บทที่ 303 แบคทีเรียไม่อยู่ในวัฏสงสาร!
สองสามวันมานี้เรื่องที่เฉินชางไปช่วยเจาะทรวงอกของทารกให้แผนกสูตินรีเวชกำลังถูกเล่าลือออกไป พริบตาเดียวก็โด่งดังไปทั่วทั้งโรงพยาบาล ซึ่งตัวการสำคัญก็คือเฉิงซิน!
วันนั้นหลังจากเธอกลับไปแล้วก็รีบกระจายข่าวทันที นอกจากนั้นยังเติมแต่งชื่นชมจนเฉินชางกลายเป็นหมอมหัศจรรย์แห่งแผนกทรวงอกและแผนกศัลยกรรมทั่วไปของโรงพยาบาลอันดับสองไปแล้ว วิธีการเจาะทรวงอกยอดเยี่ยมดุจเทพเซียน ช่วยชีวิตเด็กทารกที่อยู่ในถุงน้ำคร่ำได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวีรบุรุษปรากฏกาย มักจะมีบุคคลประเภทหนึ่งควบคู่อยู่ด้วย
สือฉีก็โด่งดังอยู่ในช่วงเวลานี้เช่นกัน ยามที่ผู้หญิงต้องการกดผู้ชายคนหนึ่งให้ตกต่ำลง มักจะกล่าวเพียงว่า เขาไม่ได้เรื่อง!
ด้วยเหตุนี้ ความไม่ได้เรื่องของสือฉีจึงแพร่กระจายไปทั่วทั้งโรงพยาบาลอันดับสองในพริบตา
เมื่อนักเรียนในศูนย์ฝึกอบรมของโรงพยาบาลพูดถึงสือฉี ก็จะมีปฏิกิริยาไปในทิศทางเดียวกัน!
“อ้อ สือฉี? เขาไม่ได้เรื่องหรอก!”
เดิมทีสือฉียังอยากจะมีศักดิ์ศรีในหมู่สมาชิกและนักเรียนที่ศูนย์ฝึกอบรมอยู่บ้าง จึงไปมาหาสู่กับคนระดับผู้นำ ต้องการขึ้นเป็นหัวหน้าศูนย์ฝึกอบรมให้ได้
ใครจะรู้ ยังไม่ทันทำอะไร พริบตาเดียวก็ถูกตั้งฉายาในหมู่นักเรียนว่า “ไม่ได้เรื่อง” แล้ว
ตอนนี้เหล่านักเรียนเรียกสือฉีว่า “สือไม่ได้เรื่อง”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สือฉีก็โกรธจนหน้าแดง! เขาล่ะสงสัยจริงๆ ใครเป็นคนเผยแพร่ความลับของตนกันแน่!
ตั้งแต่วันนั้น สือฉีก็รีบลาออกจากงานอาจารย์ฝึกสอนของศูนย์อบรม เนื่องจากเขาทนสอนไม่ไหว นักเรียนทุกคนต่างมองเขาด้วยสายตาสงสัย
หลังจากสือฉีลาออก โจวปัวแผนกโรคปอดก็ร่วมมือกับเฉินชาง ทำงานกันได้อย่างราบรื่น
บ่ายวันพฤหัสบดี
เฉินชางนั่งอยู่ในห้องทำงานหมอ ส่งข้อความให้เมิ่งซีว่า “อาจารย์เมิ่ง คืนนี้เข้าเวรดึก ไม่ไปนะครับ”
เวรดึกของแผนกฉุกเฉินถือเป็นเวทีใหญ่จริงๆ ไม่ว่าผู้ป่วยแบบใดก็มีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็เกิดขึ้นได้
ตอนเย็นนางพยาบาลเสี่ยวหลินนำข้าวมาให้เฉินชาง หลังจากกินข้าวเสร็จ เฉินชางก็เริ่มศึกษาความรู้เกี่ยวกับศัลยกรรมหัวใจ จนกระทั่งเวลาประมาณสองทุ่มกว่า จู่ๆ ก็มีคนแต่งตัวประหลาดสองคนมาเยือนแผนกฉุกเฉิน
ทั้งสองเดินเข้ามาด้วยอาการแปลกๆ ตอนนี้เฉินชางกำลังพิมพ์ใบตรวจแลปอยู่ที่เคาน์เตอร์พยาบาล
เมื่อเห็นคนทั้งสองก็ถามไปว่า “เป็นอะไรมาครับ”
ทั้งสองเป็นหญิงชราอายุประมาณหกสิบกว่าปี แต่งตัวค่อนข้างประหลาด จะว่าเป็นพวกเคร่งในศาสนาพุทธก็ไม่เหมือน ดูอย่างไรก็ดูไม่ออก เฉินชางไม่เข้าใจจริงๆ
หญิงชราร่างอ้วนคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า “หมอคะ ศิษย์น้องของฉันไม่สบาย!”
เฉินชางชะงักไป หยิบปรอทวัดไข้ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เดินออกมาจากเคาน์เตอร์พยาบาลแล้วบอกให้พวกเธอนั่งบนเก้าอี้
“วัดอุณหภูมิก่อนนะครับ!”
เฉินชางให้หญิงชราหนีบปรอทวัดไข้ไว้ใต้รักแร้ ผ่านไปหลายนาทีพบว่าที่ปรอทแสดงอุณหภูมิ 38.5 องศา
เฉินชางลังเลครู่หนึ่งแล้วบอกว่า “เดี๋ยวเจาะเลือดไปตรวจก่อนนะครับ”
อีกฝ่ายไม่ได้ปฏิเสธ ให้ความร่วมมือทั้งหมด
ทุกอย่างราบรื่นมาก หลังจากผลตรวจออกมาก็ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร เป็นเพียงไข้หวัดตามปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งไข้หวัดมีประเภทที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและที่เกิดจากเชื้อไวรัส
คนทั่วไปอาจแยกความแตกต่างไม่ออก เนื่องจากลักษณะอาการไม่ต่างกันมาก เช่นมีไข้ไอ ปอดอักเสบเป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนใช้การตรวจทางคลินิกมาวินิจฉัยเพื่อแยกแยะอาการป่วยจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้
วิธีที่ใช้บ่อยที่สุดก็คือการตรวจเลือด หากเป็นไข้หวัดจากเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่จะพบภาวะเม็ดเลือดเพิ่มสูงขึ้น เซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มสูงขึ้น เม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิล[1] (Neutrophil) เพิ่มสูงขึ้น แสดงให้เห็นถึงภาวะอักเสบของร่างกาย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่สำคัญที่สุดในไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
ส่วนไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะพบภาวะเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง โดยทั่วไปจะเป็นปกติหรือต่ำกว่าปกติ
แน่นอนว่ายังมีวิธีการตรวจสอบอีกหลายวิธี เพราะการตรวจเลือดก็มีข้อจำกัดมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ