เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 321

สรุปบท บทที่ 321 ให้ตายเถอะ จริงๆ เลย!: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 321 ให้ตายเถอะ จริงๆ เลย! – ตอนที่ต้องอ่านของ เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

ตอนนี้ของ เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายSlice of Lifeทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 321 ให้ตายเถอะ จริงๆ เลย! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 321 ให้ตายเถอะ จริงๆ เลย!

เฉินชางไม่พอใจกับค่าความรู้สึกดีที่ได้รับในวันนี้เลย! อาจเรียกได้ว่าแค่ค่อนข้างพอใจเท่านั้น เพราะได้ค่าความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นมาแค่ห้าคะแนน

ค่าความรู้สึกดีสามสิบสามคะแนนมีประโยชน์อะไร

เฉินชางเพิ่งคิดถึงตรงนี้ เมิ่งซีก็หันมามองเขาแล้วพูดว่า “สองวันนี้คุณก็มาบ่อยหน่อยนะคะ ฉันจะให้คุณทำเคสผ่าตัดถุงเยื่อหุ้มหัวใจที่มีในสองวันนี้”

เฉินชางพลันดวงตาสว่างวาบ “ผมหรือครับ ผม…ให้ผมทำได้หรือ”

น้ำเสียงของเมิ่งซีไม่มีสะดุดเลยสักนิด ยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบดุจสายลม “ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ช่างเถอะค่ะ”

เฉินชางสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน “ผมทำได้! ผมทำได้ ทำได้แน่นอน!”

เฉินชางจะพูดว่าตัวเองทำไม่ได้ได้ด้วยหรือ ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งจริงๆ

เขายังขาดการผ่าตัดอีกสี่เคส หากไม่มีภารกิจนี้ เฉินชางก็เตรียมใช้คะแนนทักษะแล้ว

อดทนไว้!

เมื่อเห็นสายตาที่คล้ายกับกำลังดูเรื่องสนุกของคนทั้งสาม เฉินชางก็ไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด “ผมทำได้จริงๆ นะ!”

เมิ่งซีเห็นดังนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา

ทางด้านเก่อฮว๋ายและหัวหน้าแผนกซย่าเกาเฟิงมองเฉินชางด้วยสายตาใคร่ครวญ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

เฉินชางชะงักไปเล็กน้อย ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็มีสีหน้าประหลาดใจ

หลังเดินออกมาจากห้องผ่าตัดแล้ว เฉินชางก็รู้สึกว่าสิ่งที่ค่าความรู้สึกดีสามสิบคะแนนนำมาให้ดูจะแตกต่างไปจริงๆ ก่อนหน้านี้ตอนที่มีค่าความรู้สึกดียี่สิบคะแนน อาจารย์เมิ่งซีไม่ค่อยวางใจเขาเท่าไหร่นัก ไม่ต้องพูดถึงการผ่าตัดเลย ขนาดจะช่วยก็ยังต้องต่อสู้แย่งชิงมา แต่ตอนนี้เมื่อค่าความรู้สึกดีผ่านด่านสามสิบคะแนนไปแล้ว ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างแตกต่างไปเล็กน้อย เธอให้เฉินชางทำการผ่าตัดบ้างแล้ว

ดูท่าทางค่าความรู้สึกดีคงซับซ้อนมาก เฉินชางคาดหวังจริงๆ ว่าค่าความรู้สึกดีของอาจารย์เมิ่งจะเพิ่มขึ้นไม่หยุด จะได้เผยเบาะแสอะไรใหม่ๆ ให้เขารู้บ้าง

……

……

เพิ่งจะลงลิฟท์มา เฉินชางก็พบว่าจิ่งหรานวิ่งตรงมาทางนี้จึงกล่าวทักทายไป แต่อีกฝ่ายคล้ายจะหูหนวก เหมือนไม่ได้ยินเสียอย่างนั้น

เฉินชางรู้สึกแปลกใจมาก รีบร้องเรียกไปว่า “หมอจิ่งครับ”

คราวนี้จิ่งหรานจึงค่อยหันมามอง จากนั้นสีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปเป็นตกตะลึงเล็กน้อย “หมอเฉิน คุณมาที่โรงพยาบาลตงต้าได้ยังไงครับ”

เฉินชางยิ้ม “ผมก็มาเรียนต่อเฉพาะทางไงครับ อาจารย์ของผมก็คือเมิ่งซี”

เมื่อจิ่งหรานได้ยินชื่อเมิ่งซีก็พยักหน้าเล็กน้อย เป็นเธอหรอกหรือ

ขณะที่จิ่งหรานมองไปทางเฉินชางก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “หมอเฉิน พอดีเลย ที่แผนกฉุกเฉินมีผู้ป่วยเคสประหลาดอยู่คนหนึ่ง ผมกำลังจะไปดู คุณจะไปด้วยกันไหมครับ”

เมื่อเฉินชางได้ยินคำว่าผู้ป่วยเคสประหลาดก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที เขารีบพยักหน้าแล้วตอบว่า “ไปครับ!”

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณบ่ายโมงแล้ว อีกนานกว่าจะเข้างาน หากเทียบกับอาการป่วยที่ทำให้จิ่งหรานรู้สึกสนอกสนใจแล้ว อาหารมื้อเดียวดูเหมือนจะไม่มีค่าให้พูดถึงจริงๆ

เมื่อได้ยินเฉินชางตอบรับ จิ่งหรานก็มีสีหน้ายินดี อารมณ์สงบลงมาก

ในใจของจิ่งหรานจัดให้เฉินชางอยู่ในตำแหน่งค่อนข้างสูงมาตลอด เขารู้สึกว่าเฉินชางสุดยอดมาก เป็นหมอที่เก่งกาจประเภทนั้นเลย อย่างน้อยก็อยู่ในระดับเดียวกับตน หรืออาจจะเก่งกว่าตนด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเฉินชางตกลงแล้วจึงเกิดความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมา

เพราะลักษณะพิเศษของอาการป่วยประเภทต่างๆ มีมากมาย เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะเชี่ยวชาญและมั่นใจทุกอย่าง!

ทั้งสองเดินไปด้วยกันจนมาถึงแผนกฉุกเฉิน เมื่อเข้ามาแล้วหมอเวรก็รีบเดินเข้ามาหาทันที

“หัวหน้าจิ่ง คุณมาแล้ว!” หมอเวรชื่อหยางหลิน ยังอายุไม่มาก เพิ่งจะสามสิบต้นๆ เมื่อเห็นจิ่งหรานก็มีท่าทางเคารพนอบน้อม เรียกแต่ละคำก็หัวหน้าจิ่งๆ

เมื่อมาดูทางจิ่งหราน ก็คล้ายว่าเขาจะชินกับฐานะและคำเรียกนี้แล้ว เขาผงกศีรษะเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นครับ”

หยางหลินเดินเข้ามาพลางกล่าวว่า “ผู้ป่วยมีอาการไอมาครึ่งเดือนกว่าแล้วค่ะ ไอรุนแรงมาสิบวัน พวกยาแก้ไอก็ไม่ได้ผลอะไรเลยค่ะ”

จิ่งหรานชะงักไปเล็กน้อย ผู้ป่วยที่มีอาการไอแบบนี้ควรไปที่แผนกอายุรกรรมไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมาปรึกษาแผนกศัลยกรรมทรวงอกได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้จิ่งหรานก็เอ่ยถามว่า “มีหมอแผนกทางเดินหายใจมาดูหรือยังครับ”

จิ่งหรานครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วถามกลับว่า “อาการไอของคุณมีสาเหตุมาจากอะไรหรือครับ คุณได้ยัดอะไรเข้าไปที่จมูกหรือปากของตัวเองหรือเปล่า ตอนกินข้าวมีอาการสำลักอาหารไหมครับ”

สิ่งแปลกปลอมในหลอดลมไม่ใช่อาการที่หายาก สถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

เธอคิดครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า “ไม่มีค่ะ ไม่มีเลย อาการสำลักก็เกิดหลังจากมีอาการไอแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่มีนะคะ”

แปลกจริงๆ!

หรือว่าไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม

จิ่งหรานมองไปทางเฉินชางด้วยสายตาสงสัย เฉินชางก็ยิ้มบางๆ แล้วกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูเขา

นั่นทำให้จิ่งหรานตกตะลึงจนนิ่งไปเลย!

เขาเบิกตากว้าง มองไปทางเฉินชาง สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

คนกลุ่มหนึ่งพาผู้ป่วยมาที่ห้องส่องกล้อง เตรียมส่องกล้องเพื่อตรวจสอบดูว่าเป็นอะไรกันแน่

หยางหลินก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน ชายหนุ่มคนนี้กระซิบอะไรกับจิ่งหรานกันแน่ถึงได้ทำให้หัวหน้าจิ่งคนนั้นถึงกับตะลึงพรึงเพริดได้

ไม่นานหมอส่องกล้องก็สอดกล้องเข้าไปดูของที่อยู่ด้านในหลอดลม ทำเอาเกือบหัวเราะออกมาจริงๆ

เป็นของพิสดารจริงๆ เลย!

หมอที่เป็นผู้ส่องกล้องดูหลอดลมทำงานมาหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะเคสเล็กเคสใหญ่ก็เคยเห็นทั้งนั้น แต่มีเพียงเรื่องน่าสนใจและพิสดารแบบนี้เท่านั้นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

โลกใบนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่มีจริงๆ

หยางหลินหมอแผนกฉุกเฉินที่ยืนอยู่ด้านหลังก็เห็นของที่ปรากฏบนหน้าจอแล้ว เธอถึงกับมึนงงไปเลย

ส่วนจิ่งหรานก็มีสีหน้าตะลึงพรึงเพริด ในใจอุทานออกมาว่า

ให้ตายเถอะ จริงๆ เลย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ