ระยะนี้ซย่าเกาเฟิงมีกิจวัตรอยู่อย่างหนึ่ง
ถ้าเขาไม่มีงานอะไรก็จะไปดูเฉินชางผ่าตัดถุงเยื่อหุ้มหัวใจ อืม นี่ทำให้เขาร่าเริงอยู่เสมอ
แน่นอนว่าคนระดับซย่าเกาเฟิงไม่ได้มีเวลาว่างทุกวันและรู้สึกเบื่อหน่ายถึงขนาดใช้เวลาให้เปล่าประโยชน์ไปเช่นนี้
ความจริงเป็นเพราะทุกครั้งที่เขาดูการผ่าตัดของเฉินชางจบ จะมากจะน้อยเขาก็ได้รับแรงบันดาลใจบางอย่าง
แม้ว่าระดับการผ่าตัดถุงเยื่อหุ้มหัวใจของเฉินชางจะอยู่ในระดับขั้นที่กำลังพัฒนา แต่ความรู้และทฤษฎีในเรื่องถุงเยื่อหุ้มหัวใจของเขาไม่เลวเลยจริงๆ ทุกครั้งที่ทำการผ่าตัด แม้การลงมือจะค่อนข้าง…อืม ก็นะ แต่วิธีคิดน่าสนใจมากทีเดียว
แน่นอนว่านี่เกี่ยวข้องกับการบรรยายของระบบ
แม้ระบบจำลองการเรียนการสอนจะไม่ได้ให้เฉินชางเรียนวิธีการผ่าตัด แต่ก็ทำให้เข้าใจความรู้มากมายหลายด้านจริงๆ
แม้ตอนนี้จะยังมองความแตกต่างไม่ออก แต่ต่อไปเมื่อความสามารถในการผ่าตัดของเขาเพิ่มขึ้น ความแตกต่างย่อมปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
ส่วนซย่าเกาเฟิง ในฐานะที่เขาเป็นลูกพี่ใหญ่แห่งวงการศัลยกรรมหัวใจ มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและวิจัยมากกว่าเถามี่แห่งโรงพยาบาลอันดับสอง จึงมีแนวโน้มที่จะปรับปรุงวิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิมให้ดีขึ้นและอาจสร้างสรรค์วิธีการผ่าตัดแบบใหม่ได้ด้วย ดังนั้นหากเขามีเวลาก็จะมาดูการผ่าตัดของเฉินชาง ไม่แน่ว่าอาจมอบแรงบันดาลใจให้ตนก็เป็นได้
ความจริงหมอทุกคนต่างก็มีความคิดในด้านการผ่าตัดเป็นของตนเอง หากจะปรับปรุงวิธีการผ่าตัดให้ดีขึ้น คงเรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัยเลย แต่ผู้ที่ทำการผ่าตัดออกมาดีก็นับเป็นหมอที่ดีได้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่อาจใช้เรื่องนี้มาตัดสินได้ว่าเถามี่เก่งกว่า หรือซย่าเกาเฟิงเก่งกว่ากัน
อย่างไรก็ตาม ภายใต้สภาพแวดล้อมในปัจจุบันนี้ การคัดเลือกใดๆ ล้วนขึ้นอยู่กับโครงการ หัวข้อการศึกษาและวิทยานิพนธ์ ทำให้แผนกต่างๆ จำเป็นต้องให้ความสำคัญและขุดค้นผู้มีพรสวรรค์ทางด้านการวิจัยเหล่านี้ออกมาให้ได้
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลใดต่างก็พยายามหาวิธีดึงดูดผู้มีความสามารถกันอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าผู้มีความสามารถก็มีทั้งดีและไม่ดี
ซย่าเกาเฟิงพึงพอใจในตัวเมิ่งซีเป็นอย่างมาก ถึงขั้นเรียกได้ว่าพอใจจนถึงขีดสุดเลยทีเดียว เดิมทีเขาคิดว่าเธอเป็นผู้มีความสามารถทางด้านการวิจัยที่โอบล้อมไปด้วยรัศมีของสถาบันชื่อดัง คิดไม่ถึงเลยว่าความสามารถทางด้านปฏิบัติการทางคลินิกของเมิ่งซีจะแน่นเอียดเพียงนี้
บางครั้งซย่าเกาเฟิงยังสงสัยเลยว่าตอนที่พระเจ้าสร้างเมิ่งซีขึ้นมา ท่านอารมณ์ดีเป็นพิเศษใช่หรือเปล่า ถึงได้สาดประกายแสงให้เธอมากขนาดนี้!
กระทั่งนักเรียนที่รับไว้เป็นคนแรกก็ยังน่าพอใจ
เขามองไปทางเฉินชางแล้วหันไปมองเก่อฮว๋าย สุดท้ายก็อดถอนใจออกมาไม่ได้
หากเปรียบเทียบใครคนหนึ่งกับใครอีกคนหนึ่ง อาจทำให้คนโกรธจนตายได้จริงๆ
เก่อฮว๋ายเป็นนักเรียนแพทย์เฟลโล่ (แพทย์ต่อยอด) ของซย่าเกาเฟิง หลังจากเรียนจบปริญญาโทแล้วซย่าเกาเฟิงก็ให้เขาอยู่ต่อ จากนั้นก็ให้เขาถือโอกาสเรียนปริญญาเอกกับตน ตอนนี้ก็กลายเป็นกระดูกสันหลังของแผนกไปแล้ว
เก่อฮว๋ายเก่งมาก และทำให้ซย่าเกาเฟิงพอใจมาก เพียงแต่นิสัยดูไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่เท่าไหร่นัก ตอนนี้เมื่อได้เห็นเฉินชางแล้ว ซย่าเกาเฟิงก็ยิ่งรังเกียจศิษย์คนโตของตน
เขาอยากจะถามเมิ่งซีจริงๆ ว่าเปลี่ยนนักเรียนกันได้หรือเปล่า เอาเก่อฮว๋ายไปให้เธอได้ไหม เอาเฉินชางมาให้ผมได้ไหม
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวหน้าซย่าก็รีบส่ายหัว ไม่กล้าคิดเช่นนี้อีกต่อไป
……
……
เฉินชางรู้สึกจนใจจริงๆ และรู้สึกอับจนคำพูดด้วย…
เมื่อเห็นผู้ชมทั้งสามที่อยู่ด้านหน้า ไม่สิ…ตอนนี้มีสี่คนแล้ว มีมากกว่าเมื่อวานคนหนึ่ง
เฉียนเลี่ยงเห็นเฉินชางเมื่อใดก็ไม่อาจทราบได้ พอเห็นแล้วก็รีบเข้ามาร่วมชมดูความครึกครื้นนี้ทันที!
ดูผมผ่าตัดมันมีความสุขขนาดนั้นเลยเหรอครับ
ซย่าเกาเฟิงและเฉียนเลี่ยงยืนคุยยืนยิ้มกันอยู่ตรงนั้น ดูเฉินชางผ่าตัดด้วยสีหน้าคล้ายกำลังดูเรื่องสนุก บางครั้งก็ชี้มือชี้ไม้ ทำเอาเฉินชางแทบอยากจะขว้างแหนบจับหัวใจใส่หน้าพวกเขาเลยทีเดียว
ยิ้มอะไรกัน!
ไม่เคยเห็นมือใหม่กันเหรอ
เก่อฮว๋ายแสดงความคิดเห็นอย่างพึงพอใจ “เสี่ยวเฉิน ไม่เลว ดีกว่าครั้งที่แล้วมากเลยครับ ครั้งนี้ตอนกรีดถุงเยื่อหุ้มหัวใจคุณลงมีดเพียงสองครั้งครึ่งเอง! อืม เก่งกว่าครั้งที่แล้วมากเลย พยายามต่อไปนะครับ”
เฉินชางทอดถอนใจออกมา อดทนไว้ตัวผม!
พวกคุณรอก่อนเถอะ พวกคุณมันพวกคนธรรมดา
นี่เป็นเคสที่สี่แล้ว หากผ่านไปอีกหนึ่งเคสผมจะทำให้พวกคุณตะลึงพรึงเพริดแน่นอน
เฉินชางวางแผนไว้แล้วว่าเมื่อทักษะไปถึงระดับสูงเขาจะใช้คะแนนทักษะเพิ่มให้ไปถึงระดับปรมาจารย์เลย อย่างไรเสียตอนนี้คะแนนทักษะของเฉินชางก็กลับมาอยู่ที่ยี่สิบสี่แต้มแล้ว!
มีมากเกินพอ!
เมื่อเห็นสายตาของซย่าเกาเฟิงที่เหมือนกำลังชมเรื่องสนุก เฉินชางก็ยิ้มจนตาหยี
หัวหน้าซย่า อีกไม่นานผมจะทำให้คุณตกตะลึง
เมื่อเทียบกับทุกคนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชางรู้สึกว่าอาจารย์เมิ่งซีดีกว่าคนอื่นมาก เธอช่างใจกว้าง มีความอดทนต่อตนอย่างสูง ดีจริงๆ เลย…
แต่ก็ใช่ว่าเฉินชางจะไม่มีความก้าวหน้าสักนิด เขาพัฒนาตนเองไปอย่างเชื่องช้า อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเคสที่สี่แล้ว มือของเขาย่อมได้รับการฝึกฝนมามากขึ้น
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง การผ่าตัดก็เสร็จสิ้น
เฉินชางเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เมิ่งซีเล็กน้อย “อาจารย์เมิ่ง เสร็จแล้วครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ