บทที่ 312 ชานมสามแก้ว
หยางถงก้มลงจัดเตรียมรองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้านให้เฉินชาง ส่วนเฉินชางก็วางเหล้าในมือลงบนเคาน์เตอร์ข้างทางเดิน สวมรองเท้าแล้วเข้าไปในบ้าน
หยางถงหยิบรองเท้าของเฉินชางไปวางบนชั้นวางรองเท้าโดยไม่คิดรังเกียจแม้แต่น้อย
ใครจะคิดว่าหยางถงผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายฝึกอบรมบุคลากรที่ยอดเยี่ยมในวันวานจะกลายเป็นภรรยาเปี่ยมคุณธรรมตอนอยู่บ้านเช่นนี้
เมื่อเห็นเฉินชางนำของขวัญมาด้วย หยางถงก็ตำหนิขึ้นมาทันที “มาก็พอแล้ว ไม่ต้องนำของขวัญมาด้วยหรอก!”
เฉินชางยิ้มแล้วพูดหยอกไปว่า “ถ้ามามือเปล่าแล้วมากินฟรีดื่มฟรี ต่อไปหัวหน้าจางคงไม่ชวนผมมาแล้ว”
หยางถงได้ยินดังนั้นก็ขบขัน “เข้ามาเลยค่ะ เหล่าจางกำลังทำอาหารอยู่ เดี๋ยวฉันไปเทน้ำมาให้นะคะ”
เฉินชางรีบโบกมือปฏิเสธ “อาจารย์หยาง ถ้าคุณเกรงอกเกรงใจผมแบบนี้ ต่อไปผมคงไม่กล้าไปหาคุณที่ฝ่ายฝึกอบรมบุคลากรแล้วนะครับ”
หยางถงชะงักไปก่อนหันมามองเฉินชางแล้วพูดว่า “ทำไมล่ะคะ”
เฉินชางยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “เดี๋ยวคนอื่นจะคิดว่าอาจารย์หยางเป็นพี่สาวผม จะคิดว่าผมใช้เส้นสายน่ะสิครับ”
หยางถงอายุสี่สิบกว่าปีแล้ว ต่อให้ดูแลตัวเองดีอย่างไรก็ยังมีริ้วรอยอยู่บ้าง เพราะจะอย่างไรแรกเริ่มเดิมทีเธอก็ทำงานทางคลินิกจึงพักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อมาทำงานที่โรงพยาบาลอันดับสองกับจางโหย่วฝูจึงได้ย้ายไปทำฝ่ายที่เกี่ยวกับธุรการ
ลูกก็ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกา งานธุรการที่ทำทุกวันนี้ไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้น ดังนั้นสิ่งที่เธอใส่ใจที่สุดก็คือการดูแลตัวเองทุกๆ วัน
เมื่อได้ยินชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าเช่นเฉินชางเรียกตัวเองว่าเป็นพี่สาว เธอก็รู้สึกหวานละมุนไปทั้งใจ!
“โอ้โห เรียกพี่สาวก็ได้ค่ะ ดูสนิทดี!” หยางถงยิ้มจนตาหยี “ต่อไปก็เรียกฉันว่าพี่สาวเถอะ! เอาตามนี้นะคะ!”
ตอนนี้เอง จางโหย่วฝูที่อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนก็เดินลากรองเท้ามาที่ประตู เมื่อเห็นเหล้าในเมืองเฉินชางก็บึนปากเล็กน้อย “โธ่ เสี่ยวเฉิน คุณเอาของขวัญแบบนี้มาให้ผม ไม่รู้หรือครับว่าอาจารย์หยางของคุณเก็บเหล้าของผมไปหมดแล้ว เอาไปใส่ตู้ล็อคกุญแจไว้ที่บ้านเดิมของเธอนู่นแน่ะ ทุกวันนี้นอกจากจะแอบกินนอกบ้าน ผมก็ไม่ได้กินเหล้าที่บ้านอีกเลย”
จางโหย่วฝูมาพร้อมกับกลิ่นหอมบางอย่าง เป็นกลิ่นหอมของอาหารทะเล
เมื่อเห็นจางโหย่วฝูที่ปกติสวมสูทใส่รองเท้าหนังเปลี่ยนมาเป็นพ่อบ้านใจกล้าเช่นนี้ หยางถงก็ให้ความสนิทสนมกับตนขนาดนี้ เฉินชางจึงรู้สึกดีอย่างช่วยไม่ได้
“เสี่ยวเฉิน มานั่งก่อนค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปช่วยเป็นลูกมือเหล่าจางซะหน่อย พอดีมีเพื่อนส่งกุ้งมาให้จากมาเก๊า บอกว่ารสชาติไม่เลวเลย คุณต้องลองชิมดูนะคะ”
หลังจากสองสามีภรรยายุ่งอยู่ครึ่งชั่วโมง อาหารทะเลก็ถูกจัดเรียงเต็มโต๊ะ
หยางถงเปิดไวน์แดงมาขวดหนึ่ง “วันนี้ไม่กินเหล้าขาว เดี๋ยวฉันจะดื่มไวน์เป็นเพื่อนพวกคุณนะคะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชางได้กินกุ้งมังกรตัวใหญ่ขนาดนี้ มันมีรสชาติแปลกๆ เหมือนรสชาติของความแพง…
ทั้งสามกินไปพลางคุยไปพลาง
ตอนนี้เอง จางโหย่วฝูพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน การสมัครเข้าร่วมสมาคมของคุณได้รับการอนุมัติแล้วนะครับ จะออกใบรับรองให้ในอีกไม่กี่วันนี้ อีกสองสัปดาห์ก็คือประมาณวันที่สิบหกจะมีการจัดงานสัมมนาประจำปีขึ้นที่เคมปินสกี้ เดี๋ยวถึงเวลาแล้วทางสมาคมคงส่งบัตรเชิญมาให้คคุณเอง”
“วันนี้ผมให้คุณมาหาเพราะมีเรื่องจะพูดกับคุณน่ะครับ พอคุณกลับไปแล้วให้คุณตัดต่อวิดีโอการผ่าตัดเคสของผู้อำนวยการฝางให้เรียบร้อยนะครับ ทำเป็นวิดีโอการผ่าตัดแบบสั้น หากได้รับรางวัลก็จะดีกับอนาคตของคุณ”
เฉินชางชะงักไป “รางวัลอะไรครับ”
จางโหย่วฝูวางแก้วไวน์ในมือลง “ทุกครั้งที่มีงานสัมมนาประจำปีจะมีการแข่งขันประกวดวิดีโอการผ่าตัด รางวัลก็คือสิทธิ์การเข้าร่วมหน่วยงานสำคัญที่เป็นสมาชิกในงานสัมมนา ให้คุณเลือกอะไรก็ได้ จะเป็นโรงพยาบาลก็ดี สถาบันการศึกษาก็ดี มีประโยชน์ทั้งนั้น”
เฉินชางนึกถึงบางเรื่องขึ้นมาทันที “ถ้าผมได้รางวัลแล้วจะเป็นคณะกรรมการได้หรือเปล่าครับ”
จางโหย่วฝูชะงักไป กระทั่งหยางถงก็ชะงักไปเล็กน้อย
“คุณอยากเป็นคณะกรรมการหรือครับ” หลังจากได้สติจางโหย่วฝูก็เอ่ยถาม
เฉินชางรู้สึกเขินอายอยู่บ้างแต่ยังคงพยักหน้าตอบไป “ครับ”
“ใช่แล้วครับ อาจารย์จาง จะเป็นคณะกรรมการในสมาคมได้จะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างครับ”
จางโหย่วฝูพิจารณาครู่หนึ่ง “คุณสมบัติหรือ ความจริงก็ไม่มีคุณสมบัติพิเศษอะไรนะครับ หากพูดกันตามปกติ คนที่จะเป็นคณะกรรมการได้ก็คือต้องให้สมาชิกเสนอชื่อ แล้วให้สมาชิกในสมาคมร่วมกันลงคะแนนคัดเลือก หากมีผลงานพิเศษในวงการศัลยกรรม เช่นคิดค้นการผ่าตัดรูปแบบใหม่ ได้รางวัลใหญ่ หรือไม่ก็เขียนวิทยานิพนธ์ที่ได้รับความนิยมก็จะมีส่วนช่วยมากนะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ