เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 184

สรุปบท บทที่ 184 หาอาจารย์ที่ปรึกษา!: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

สรุปเนื้อหา บทที่ 184 หาอาจารย์ที่ปรึกษา! – เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet

บท บทที่ 184 หาอาจารย์ที่ปรึกษา! ของ เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 184 หาอาจารย์ที่ปรึกษา!

[ติ๊ง! ภารกิจความปรารถนาของจูหย่งวั่งเสร็จสิ้น

ได้รับรางวัล: 1. คะแนนทักษะ +5 2. ถุงนำโชค 1 ถุง 3. ระดับ +1]

[ติ๊ง! ภารกิจทดสอบจรรยาบรรณแพทย์เสร็จสิ้น ได้รับคะแนนทักษะ +3]

จูหย่งวั่งนำพาของรางวัลกองโตมาให้เฉินชาง

ทว่าเฉินชางกลับไม่รู้สึกว่าต้องละอายใจอะไรที่ได้รับรางวัล

สิ่งที่ตนควรจะทำตนก็ได้ทำไปหมดแล้ว พยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว

ถึงขั้นที่เฉินชางรู้สึกว่าสำหรับครอบครัวนี้แล้ว การจากไปของจูหย่งวั่งไม่นับว่าเป็นเรื่องเลวร้าย

จูหย่งวั่งเองใช้ทางเลือกสุดท้ายในการกำหนดตอนจบในชีวิตที่น่าสงสารของเขาด้วยตอนจบที่ค่อนข้างมีเกียรติศักดิ์ศรี

มีคนกล่าวว่า คนเป็นแพทย์ถ้าไม่เคยเจอผู้ที่ตนรักษาเสียชีวิตมาก่อน ก็เป็นแพทย์ที่ยังขาดประสบการณ์

ต้องมองชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่จีรัง ถึงจะฝึกใจให้แข็งแกร่งดุจดั่ง ‘หัวใจศิลา’ ได้!

สมัยที่เฉินชางเป็นแพทย์ฝึกหัด ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายคนหนึ่ง แต่เขาก็เสียน้ำตามาไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขารู้สึกว่าน้ำตาที่ไหลไม่ใช่เพราะตนเองที่อยากร้องไห้ แต่สุดท้ายก็เป็นเพราะตนเองนั่นแหละที่รู้สึกเสียใจจนร้องไห้ออกมา

แพทยศาสตร์คือความเจ็บปวด

เพราะคุณต้องรับรู้ความเจ็บปวดของคนอื่น

แพทยศาสตร์คือความสุข

เพราะคุณช่วยชีวิตคนอื่นจากความเจ็บป่วยได้

ทว่าถึงที่สุดแล้ว

สุดท้ายแพทยศาสตร์ยังคงความบริสุทธิ์

เราทำได้ แค่มีตัวเราก็พอ

ให้กำลังใจให้คนเรียนแพทย์ ส่งเสริมให้มุ่งมั่นตั้งใจ!

บ่ายวันเสาร์เฉินชางไม่ได้ไปที่คลินิกศัลยกรรมจางจื้อซิน เขาอยากจะให้ตนเองได้หยุดพักสักหน่อย

ช่วงนี้เขาเหนื่อยมากเกินไปแล้ว แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลย

เงินในกระเป๋าสตางค์ก็มีไม่น้อยแล้ว รายได้ที่ได้จากระบบกับงานนอกได้มาไม่น้อย แน่นอนว่ารายได้ส่วนใหญ่มาจากเศรษฐินี…

จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่ารายได้ที่ได้จากคนกลุ่มนี้เป็นรายได้ที่สูงมากจนน่ากลัว ถ้าอยากร่ำรวยต้องจับคนกลุ่มนี้ไว้ให้มั่น ดูแล้วจะต้องขยายช่องทางทางธุรกิจของตนเองให้กว้างขึ้นสักหน่อย

ช่วงสองวันมานี้ เถียนเซียงหลานกับฟู่อวี้ฟางโทรหาเขาทุกวัน สอบถามเขาเกี่ยวกับเรื่องเสริมหน้าอก เฉินชางเลื่อนไปเป็นวันพรุ่งนี้ เมื่อทั้งสองคนได้ยินเช่นนี้ก็ดีอกดีใจยิ่ง

ช่วงเที่ยงเฉินชางกลับบ้านไปจัดบ้าน ช่วงบ่ายไปที่ย่านธุรกิจการค้าเทียนเจีย เขาตัดสินใจจะซื้อเสื้อผ้าให้ตนเองเพิ่มสักสองสามตัว

ถึงอย่างไรเสียก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ห่างหายจากมหาวิทยาลัยไปนานถึงสามปี ได้กลับไปเรียนกะทันหัน ความรู้สึกแปลกใหม่กับความรู้สึกแห่งการรอคอยยังคงเปี่ยมล้นในหัวใจ

เฉินชางค่อนข้างตั้งตาคอยที่จะได้พบกับเพื่อนใหม่ที่เรียนด้วยกัน

แม้แต่หัวใจที่เงียบสงบมานานก็พลันร้อนรุ่มกระสับกระส่ายขึ้นมาอีกครั้ง จนทำให้เฉินชางรู้สึกว่าสาเหตุที่วันนี้อากาศที่ร้อนอบอ้าวไม่เกี่ยวอะไรกับฮอร์โมน

ในช่วงบ่าย จู่ๆ กวนเหว่ยก็โทรมาหาเขา

เฉินชางเพิ่งจะกดรับสาย กวนเหว่ยก็รีบพูดทันทีว่า “เสี่ยวเฉิน วันนั้นผมลืมคุยเรื่องนี้กับคุณเลย คุณเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาหรือยัง”

เฉินชางชะงักงัน “ยังเลยครับ…แต่อาจารย์กวนครับ ถึงยังไงผมก็เข้าเรียนแบบฝากชื่ออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมมากก็ได้ อาจารย์ที่เก่งๆ ของมหาวิทยาลัยเราเจ้ากฎเกณฑ์มาก ผมไม่เข้าตาแน่ อีกอย่าง ผมไม่มีเวลาไปทำงานกับอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ที่ปรึกษาคงไม่อยากได้ผมแน่ครับ”

เมื่อกวนเหว่ยได้ฟังเช่นนั้น เขาก็เคร่งขรึมในทันใด ก่อนจะโน้มน้าวด้วยความตั้งใจจริงจัง “เสี่ยวเฉิน ความคิดนี้ของคุณผิดมหันต์ ผมจะบอกอะไรคุณให้นะ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์ที่ปรึกษากับตัวนักศึกษาปริญญาโทเป็นความสัมพันธ์ที่ดี เรียกได้ว่าเป็นพ่อแม่คนที่สองของคุณเลยนะ! เป็นคนสำคัญในชีวิตคุณ! หลังจากที่นักศึกษาของพวกเขาเรียนจบแล้ว พวกเขาก็จะจัดหางานให้ หรือเป็นหลักประกันให้คุณตอนเรียนต่อปริญญาเอกได้เลย!…”

“…ดังนั้น คุณต้องจริงจังกับการเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาหน่อย! แล้วก็ต้องหาอาจารย์ที่ปรึกษาที่เก่งและไว้ใจได้ ถ้าไม่ใช่คนที่มีตำแหน่งสูง อย่างเช่นผู้อำนวยการโรงพยาบาล ก็ต้องเป็นคนที่มีการศึกษาสูง อายุไม่มาก แต่มีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์”

กวนเหว่ยทำงานเกี่ยวกับนักศึกษาปริญญาโทมาสองปีกว่า เข้าใจในงานสายนี้ลึกซึ้งกว่าเฉินชางมาก ก็เลยโน้มน้าวเฉินชางด้วยความจริงใจ ให้คำแนะนำที่ดีกับเขา

กวนเหว่ยหัวเราะร่วน โบกไม้โบกมือแสดงให้เห็นว่าไม่ต้องเกรงใจ

ตารางข้อมูลอาจารย์ที่ปรึกษาที่คัดมามีรูปภาพ ประวัติการศึกษา หัวข้อสำคัญ วิทยานิพนธ์ ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา

เฉินชางเปิดอ่านไปทีละหน้า แล้วเขาก็พบว่าบางคนเป็นคนที่เขารู้จัก

เฉียนเลี่ยง หลิวซือฉี หลี่เจี้ยนเหว่ย บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่เปี่ยมศักยภาพ อันที่จริงในตอนที่เฉินชางเห็นเฉียนเลี่ยง เขาค่อนข้างลังเล ถึงอย่างไรเสียภารกิจกราบอาจารย์ก็ปรากฏขึ้นบนตัวของเฉียนเลี่ยง ถ้าเขาเลือกเฉียนเลี่ยงเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาอีก จะเสียเปล่าหรือเปล่านะ

เฉินชางรู้สึกว่าการฝากตัวเป็นศิษย์กับอาจารย์ที่ปรึกษาก็จะได้รับข้อความเปลี่ยนอาชีพอยู่แล้ว ส่วนเฉียนเลี่ยง ขอแค่เฉินชางทำภารกิจเขียนวิทยานิพนธ์ให้สำเร็จ มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับใบรับรองเปลี่ยนอาชีพเป็นด้านศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ค่อนข้างที่จะเสียเปล่าอย่างไม่ต้องสงสัย!

หลี่เจี้ยนเหว่ยน่าพิจารณา คุณสมบัติใช้ได้ แถมยังเป็นยอดฝีมือในวงการศัลยกรรมกระดูก เฉินชางเคยมีปฏิสัมพันธ์กับเขาอยู่สองสามครั้ง ถ้าตนไปขอให้เขาเซ็นรับเป็นศิษย์ เขาคงไม่ปฏิเสธ ถึงอย่างไรเสียตนก็เคยช่วยชีวิตอาจารย์ของเขาไว้

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็แยกหลี่เจี้ยนเหว่ยไว้ข้างซ้ายสำหรับคัดเลือก

ส่วนหลิวซือฉีเฉินชางไม่ได้พิจารณา ถึงอย่างไรเสียคุณสมบัติของหลิวซือฉีกับเฉียนเลี่ยงก็ซ้ำกัน ในเมื่อมีเฉียนเลี่ยงแล้ว หลิวซือฉีก็ถูกปัดตกไป!

หลังจากที่เฉินชางอ่านจนครบแล้ว เขาก็เจออาจารย์ที่ปรึกษาที่อายุแค่สามสิบปีเท่านั้น

แค่ดูประวัติ เฉินชางก็ถึงกับตกตะลึงในทันใด!

มหาวิทยาลัยแพทย์แคโรลินสกา[1]?

เฉินชางพบว่าตนเองดูจะเป็นคนไร้การศึกษามากขึ้นทุกทีแล้ว!

เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาต้องอาศัยไป่ตู้ในการข้อมูลวารสาร ‘ปลูกถ่ายตับ’

มาวันนี้ชื่อมหาวิทยาลัยยังต้องพึ่งไป่ตู้อีก…

เพียงแต่ว่าในครั้งนี้ ทันทีเสิร์ชชื่อมหาวิทยาลัยไป เฉินชางก็ถึงกับตกตะลึงจนตาค้าง!

มหาวิทยาลัยแพทย์แคโรลินสกา เมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน!?

[1] มหาวิทยาลัยแพทย์แคโรลินสกา (Karolinska Institutet) ตั้งอยู่ที่ประเทศสวีเดน เป็นมหาวิทยาลัยแพทย์ที่มีชื่ออันดับโลก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ