บทที่ 157 การเสียดสีครั้งใหญ่!
ปีนี้ฝางยงหลินอายุแปดสิบเจ็ดปีแล้ว เขาทุ่มเททำงานเพื่อโรงพยาบาลมาชั่วชีวิต ไม่มีลูกชายลูกสาว หลังจากภรรยาตายไปก็ทุ่มเทให้กับงานรักษาโดยไม่มีห่วงอะไรอีก
ชั่วชีวิตนี้ของเขาไม่มีเกียรติยศหรือคำยกย่องมากมาย ไม่ได้รับคำชมเชยมากนัก แต่ยังคงช่วยเหลือผู้คนอย่างซื่อสัตย์
บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานมานานมักเป็นเช่นนี้ สร้างประโยชน์ให้ผู้คนอยู่ในความมืด
ภายใต้การนำของผู้อำนวยการฝาง เขานำหมอชรากลุ่มหนึ่งมาก่อตั้งโรงพยาบาลอันดับสอง ฝ่าลมฝนอุปสรรคมาห้าสิบปีจนหยัดยืนอยู่ในฝั่งเหนือบนถนนของเมืองอันหยางได้อย่างมั่นคง กลายเป็นโรงพยาบาลชั้นนำสามอันดับแรกของเมืองอันหยางได้ในที่สุด
ชายชราคนนี้เมื่อเกษียณไปแล้วก็ยังมาปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ยังคงยืนหยัดช่วยแผนกฉุกเฉินทุกวันพุธ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดก็ไม่อาจหยุดยั้งเขาได้!
เมื่อปีที่แล้ว ชายชราคนนี้เกิดภาวะเซลล์สมองตีบจึงเริ่มเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านพักคนชรา เดือนเมษายนปีนั้นก็มีอาการดีซ่านอย่างหนัก เมื่อตรวจบีแสกน[1]จึงพบว่ามีก้อนนิ่วขนาดใหญ่ที่ถุงน้ำดีจริงๆ อาการเจ็บปวดบริเวณท้องก็ชัดเจนยิ่งขึ้น สุขภาพของชายชราจึงย่ำแย่ลงเรื่อยๆ!
นี่คือชายชราที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่เมืองอันหยางมาชั่วชีวิต ทว่าตอนเขาเจ็บป่วยในยามชรากลับไม่มีโรงพยาบาลใดรับตัวไว้! นี่คือการเสียดสีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลไม่กล้ารับ! โรงพยาบาลตงต้าสาขาหนึ่งและสองก็ไม่กล้ารับ! เมืองอันหยางที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สำหรับชายชราคนนี้เลย ทุกคนจึงทำได้เพียงรับตัวชายชรากลับมาที่โรงพยาบาลอันดับสอง
หลี่เจี้ยนเหว่ย ห่าวซวี่เลี่ยง เถามี่ ฉินเสี้ยวหยวนและคนอื่นๆ ต่างหน้าดำคร่ำเครียด เงียบงันไม่พูดจา!
แผนกศัลยกรรมทั่วไปของโรงพยาบาลอันดับสองอยู่ในสถานการณ์เช่นไร ทุกคนต่างรู้ดีแก่ใจ หากไม่ใช่ว่ามีจางโหย่วฝูคอยค้ำจุน ระดับของแผนกคงไม่แตกต่างอะไรจากโรงพยาบาลชั้นสอง
ชั่วชีวิตนี้ฝางยงหลินไม่มีลูก เขาเป็นเสาหลักให้คนในโรงพยาบาลอันดับสองมาตลอด ทั้งหลี่เจี้ยนเหว่ย ห่าวซวี่เลี่ยง เถามี่และฉินเสี้ยวหยวน ต่างก็เป็นนักเรียนของผู้เฒ่าฝางคนนี้
ช่วงแรกๆ คณะแพทย์ไม่ได้แบ่งสายละเอียดขนาดนั้น เมื่อฝางยงหลินเรียนจบก็กลับมาก่อตั้งโรงพยาบาลอันดับสองที่เมืองอันหยาง คนเหล่านี้ล้วนเป็นแพทย์ชั้นยอดที่เขาสั่งสอนอบรม ต่อมาเมื่อมีการแบ่งเป็นแผนกต่างๆ ก็ส่งพวกเขาออกไปศึกษาเพิ่มเติมจึงมีทุกวันนี้ได้!
แม้คนเหล่านี้แต่ละคนจะมีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการและหัวหน้าแผนกต่างๆ ทว่ากลับไม่อาจส่งฝางยงหลินไปที่โรงพยาบาลดีๆ ได้เลย ช่างเป็นเรื่องน่าขันจริงๆ!
นั่นเพราะไม่มีใครรับ! พวกเขาก็ไม่กล้ารับไว้!
ฝางยงหลินเป็นวีรบุรุษของวงการแพทย์แห่งเมืองอันหยาง อายุเกือบเก้าสิบแล้ว สุขภาพร่างกายย่ำแย่ ทั้งโรคตับแข็ง เบาหวาน ความดันสูง เส้นเลือดโป่งพอง ไม่ว่าโรคอะไรก็เป็นทั้งนั้น!
ตอนนี้ยังมีอาการดีซ่านและถุงน้ำดีอักเสบกำเริบ ตามมาด้วยนิ่วในถุงน้ำดีอีก! แบบนี้ใครจะกล้าผ่าตัดเล่า? หากเกิดปัญหาในการผ่าตัดขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ?
เนื่องจากอาการดีซ่านย่ำแย่ลงทุกวัน ร่างกายชราของฝางยงหลินจึงเลวร้ายลงเรื่อยๆ ฉินเสี้ยวหยวนร้อนใจแต่กลับทำอะไรไม่ได้!
ตอนนี้ไม่ว่าหมอคนใดก็ไม่กล้าออกมาท้าทายเรื่องเช่นนี้ ต่อให้ฉินเสี้ยวหยวนไปขอร้องคุณปู่คุณย่าก็ไม่มีประโยชน์ ต่อให้หลี่เจี้ยนเหว่ยเป็นศัลยแพทย์ขึ้นชื่อในมณฑลก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทุกคนไม่กล้ารับภารกิจนี้
แม้กระทั่งการผ่าตัดก็ไม่มีใครกล้าทำ หากผู้เฒ่าฝางตายเพราะการผ่าตัดจริงๆ คงโด่งดังไปทั่วทั้งมณฑลตงหยาง!
ชายชราที่รักษาผู้คนมาชั่วชีวิตไม่ส่งสัญญาณใดๆ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างมีใบหน้าย่ำแย่ ขณะที่อับจนหนทาง จึงจัดประชุมเพื่อการตรวจรักษาร่วมกันของหมอทั่วทั้งมณฑลขึ้นมา
ตอนนี้ภายในห้องประชุมฉุกเฉินมีผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลต่างๆ ในเมืองอันหยางนั่งอยู่หลายสิบคน ทุกคนต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของศัลยศาสตร์ด้านต่างๆ
แม้กระนั้นผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้กลับทำได้เพียงมองดูอาการของฝางยงหลินโดยไม่เอ่ยคำใด
จะอย่างไรเฉียนเลี่ยงก็เป็นผู้นำในด้านตับและถุงน้ำดี เขากล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “ผู้อำนวยการฉิน รองผู้อำนวยการหลี่ สถานการณ์เป็นแบบนี้นะครับ ผู้เฒ่าฝางอายุมากเกินไปและมีอาการป่วยมาก ทนการผ่าตัดได้ไม่นาน เมื่อทำการผ่าตัดจะมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงเก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์! ดังนั้น…พวกคุณควรไตร่ตรองอย่างระมัดระวังนะครับ!”
ฉินเสี้ยวหยวนถือเป็นศิษย์คนโตของฝางยงหลิน เป็นนักเรียนที่สนิทกันที่สุด หากให้ผู้เฒ่าฝางมาแนะนำด้วยตัวเองคงบอกว่านี่คือลูกบุญธรรมของผม
ฉินเสี้ยวหยวนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้เพราะการช่วยเหลือของอาจารย์ ดังนั้นฉินเสี้ยวหยวนจึงเห็นฝางยงหลินเป็นเหมือนพ่อแท้ๆ ของตน
ไม่ใช่เพราะเป็นอาจารย์หนึ่งวันก็เปรียบเหมือนเป็นบิดาชั่วชีวิตเท่านั้น แต่เป็นบิดาที่เขาจะไว้ทุกข์ เฝ้าโลงและส่งศพด้วยตัวเอง!
หลี่เจี้ยนเหว่ยอายุน้อยกว่าฉินเสี้ยวหยวนหลายปี เรื่องเช่นนี้จึงต้องให้ฉินเสี้ยวหยวนตัดสินใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ