เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 170

สรุปบท บทที่ 170 ช่วยชีวิตเด็ก!: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

อ่านสรุป บทที่ 170 ช่วยชีวิตเด็ก! จาก เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet

บทที่ บทที่ 170 ช่วยชีวิตเด็ก! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 170 ช่วยชีวิตเด็ก!

ใกล้ถึงเวลาแลกเวรแล้ว เมื่อหลี่เป่าซานเข้ามา ทุกคนก็พากันเงียบเสียงลง

หลี่เป่าซานมองไปยังทุกคนโดยเฉพาะเฉินชาง จากนั้นจึงพยักหน้ากล่าวว่า “เอาละทุกคน ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเฉินชางแล้วนะครับ ต่อไปนี้ตั้งใจทำงานให้ดีก็พอ เรื่องในคราวนี้ก็เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้พวกเรา

นี่แสดงให้เห็นว่าระบบการเข้าเวรของพวกเรายังไม่เหมาะสมนัก ยังขาดการพูดคุยติดต่อและความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานและอื่นๆ อีก…นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องปรับปรุง”

ทุกคนพากันพยักหน้ารับ ตอนนี้หยวนฟางจึงค่อยทอดถอนใจ ยังดีที่ไม่เกี่ยวอะไรกับตน ทว่าในตอนนี้เอง จู่ๆ หลี่เป่าซานก็พูดขึ้นว่า “หยวนฟาง”

หยวนฟางสั่นเล็กน้อย รีบลุกขึ้นยืน “ครับ หัวหน้าแผนก!”

หลี่เป่าซานพยักหน้า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไปอยู่ศูนย์ตรวจร่างกายนะครับ ตอนนี้ศูนย์ตรวจร่างกายของโรงพยาบาลกำลังขาดคน คุณไปช่วยที่นั่นนะครับ”

เมื่อเขากล่าวเช่นนี้ออกมา หยวนฟางพลันรู้สึกตื่นตะลึง….

ศูนย์ตรวจร่างกายหรือ…

ศูนย์ตรวจร่างกายของโรงพยาบาลอันดับสองเป็นฝ่ายที่ค่อนข้างว่าง ในหนึ่งปีมีงานเพียงไม่กี่เดือน นี่หมายความว่าปีหนึ่งทำเงินได้ไม่เท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นที่สำคัญที่สุดก็คือไม่มีอนาคต เป็นงานประเภททำเลี้ยงชีพรอความตายไปวันๆ เป็นที่แรกๆ สำหรับนักศึกษาจบใหม่

นอกจากนักศึกษาจบใหม่แล้ว คนที่มาทำงานที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนที่ถูกทำโทษ คนที่ไม่อยากทำงานหนัก หรือไม่ก็พยาบาลที่ถูกโอนย้ายเข้ามา เพราะศูนย์ตรวจร่างกายของโรงพยาบาลอันดับสองนั้น…ธรรมดามากจริงๆ!

ผมที่เป็นศัลยแพทย์เรียนจบปริญญาโท แต่กลับถูกสั่งให้ไปทำงานที่ศูนย์ตรวจร่างกาย…

หยวนฟางรู้สึกหัวใจเย็นยะเยือก! เขาคิดว่าตัวเองหลบเลี่ยงได้แล้วเสียอีก ใครกันแน่ที่เป็นคนขุดออกมา?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยวนฟางก็ขบคิดอย่างหวาดกลัว

นี่เป็นการแก้แค้นย้อนหลังหรือ?

เขามองไปยังเฉินชาง

ทั้งหมดเป็นเพราะแก! ตอนนี้คงพอใจแล้วสินะ?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยวนฟางก็ไม่กล้าเงยหน้า จะขายหน้าเกินไปแล้ว!

แต่ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น กลับพบว่าไม่มีใครสนใจตนเลย…ทันใดนั้นเขาพลันเข้าใจขึ้นมาทันที ที่นี่ไม่มีใครเป็นห่วงเขา ได้ยินข่าวนี้แล้วจะทอดถอนใจกันสักครั้งก็ไม่มีเชียวหรือ? น่าเสียดายที่ไม่มีจริงๆ!

หลังจากทุกคนได้ยินข่าวนี้ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะหันมาสนใจ ทำราวกับไม่มีหยวนฟางอยู่ด้วย

พริบตานั้นหยวนฟางพลันรู้สึกว่าการจากไปของตนไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรของแผนก นี่ตนจะล้มเหลวในการเป็นมนุษย์เกินไปหรือเปล่า? เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยวนฟางก็รู้สึกหดหู่…

ไปก็ช่างเถอะ! จะอย่างไรที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของตน

……

……

การจากไปของหยวนฟางไม่ได้สร้างคลื่นลมอะไรให้แผนกเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้รู้สึกว่างานยุ่งขึ้นเพราะขาดคนไปหนึ่งคน ตรงกันข้าม งานทุกอย่างยังดำเนินไปอย่างลื่นไหลเป็นขั้นเป็นตอน ราวกับไม่มีคนโศกเศร้ากับการออกไปของหยวนฟางเลย

ทุกคนต้องทำงาน ควรทำอะไรก็ทำอย่างนั้น

อันเยี่ยนจวินเดินเข้ามาในห้องอย่างเร่งรีบ “หัวหน้าแผนกครับ อุปกรณ์เกี่ยวกับศัลยกรรมทางมือที่สั่งมาถึงแล้วครับ อีกไม่นานพวกเราก็พัฒนาการผ่าตัดได้แล้ว!”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ อันเยี่ยนจวินก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ในที่สุดก็ได้เวลาพัฒนาแผนการใหญ่ของตนแล้ว

ปกติงานที่เยอะที่สุดก็คืองานประเภทรักษาบาดแผลภายนอกหรืองานเย็บแผล เขาเป็นศัลยแพทย์ทางมือแต่กลับไม่มีห้องผ่าตัดที่เหมาะสม ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกระอักกระอ่วน ในที่สุดวันนี้อุปกรณ์ที่จำเป็นในห้องผ่าตัดก็มาถึงแล้ว!

เด็กน้อยมีอายุประมาณสามสี่ขวบเท่านั้น เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาลเอง

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็รีบเดินเข้ามาอุ้มเด็กวิ่งตรงไปยังห้องส่องกล้องทันที!

“ไปห้องส่องกล่องกับผม ดูว่าจะเอาสิ่งแปลกปลอมออกมาได้หรือเปล่า!”

ชายคนนั้นชะงักไปเล็กน้อย รีบตามเฉินชางไปยังห้องส่องกล้องทันที!

หากตอนนี้เฉินชางปล่อยให้อีกฝ่ายอุ้มลูกด้วยตัวเอง อาจทำให้สิ่งแปลกปลอมเคลื่อนตัวลึกเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ ถึงตอนนั้นอาจทำให้เรื่องวุ่นวายขึ้น…เนื่องจากหลอดลมของเด็กค่อนข้างแคบ และยางลบก็ไม่นับเป็นของเล็ก หากยางลบยังอยู่บนๆ ก็ดี ยังส่องกล้องและใช้แหนบคีบออกมาผ่านทางหลอดลมได้

แต่ตอนนี้เด็กถูกอุ้มจนโคลงเคลงไปมาเป็นเวลานาน เฉินชางกลัวว่าสิ่งแปลกปลอมจะเคลื่อนตัวลึกลงไป หากเป็นเช่นนั้นอาจนำสิ่งแปลกปลอมออกมาผ่านการส่องกล้องไม่ได้แล้ว!

ทุกวินาทีที่ผ่านไปเปรียบเสมือนการต่อสู้กับมัจจุราช!

เฉินชางวิ่งไปอย่างรวดเร็ว! เมื่อมาถึงประตูห้องส่องกล้อง เฉินชางก็พูดกับพยาบาลว่า “รีบเปิดประตูทีครับ เด็กมีอาการหายใจไม่ออก ต้องส่องกล้องเพื่อนำสิ่งแปลกปลอมออกมาจากหลอดลม!”

หลายคนชะงักไป แต่ก็รีบเปิดประตูห้องส่องกล้องให้ เฉินชางวิ่งเข้าไปพลางพูดกับชายคนนั้นว่า “คุณอย่าเพิ่งเข้ามา!”

ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบห้องส่องกล้องคือเซียวเหอ ยังอายุไม่มาก เพิ่งจะสี่สิบต้นๆ เป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่!

เมื่อเห็นเฉินชางอุ้มเด็กเข้ามาก็ดวงตาหดเกร็ง แม้จะไม่ได้ถามแต่ก็พอเดาได้คร่าวๆ “ทางนี้ครับ!”

เฉินชางเห็นดังนั้นก็รีบอุ้มเด็กเดินเข้าไปทันที!

“หัวหน้าเซียว ผมมาจากแผนกฉุกเฉินครับ เด็กเพิ่งถูกส่งตัวมา เขายัดเอายางลบเข้าไป ตอนนี้ลมหายใจอ่อนแรง ผมกลัวว่าจะทนได้ไม่นานแล้ว!”

เซียวเหอได้ยินดังนั้นก็รีบพยักหน้า ลุกขึ้นเปิดเครื่องมือพลางพูดว่า “อุ้มเด็กมาครับ ดูว่าเอาออกมาได้หรือเปล่า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ