็พบว่าค่อนข้างน่าพอใจ จะอย่างไรก็เป็นหมอดูแลไข้ระดับสิบห้าคนหนึ่ง ทักษะส่วนใหญ่อยู่ระดับกลาง มีทักษะระดับสูงอยู่หนึ่งทักษะ ก็คือการเย็บผิวหนัง คงเรียนรู้มาในตอนที่ติดตามหลี่เป่าซานแล้วต้องรับผิดชอบการเย็บปิดช่องท้องหลังผ่าตัดเสร็จ จึงทำให้เขาเย็บแผลได้ดี
นอกจากนี้ยังมีรางวัลอีกอย่างหนึ่ง ก็คือระดับเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ และการฝึกอบรมทักษะหนึ่งครั้ง
คราวนี้เฉินชางมีบทเรียนแล้ว การฝึกอบรมไม่อาจใช้ตามใจชอบ เพราะการฝึกอบรมอาจช่วยให้ทักษะพัฒนาไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบ หากเสียเปล่าคงเสียใจมาก
รางวัลอีกอย่างหนึ่งคือระดับเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ตอนนี้เขายังไม่กดใช้ จะต้องทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพให้เสร็จก่อนจึงจะใช้ได้
……
……
ความจริง ตอนที่สวีเหวินปินออกมาจากแผนกฉุกเฉิน เขาก็รู้สึกเสียใจนิดๆ!
เฉินชางมีลักษณะต่างจากที่เขาคิดไว้มาก
หมอหนุ่มแผนกฉุกเฉินคนหนึ่งจะคิดวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ขึ้นมาได้ที่ไหนกัน หรือเขาเรียนมาจากคนอื่น?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สวีเหวินปินก็ทอดถอนใจ จะมีอัจฉริยะมากขนาดนั้นที่ไหนกัน?
เรื่องการพัฒนาวิธีผ่าตัดแบบใหม่นี้ ไม่ต้องพูดถึงตัวสวีเหวินปินเองเลย แม้แต่หัวหน้าแผนกศัลยกรรมทั่วไปของโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลหรือรองผู้อำนวยการหลิวซือฉีก็ยังทำได้ยาก และนี่ยังเป็นการผ่าตัดที่เห็นได้บ่อยที่สุดด้วย
ความจริง ยิ่งเป็นการผ่าตัดที่พบเห็นได้บ่อย ก็ยิ่งปรับปรุงวิธีการผ่าตัดได้ยาก เพราะความก้าวหน้าของมันไปถึงจุดอิ่มตัวแล้ว หากคิดจะเดินก้าวต่อไป พูดได้ว่ายิ่งเดินก็ยิ่งยาก!
แต่หวังหย่งคนนี้มีศักยภาพจริงๆ ไม่เพียงแต่จะมีความสามารถในการเรียนรู้เท่านั้น ฝีมือการผ่าตัดก็ยอดเยี่ยมมาก หากมีโอกาสคงได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด หวังว่าพบกันคราวหน้าเขาจะก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สวีเหวินปินก็อดส่ายหน้าไม่ได้ ตนโลภเกินไปแล้ว แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองมีหัวหน้าแผนกอย่างหลี่เป่าซานอยู่แล้ว ส่วนคนอื่นๆ ดูเหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่อ
เวลาเที่ยง เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโรงพยาบาลก็ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการทดสอบ หมอในแผนกฉุกเฉินทั้งฝ่ายศัลยกรรมและอายุรกรรมต่างก็ผ่านการประเมินทั้งหมด หวังหย่งเป็นหมอฝ่ายศัลยกรรมของแผนกฉุกเฉิน เขาผ่านการทดสอบไปได้อย่างราบรื่น นับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับแผนกฉุกเฉิน
ปกติทุกคนทำงานอยู่ด้วยกันทั้งวัน จะอย่างไรก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงรู้สึกยินดีกับการสอบผ่านของหวังหย่ง
หลี่เป่าซานตบกระเป๋าเงิน ตัดสินใจเลี้ยงข้าว! นี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก หลี่เป่าซานไม่ใช่คนที่ชอบความครึกครื้น แต่ก็ยังรู้สึกดีใจด้วย!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยวนฟางก็อยากให้เปลี่ยนวัน จึงยิ้มกระอักกระอ่วน “หวังหย่ง วันเสาร์ผมเป็นเวรน่ะครับ! คุณว่า…”
หวังหย่งได้ยินดังนั้นก็คิดว่าหยวนฟางไม่อยากไป จึงพูดยิ้มๆ “ได้ครับ ไม่เป็นไร หยวนฟาง คุณก็เข้าเวรไปเถอะ ถึงอย่างไรงานก็สำคัญกว่า!”
หยวนฟางตะลึงไปแล้ว!
ผมหมายความว่าอย่างนั้นหรือ? ผมอยากบอกว่าผมเป็นเวร จะเปลี่ยนวันได้หรือเปล่า?
แต่อยู่ดีๆ คุณก็บอกว่าไม่เป็นไร นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
เปลี่ยนวันเพื่อเฉินชางได้ แต่สำหรับผมไม่เป็นไรเรอะ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยวนฟางก็ถลึงตาใส่เฉินชางอย่างดุดัน
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของหยวนฟาง: -10!]
เฉินชางไม่สะท้านสะเทือน
ผมชินนานแล้วละ…
แต่แบบนี้จะไม่ฆ่าผมใช่ไหม?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็คิดว่า ต่อไปตนตอนพบหยวนฟาง ทางที่ดีควรใส่เสื้อกาวน์เอาไว้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ค่าป้องกันบวกสามอาจมีประโยชน์…
คืนนี้เฉินชางเป็นเวรกลางคืน เมื่อผ่านช่วงหกโมงเย็นไปแล้ว คนก็เริ่มน้อยลง
หยวนฟางและเฉินชางอยู่ในห้องตามลำพัง เฉินชางรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันเย็นยะเยือกบางๆ ไม่รู้ว่าอากาศเย็นหรือตนสวมชุดน้อยชิ้นไป
ประมาณหนึ่งทุ่มกว่าก็มีผู้ป่วยเวียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เฉินชางเริ่มยุ่งกับงาน
ปกติเวรกลางคืนเป็นหน้าตาศักดิ์ศรีของแผนกฉุกเฉิน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ