เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 268

บทที่ 268 ดูผมอวดเก่งเงียบๆ

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เฉินชางจะหาเวลาพักผ่อนได้ จู่ๆ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากหวังอวี้ซาน โรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่ว

“เสี่ยวเฉิน? คุณส่งแบบฟอร์มนั้นมาให้ผมหน่อยครับ ผมจะได้ให้เจ้าหน้าที่ทำเรื่องให้คุณโดยเร็วที่สุด แล้วจะได้ส่งใบรับรองไปให้คุณ”

เฉินชางถึงเพิ่งนึกเรื่องสมัครเข้าร่วมสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือแห่งชนชาติจีนขึ้นมาได้

เฉินชางหัวเราะด้วยความเก้อเขิน “ขอโทษนะครับผู้อำนวยการหวัง ช่วงนี้ผมยุ่งจนลืมเรื่องนี้ไปเลย”

หวังอวี้ซานหัวเราะเฮฮา “ไม่เป็นไรครับ ผมก็แค่เร่งคุณนิดหน่อย แล้วก็มีเรื่องงานประชุมประจำปีที่จะขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ในปีนี้ ถึงเวลานั้นขอเชิญคุณมาร่วมงานด้วยนะครับ”

หลังจากที่วางสายไปแล้ว เฉินชางก็พิมพ์แบบฟอร์มที่หวังอวี้ซานส่งมาให้ออกมา

แล้วก็นั่งกรอกข้อมูลตรงนั้น ข้อมูลที่ต้องกรอกเป็นข้อมูลตามรูปแบบของแบบฟอร์มปกติ

แต่ยิ่งกรอกเฉินชางก็ยิ่งรู้สึกข้อมูลของตนเองไม่ค่อยน่าชื่นชมนัก เฉินชางกรอกไปจนกระทั่งถึงช่องสุดท้ายคือตำแหน่งที่สมัคร: คณะกรรมการบริหารสมาคม

ประวัติการศึกษา: ปริญญาตรี

ทิศทาง: การรักษาฉุกเฉิน? ดูจะไม่ค่อยเหมาะ?

ความสำเร็จทางวิชาการ: ไม่มี

บทความวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่ได้รับการตีพิมพ์: ไม่มี

ผลงานประพันธ์: ไม่มี

เข้าร่วมการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม: ไม่มี

รางวัลได้เคยได้รับ: ไม่มี

จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าตนแค่ส่งชื่อแซ่กับหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้หวังอวี้ซานก็พอแล้ว ส่วนเรื่องกรอกแบบฟอร์มไม่ต้องแล้วกัน ถึงอย่างไรก็เป็นคำว่า ‘ไม่มี’ ทุกช่อง…

คนอื่นเป็นเยาวชนดีเด่นห้าประการ ส่วนตนเป็น ‘เยาวชนไม่มีความดีเด่นสักประการ’!

“ตำแหน่งที่สมัคร: คณะกรรมการบริหารสมาคม”

เมื่อถึงช่องตำแหน่งที่สมัครช่องสุดท้าย เมื่อเฉินชางมองคำว่า ‘คณะกรรมการบริหารสมาคม’ ที่ตนกรอกลงไป เขาก็ค่อนข้างรู้สึกอับอายจนหน้าแดง

ดูจะมากเกินไปหรือเปล่า

รอบทความวิจัยตีพิมพ์สำเร็จก่อนก็แล้วกัน ใช้วิธีแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งภายหลังก็ได้ ขืนระบุตำแหน่งที่สมัครไปตอนนี้เลยคงเขินแย่!

เมื่อเห็นช่องให้กรอกประวัติความสำเร็จด้านหลังแบบฟอร์ม จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกไม่อยากกรอกอีกต่อไป อยากจะขย้ำแบบฟอร์มแล้วทิ้งลงถังขยะข้างๆ เสียเลย

ตรงส่วนนี้ไม่กรอกจะดีกว่า ขืนกรอกลงไปคุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณจะมีโอกาสได้เป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือแห่งชนชาติจีน

ถ้ากรอกลงไปไม่ต้องถามเลยว่ากรรมการผู้คัดเลือกจะเห็นตนเข้าตาหรือไม่เข้าตา แม้แต่ตนเองก็ไม่อยากมอง!

จะต้องกล่าวให้รู้ไว้เลยว่าสมาคมแห่งนี้มีมาตรฐานสูงมาก เป็นถึงสมาคมศัลยกรรมระดับประเทศ

เฉินชางถอนหายใจออกมา เลือกที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปหนึ่งรูป กัดฟันฝืนใจส่งไปให้หวังอวี้ซาน

คุณเป็นคนให้ผมส่ง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!

ถึงยังไงก็ไม่ใช่ผมที่เป็นฝ่ายยื่นใบสมัคร แต่เป็นคุณที่เป็นเชื้อเชิญ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น อาการวิตกกังวลกับใบหน้าที่แดงเพราะความอับอายก็จางหายไป

ในตอนนี้หวังเซียนเดินผ่านมาพอดีแล้วก็บังเอิญเห็นเฉินชางกำลังกรอกอะไรอยู่ ก็เลยชะเง้อคอมองด้วยความอยากรู้ ทันใดนั้นหวังเชียนก็ส่งเสียงเอะอะดังขึ้น

“โอ้โห! ชางเอ๋อร์ เก่งสุดยอด จะได้เป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือแห่งชนชาติจีนแล้ว แถมยัง…สมัครตำแหน่งคณะกรรมการด้วย? เอาจริง? คุณยังไม่บ้าใช่มั้ย!”

เสียงเอะอะของหวังเชียนดึงดูดวามสนใจของคนจำนวนมาก มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความอยากรู้

อันเยี่ยนจวินเป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือแห่งชนชาติจีน หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นแล้ว เขาอดกล่าวพร้อมหัวเราะไม่ได้ว่า “เสี่ยวเฉินคุณสมัครเข้าร่วมสมาคมสาขาตงหยางก่อนก็ได้ครับ แล้วคุณก็ค่อยสมัครสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือทั่วประเทศ แล้วก็เรื่องตำแหน่งคณะกรรมการ…ต้องสมัครครับ มณฑลตงหยางของเรา หัวหน้าสวีโรงพยาบาลตงต้าสาขาสองเป็นคณะกรรมการบริหารสมาคม ถ้าคุณอยากจะเข้าร่วมสมาคมในมณฑล ผมช่วยแนะนำให้คุณได้นะครับ อ้อ จริงด้วยครับ หัวหน้าถานจงหลินเป็นรองประธานสมาคม คุณลองคุยกับเขาดูว่าได้หรือเปล่า”

สือน่าเองก็หัวเราะ “เสี่ยวเฉิน ชีวิตคนเราต้องเดินทีละก้าว กินก็ต้องกินทีละคำ”

ฉินเยว่ไม่พูดอะไร ถึงอย่างไรก็เห็นเฉินชางคุยโวมาเยอะ แล้ววิธีของเฉินก็ถูกคิดออกมาได้ สมัครเป็นคณะกรรมการบริหารสมาคมจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างหยอกล้อเฉินชาง เธอก็อดหัวเราะไม่ได้ แล้วก็แซวเฉินชางว่า “เฉินชาง คุณควรสมัครตำแหน่งประธานสมาคม!”

เมื่อเฉินชางเห็นว่าทุกคนต่างก็หยอกล้อเขาด้วยความสนุกสนาน เขาก็หัวเราะด้วยความเขินอาย “ผมแค่ลองสมัครดูน่ะครับ”

ถึงอย่างไรเสียการใช้เส้นสายก็ไม่ใช้เรื่องดีอะไร…

เป็นไปไม่ได้ที่เฉินชางจะบอกกับคนอื่นว่าเขามีเส้นสาย ประธานสมาคมเป็นคนพาผมเข้าสมาคม ถ้าบอกแบบนี้ออกไปยิ่งฟังดูเป็นคุยโวโอ้อวดมากขึ้นอีก

เฉินชางอดเฉินถอนหายใจไม่ได้ บางครั้งเวลาที่เรารู้อยู่เต็มอกว่าเราเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากแต่ก็ไม่อาจพูดออกมาได้ ก็ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดเหมือนคนท้องผูก รู้เต็มอกว่าตนเองมีดีมีความสามารถมาก แต่ก็แสดงออกมากไม่ได้…

เมื่อหวังเชียนเห็นคำว่า ‘ไม่มี’ อยู่เต็มแบบฟอร์ม เขาก็ถอนหายใจออกมา “น้องชาย อย่าหมดกำลังใจ เอ่อ…ภารกิจใหญ่หลวงระยะทางหมื่นลี้ ถ้าคุณอยากจะสมัครเข้าสมาคมจริงๆ เดี๋ยวผมก่อตั้งสมาคมขึ้นมาสักหนึ่งสมาคม ถึงยังไงทุกวันนี้ก็มีสมาคมเถื่อนเต็มไปหมด!”

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องทำงานของแผนกฉุกเฉิน

หลังจากที่ถานจงหลินเดินเข้ามาในห้องทำงานแล้ว เขาก็เห็นอันเยี่ยนจวินพอดี จึงอดหัวเราะไม่ได้ “หัวหน้าอันอยู่ด้วยหรือครับเนี่ย”

หลังจากที่อันเยี่ยนจวินเห็นถานจงหลินแล้ว เขาก็ชะงักก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็รีบลุกขึ้นทันที เขาเราะพร้อมกล่าวขึ้นว่า “หัวหน้าถาน? ทำไมคุณถึงมาที่นี่ครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

ถานจงหลินยิ้ม “ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไร ผมมาดูว่าเสี่ยวเฉินอยู่หรือเปล่า”

เมื่อเฉินชางเห็นถานจงหลิน เขาก็ลุกขึ้นด้วยความสงสัย “หัวหน้าถานครับ คุณมาหาผม?”

เมื่อถานจงหลินเห็นว่าเฉินชางกำลังเขียนอะไรอยู่ เขาก็หัวเราะ “เสี่ยวเฉิน คุณยุ่งอยู่หรือครับ”

เฉินชางส่ายหน้า “ไม่ยุ่งครับ”

ถานจงหลินไม่อาจบอกได้ว่าเขาจะมาขโมยเคล็ดลับ

ช่วงสองวันมานี้แผนกของถานจงหลินฝึกฝนการเย็บเส้นเอ็นอย่างต่อเนื่อง ทักษะในการเย็บเส้นเอ็นพัฒนาขึ้น ทว่ามักจะรู้สึกว่ายังหาวิธีในการพลิกแพลงผสมผสานวิธีการต่างๆ ให้ได้ดั่งใจปรารถนาแบบเฉินชางไม่ได้

สิ่งนี้ทำให้ถานจงหลินค่อนข้างกลัดกลุ้มใจ คิดไปคิดมา การทดลองทำอะไรโดยไม่คำถึงหลักการที่ถูกต้องคงไม่ใช่แนวทางที่ดีสักเท่าไหร่!

ถึงอย่างไรเสียตอนนี้ในแผนกก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องจัดการ ก็เลยตัดสินใจมาขอคำแนะนำจากเฉินชาง

ทว่าเมื่อมาถึงแล้วกลับรู้สึกไม่ค่อยเหมาะสมนัก เพราะถึงอย่างไรช่วงระยะนี้ตนก็รวบผู้ป่วยทุกรายไปจนหมด แถมยังไม่ได้แนะนำโรงพยาบาลอันดับสองให้ผู้ป่วยฟังด้วย กลัวว่าถ้าเจอหลี่เป่าซาน จะต้องโดนต่อว่าชุดใหญ่แน่!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ