บทที่ 253 ตามหาบอส
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เฉินชางมาโรงพยาบาลแต่เช้า
ทันทีที่ก้าวเข้าประตูใหญ่ เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
[ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจรายวัน: เย็บเส้นเอ็นสำเร็จ 10 เคส
รางวัลเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น: อบรมหลักสูตรพิเศษวิธีเย็บเส้นเอ็นของเคสเลอร์]
เฉินชางชะงักทันใด!
เขารู้สึกว่าตนเองค่อนข้างหายใจไม่ทั่วท้อง เขารู้สึกตะหงิดใจว่าครั้งนี้ระบบต้องการจะเล่นใหญ่!
ดูเหมือนว่าระบบต้องการจะให้ตนมีความเชี่ยวชาญในการเย็บเส้นเอ็นทุกวิธีอย่างนั้นหรือ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดตื่นเต้นฮึกเหิมขึ้นมาไม่ได้!
วิธีเย็บเส้นเอ็นได้รับการพัฒนามาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปีแล้ว ทุกคนต่างมีความรู้เกี่ยวกับเส้นเอ็นลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ
และในทุกยุคทุกสมัย สิ่งที่ทุกคนรู้เกี่ยวกับเส้นเอ็นก็แตกต่างกันไปตามแต่ละสมัย
นับตั้งแต่สมัยยุคเริ่มแรกถึงยุคเจ็ดศูนย์ สมัยค้นพบกฎของแรงดึงกลับในหลักฟิสิกส์ มาจนกระทั่งในยุคเก้าศูนย์ที่ศาสตราจารย์ทังพัฒนาวิธีการเย็บเส้นเอ็นแบบมัดหกปม โดยมีการปรับปรุงพัฒนาแนวคิดและวิธีการอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งในปัจจุบันนี้ การป้องกันการเกิดพังผืดหลังการซ่อมแซมฟื้นฟูเส้นเอ็นได้กลายเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการวิจัย
ทั้งเรื่องนี้ยังเป็นสิ่งที่ศัลยแพทย์ด้านมือส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในการค้นคว้าวิจัยเพื่อการปรับปรุงพัฒนาในยุคปัจจุบัน
จู่ๆ เฉินชางก็สัมผัสได้ถึงความเป็นศัลยแพทย์ด้านมือ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ส่ายหน้าทันที ผมแค่ต้องการจะเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการศัลแพทย์ที่เชี่ยวชาญการผ่าตัดรอบด้าน จะมัดมือชกให้ผมเชี่ยวชาญแค่ด้านศัลยกรรมมือแค่ด้านเดียวแบบนี้ได้อย่างไรกัน!
ในตอนนี้ จู่ๆ เฉินชางก็คิดสิ่งยอดเยี่ยมขึ้นมาได้: คร่ำหวอดในวงการศัลแพทย์ เริ่มจากต้นจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการศัลยกรรมมือ!
หลังจากที่เฉินชางเดินมาถึงห้องทำงานแล้ว เขาก็พบว่าฉินเยว่มาถึงแล้ว กำลังนั่งวาดๆ เขียนๆ อยู่ที่โต๊ะ
ฉินเยว่ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา หลังจากที่เห็นว่าเป็นเฉินชางแล้ว เธอก็รีบลุกขึ้นวิ่งตรงเข้าไปหาเขาด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ
“เฉินชาง เร็วเข้าๆ ฉันมีอะไรจะให้คุณดู”
เฉินชางชะงัก “อะไรน่ะ”
ฉินเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อวานหลังจากที่ฉันกลับบ้านไปแล้ว ฉันนึกถึงเรื่องคลิปวิดีโอของคุณขึ้นมา มีบางอย่างที่ฉันค่อนข้างคลุมเครือไม่เข้าใจ ฉันก็เลยไปที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดดึงคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดออกมา เลยพบว่ามีบางขั้นตอนที่ภาพในกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ไม่ชัดเจนพอ ฉันเลยเอากล้องจากที่บ้านมาเอง!”
หลังจากที่ฉินเยว่กล่าวจบ ฉินเยว่ก็หยิบกล้องขึ้นมาราวกับเป็นของล้ำค่า “แต่น แตน แต๊น! เห็นหรือยัง”
เฉินชางตกถึงกับตกตะลึง มองกล้องขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าฉินเยว่ เฉินชางถามด้วยความทึ่ง “นี่…เหมาะสม?”
ฉินเยว่หัวเราะออกเบาๆ “มีอะไรไม่เหมาะสม! คุณดูนี่ ขาตั้งกล้องฉันก็เอามาแล้ว ถึงเวลาผ่าตัด เราก็กล้องไปตั้งไว้…
…ฉันตัดสินใจแล้วว่าต่อไปจะถ่ายคลิปผ่าตัดของคุณเอาไว้ จากนั้นค่อยกลับไปวิเคราะห์แล้วสรุปผลออกมา ดึงแต่ละรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าสนใจมาวิเคราะห์เปรียบเทียบ บางทีพวกเราอาจได้อะไรจากคลิปที่ถ่ายไว้ก็ได้!”
เมื่อเฉินชางเห็นฉินเยว่ดูตื่นเต้นฮึกเหิม เขาก็อดปวดใจไม่ได้ “เมื่อคืนนอนหลับเต็มอิ่มหรือเปล่า”
ฉินเยว่ถอนหายใจออกมา “ฉันมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นเอ็นไม่ลึกเท่าไหร่ ช่วงนี้ฉันก็เลยหาความรู้เสริมทุกคืน สืบค้นข้อมูลต่างๆ ฉันพยายามไม่เป็นตัวถ่วงของคุณไง!”
เฉินชาง “ทำไมคุณมาเช้าขนาดนี้”
ฉินเยว่หัวเราะแหะๆ ไม่ตอบอะไร ถ้าเธอมาสายเธอจะขโมยกล้องที่บ้านมาได้หรือไง กล้องตัวนี้เป็นลูกรักของฉินเสี้ยวยวน พ่อของเธอเชียวนะ!
เฉินชางหัวเราะ กล่าวด้วยความจริงใจ “ขอบใจนะฉินเยว่!”
ฉินเยว่ทำเสียงชิ “คำขอบคุณไม่อาจจับต้องได้!”
ในตอนนี้หวังหย่งเดินเข้ามาพอดี ใบหน้าที่เต็มความเหนื่อยล้าจากการเข้าเวรดึก เมื่อเห็นกล้องในมือเฉินชาง เขาก็ถึงกับชะงัก!
“เอ๊ะ? อาจารย์เฉิน…คุณพกกล้องติดตัวด้วย”
คำถามที่ธรรมดาทั่วไปมาก แต่ทำไมเฉินชางถึงรู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลในคำพูด?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ