บทที่ 270 หมอเสี่ยวเฉินของฉันบอกว่ารักษาได้
“เราจะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถครับ!”
หลังจากที่กัวจื้อหย่งได้ยินคำนี้ เขาก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจทันใด
คำพูดของถานจงหลินให้ความรู้สึกเหมือนกับตอนที่เขาเห็นเด็กสามคนนั้นบนทางม้าลาย เขาวิ่งเข้าไปช่วยเด็กๆ โดยไม่มีความลังเลใดๆ
เรื่องบางเรื่องทำไปแล้วก็ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว
รู้สึกเสียใจภายหลังที่ต้องมาบาดเจ็บแบบนี้หรือไม่ บอกเลยว่าไม่
แค่สมองสั่งการว่าต้องช่วยก็ช่วย
เหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นเกิดขึ้นเร็วมาก ถ้ามัวแต่วางตัวสุขุมเยือกเย็น คงเป็นวีรบุรุษไม่ได้…
กัวจื้อหย่งไม่ได้อยากเป็นวีรบุรุษ แต่ในเวลานั้น เขาเมินเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าไม่ได้จริงๆ
ทุกคนล้วนมีความเลื่อมใสศรัทธาในอาชีพตนเอง
ก็เหมือนที่ถานจงหลินกล่าวออกมาว่าจะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ
กัวจื้อหย่งต้องการเป็นแค่ครูบาอาจารย์ที่ดีคนหนึ่ง ปกป้องคุ้มครองนักเรียนของเขาให้ดี
ถ้าถามว่าเขารู้สึกเสียใจภายหลังที่ต้องมาบาดเจ็บเช่นนี้ไหม
เขาตอบได้เลยว่า เขาไม่เสียใจ!
เมื่อคิดถึงรอยยิ้มของเด็กทั้งสามคนนั้น กัวจื้อหย่งก็อดยิ้มไม่ได้ แม้แต่หลังมือที่เลือดไหลเนื้อเยินบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ในเวลานี้ก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว
นี่คือรสชาติของชีวิต!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ กัวจื้อหย่งก็ยกยิ้มหัวเราะออกมา “ฝากด้วยนะครับหัวหน้า”
ถานจงหลินพยักหน้า
หลังจากที่ตรวจผู้ป่วยเสร็จแล้ว ถานจงหลินก็ร่วมหารือกันในแผนกว่าจะรักษาอย่างไรดี!
สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือวางแผนการรักษาที่ยอดเยี่ยมที่สุด
โจวหยางค่อนข้างเข้าใจในอาการของกัวจื้อหย่ง เขากล่าวก่อนว่า “ผมมองว่าสิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือการฟื้นฟูของเส้นประสาทหลังมือ หลอดเลือด เส้นเอ็นหลังการรักษา นอกจากเส้นประสาทแกนสำคัญอย่างเส้นประสาทเรเดียลกับเส้นประสาทอัลน่าแล้ว สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือฟังก์ชันการทำงานกับการรับรู้ความรู้สึกของระบบการทำงานของระบบประสาทกับหลอดเลือดแดงเล็กๆ โดยรอบ สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟู…
…การทำงานของตำแหน่งหลังมือจำเป็นต้องอาศัยการทำงานของเส้นประสาทเล็กกับหลอดเลือดแดงเล็กเหล่านั้นที่อยู่โดยรอบ แน่นอนว่าการปลูกถ่ายผิวหนังแก้ปัญหาได้มาก แต่…อาการของผู้ป่วยยังมีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นฟูเองได้ ผมมองว่าเราควรพักเรื่องปลูกถ่ายผิวหนังเอาไว้ก่อน แล้วพยายามรักษาสิ่งที่ยังมีอยู่ให้เต็มที่”
…
รองหัวหน้าถอนหายใจออกมา “หมอโจวพูดถูกครับ แต่อาการของผู้ป่วยในตอนนี้ค่อนข้างสาหัส คิดจะรักษาฟื้นฟูเส้นประสาทกับหลอดเลือดโดยรอบ นี่เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ความละเอียดรอบคอบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเราไม่ได้มีเชี่ยวชาญด้านการซ่อมแซมเส้นประสาทกับหลอดเลือดเป็นพิเศษ คิดจะซ่อมแซมเส้นประสาทกับหลอดเลือดโดยรอบ นับว่าเป็นกระบวนการที่ยากมาก”
การผ่าตัดซ่อมแซมเส้นประสาทกับหลอดเลือดโดยรอบ จัดว่าเป็นการผ่าตัดแบบจุลศัลยกรรม[1] การผ่าตัดประเภทนี้ยากกว่าการต่อนิ้วมาก
หลอดเลือดแดงเล็กโดยรอบมีเส้นเลือดที่แตกกิ่งก้านสาขาออกมาอีกจำนวนมาก เส้นประสาทโดยรอบยิ่งละเอียดอ่อนเข้าไปใหญ่
การรักษาฟื้นฟูยิ่งยากหลายเท่าตัว
เมื่อถานจงหลินได้ยินสิ่งที่ทุกคนหารือกัน สีหน้าของเขาก็ดูเคร่งขรึม เราพยายามรักษาให้สุดกำลังความสามารถกันเถอะ!
ช่วงเวลาในการผ่าตัดที่ดีที่สุดต้องดำเนินการภายในสี่ชั่วโมง เพราะถึงอย่างไรการขาดเลือดหล่อเลี้ยงเป็นระยะเวลานาน สุดท้ายวิธีรักษาก็จะเหลือแค่วิธีปลูกถ่ายผิวหนังเพื่อคงสมรรถภาพการทำงานของมือ
ซึ่งวิธีปลูกถ่ายผิวทำได้แค่เฉพาะทำให้มือดูเป็นมือ แต่การใช้งานเคลื่อนไหวอาจไม่ครบ
คิดไปคิดมา จู่ๆ ถานจงหลินก็นึกถึงเฉินชางขึ้นมา
เสี่ยวเฉิน…เจอกับสถานการณ์เช่นนี้เขาจะจัดการยังไงนะ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ลุกขึ้นทันที ส่งรูปภาพบาดแผลกับฟิล์มเอกซเรย์ทั้งหมดของกัวจื้อหย่งไปให้เฉินชาง
ถานจงหลิน: [เสี่ยวเฉิน อาการแบบนี้ คุณมองว่ายังไงครับ]
เฉินชางกำลังผ่าตัดอยู่ ไม่มีเวลาดูโทรศัพทือถือเลยสักนิด
เมื่อถานจงหลินเห็นว่าเฉินชางไม่ตอบสักที เขาก็ร้อนใจก็เลยกดโทรออกไป
โทรไม่ติดก็โทรอีก!
โทรไม่ติดก็โทรซ้ำอีกครั้ง!
ที่แท้เฉินชางกำลังผ่าตัด โทรศัพท์มือถือวางอยู่บนโต๊ะในห้องผ่าตัด พยาบาลกำลังดูการผ่าตัดของเฉินชาง ส่วนอันเยี่ยนจวินเป็นผู้ช่วย
เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังต่อเนื่องไม่หยุด เฉินชางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ใครโทรมานะ”
พยาบาลสาวมองชื่อสายเรียกเข้า “หมอเสี่ยวเฉินคะ ถานจงหลินค่ะ”
เฉินชางชะงัก เขาขานรับ “อ๋อ ครับ” เขาขยับช้าลง “ช่วยรับสายแล้วเปิดลำโพงให้ผมหน่อยครับ”
พยาบาลสาวพยักหน้า หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเปิดลำโพง แล้วยื่นโทรศัพท์มือถือไปใกล้เฉินชาง
หลังจากกดรับสายแล้ว เฉินชางก็กล่าวขึ้นว่า “หัวหน้าถานครับ ผมกำลังผ่าตัดอยู่ครับ มีอะไรหรือครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ