บทที่ 264 ได้รับรางวัลท่วมท้นมาก! (2)
หลังจากที่คนทุกคนกลับมาถึงห้องทำงานแผนกศัลกรรมมือแล้ว เฉินชางก็เห็นว่าผู้คนอันเนืองแน่นกำลังจะแยกย้ายสลายตัวแล้ว
สำหรับเรื่องคำชมเชยจากผู้อื่น เฉินชางไม่สนใจเลยสักนิด สิ่งเหล่านี้ไม่ได้นำมาซึ่งรางวัลที่แท้จริง มีแต่เพิ่มความยุ่งยากให้ก็เท่านั้น
สำหรับเรื่องชื่อเสียง…
ในเวลาที่คนคนหนึ่งไม่มีความสามารถมากพอที่จะรักษาชื่อเสียงเอาไว้ได้ เรื่องยุ่งวุ่นวายก็จะตามมา
ขอแค่สิงอวี่จำได้ว่าตนเป็นผู้มีพระคุณแค่ก็พอแล้ว แฟนคลับพวกนั้น…ช่างเถอะ ยามที่แฟนคลับเกรี้ยวกราดขึ้นมา จากคนกันเองก็กลายเป็นศัตรู! (ผมไม่ได้หมายถึงพวกคุณนะครับ พวกคุณไม่ใช่แค่แฟนหนังสือขอผม แต่พวกคุณคือผู้มีอุปการะคุณของผมด้วย)
เฉินชางหาถานจงหลินเจอแล้ว “หัวหน้าถานครับ ผมจะกลับแล้วนะครับ”
ถานจงหลินชะงัก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็กล่าวขึ้นว่า “คุณไปที่ห้องทำงานกับผมก่อน”
หลังจากพูดจบ ถานจงหลินก็พาเฉินชางไปที่ห้องทำงานหัวหน้า
“เสี่ยวเฉิน…ผม…ผมมีเรื่องหนึ่งที่จะคุยกับคุณ” ถานจงหลินกล่าว
เมื่อเฉินชางเห็นว่าถานจงหลินดูมีลับลมคมใน เฉินชางก็ชะงักเล็กน้อย “หัวหน้าครับ เรื่องอะไรหรือครับ”
ทันใดนั้นเสียงประตูถูกเคาะก็ดังขึ้น
ถานจงหลินมองเฉินชาง “คุณรอเดี๋ยว ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ”
หลังจากพูดจบ ถานจงหลินก็ลุกไปเปิดประตู
บุคคลที่ยืนอยู่หน้าประตูคือหวังอวี้ซาน ฉางหงเหล่ย และสิงอวี่
ถานจงหลินชะงัก “มีอะไรหรือครับ”
หวังอวี้ซานเดินเข้ามาในห้องทำงาน ปิดประตูแล้วกวาดสายตามองทุกคนหนึ่งที จากนั้นก็มองไปที่เฉินชาง กล่าวว่า “เสี่ยวเฉิน ผมพาสิงอวี่มาหาคุณเพราะมีเรื่องหนึ่งที่อยากคุยกับคุณ…
…คืออย่างนี้นะครับ คุณฟังแล้วอย่าเพิ่งใจร้อน คุณพิจารณาความคิดเห็นของผมสักนิดก็พอแล้วครับ คืออย่างนี้นะครับ การผ่าตัดในวันนี้คุณเป็นผู้ผ่าตัด แต่พวกเราไม่อยากให้คุณโอ้อวดมากเกินไป ถึงยังไงสังคมในทุกวันนี้เป็นยังไงคุณก็รู้ ถ้าเรื่องผ่าตัดของคุณกระจายออกไป คุณจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังมากแน่ แล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่าอนาคตเคสผ่าตัดของคุณก็จะเยอะมากตามไปด้วย…
…แต่กรณีแบบเดียวกันนี้ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทว่าชื่อเสียงกลับทำให้การพัฒนาศักยภาพของคนของคนเหล่านั้นหลังจากมีชื่อเสียง…ไม่ดีเท่าที่ควรนัก คุณยังหนุ่ม อายุเพิ่งจะยี่สิบเจ็ด แต่ละด้านของชีวิตเพิ่งจะเริ่มขึ้น ช่วงอายุเท่านี้เป็นช่วงที่พัฒนาได้รวดเร็วที่สุด ผมอยากให้คุณอาศัยช่วงเวลานี้ตั้งใจลับคมตนเอง ยกระดับศักยภาพของตนเองให้สูงขึ้น อย่าให้สิ่งเร้าภายนอกมารบกวน…
…ดังนั้นที่ผมมาหาคุณก็เพื่อจะบอกว่า จะยังไม่ให้สิงอวี่ประกาศต่อสาธารณะชั่วคราวว่าใครเป็นคนผ่าตัดให้ คุณ…คุณคิดว่ายังไงครับ”
หวังอวี้ซานคิดใคร่ครวญอย่างรอบคอบแทนเฉินชางจริงๆ เฉินชางยังหนุ่มมาก อายุแค่ยี่สิบเจ็ด สำหรับวงการแพทย์แล้วการมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ใช่เรื่องดีนัก!
อาชีพแพทย์แตกต่างจากอาชีพที่ต้องเน้นกลุ่มแฟนคลับ ศักยภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำโฆษณา
ถ้าคุณเป็นเน็ตไอดอล เป็นนักร้อง จังหวะนี้เป็นโอกาสที่คุณต้องคว้าไว้ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จัก
แต่คุณเป็นหมอ แพทย์มีหน้าที่ช่วยชีวิตคน ในทุกวันปักหลักอยู่ที่หน้าเตียงผ่าตัด จำเป็นต้องเก็บเกี่ยวความรู้ทางการแพทย์อย่างไม่หยุดยั้ง
หวังอวี้ซานตระหนักในเรื่องนี้ดี ช่วงชีวิตที่พัฒนาไปเร็วที่สุดของเขาคือช่วงก่อนมีชื่อเสียง นับตั้งแต่เขาได้เป็นหัวหน้า ทำให้เขาต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ และเข้าร่วมสมาคมต่างๆ
สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาศักยภาพในหน้าที่การงานและสังคมของหวังอวี้ซานครั้งใหญ่หลวง
แต่…เมื่อถามใจตนเอง หวังอวี้ซานพบว่าตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ตนอาศัยบุญเก่าจริงๆ!
ดังนั้นเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หวังอวี้ซานจึงโน้มน้าวใจเฉินชางด้วยความจริงใจ หวังว่าเฉินชางจะเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ มิฉะนั้น…ถ้าพลาดช่วงเวลาทองคำไปแล้วก็แก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว
แน่นอนว่าหวังอวี้ซานทำได้แค่ต้องพูดออกไปเท่านั้น แต่เฉินชางคือผู้ตัดสินใจ ถ้าเฉินชางต้องการชื่อเสียง หวังอวี้ซานก็ไม่ขัดขวางอะไร แต่จะคอยให้สนับสนุนความช่วยเหลือ
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับเฉินชางแล้ว!
ฉางหงเหล่ยพยักหน้า เขามองเฉินชางพร้อมกล่าวขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน ฉันขอพูดความรู้สึกในใจนะ ถ้าคุณอยากมีชื่อเสียง พวกเราช่วยผลักดันคุณได้ แต่เราจำเป็นต้องให้คุณคิดใคร่ครวญให้ดีก่อน”
สิงอวี่เป็นนักเล่นเปียโนระดับซุปเปอร์สตาร์ แต่เขาก็เข้าในสิ่งเหล่านี้ดี เขายืนลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กล่าวโน้มน้าวใจว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ