บทที่ 356 แม่บอกว่า ถ้าจะแต่งงานต้องมีบ้านก่อน
จี้หรูอวิ๋นก็เป็นผู้ที่อยู่ในวงการแพทย์เช่นกัน
ตอนแรกฉินเสี้ยวหยวนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หลังจากจบการศึกษาก็ถูกจัดให้ไปทำงานในหน่วยงานแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเงินเดือนของทั้งสองรวมกันแล้วยังไม่ถึงร้อยหยวนด้วยซ้ำ ที่สำคัญทั้งสองยุ่งมากจนไม่มีเวลาดูแลลูก
เพื่อความก้าวหน้าของเหล่าฉิน แม่ของฉินเยว่จึงคิดจะลาออก แต่นับว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่เหมาะสม จริงๆ ที่ตอนนั้นการถ่ายโอนบุคลากรระหว่างหน่วยงานค่อนข้างสะดวกกว่าปัจจุบัน แล้วยังโยกย้ายระหว่างฝ่ายธุรการและฝ่ายกิจการได้! ด้วยเหตุนี้จี้หรูอวิ๋นจึงถูกกรมอนามัยแย่งตัวไปอย่างพอดิบพอดี
ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของจี้หรูอวิ๋นเป็นไปอย่างสะดวกราบรื่น เธอติดตามเจ้านายเก่าจนตอนนี้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ประกันสังคมแห่งมณฑลตงหยางแล้ว นับเป็นผู้นำที่มีอำนาจอย่างแท้จริง
เรื่องนี้ทำให้จี้หรูอวิ๋นรู้สึกทอดถอนใจอยู่บ่อยครั้ง เพื่อครอบครัว เธอจึงต้องเสียสละตนเอง
ดังนั้นทุกครั้งที่สามีภรรยาทะเลาะกัน เพียงประโยคเดียวของจี้หรูอวิ๋นก็ทำเหล่าฉินใบ้กินแล้ว!
“เพื่อครอบครัว เพื่อความก้าวหน้าของคุณ ฉันถึงกับยอมย้ายไปฝ่ายธุรการ จนตอนนี้เป็นผู้อำนวยการศูนย์แล้ว! ฉันเสียสละเพื่อครอบครัวมากขนาดนี้! คิดว่าง่ายนักหรือ!”
ประโยคนี้ทำให้เหล่าฉินทำได้เพียงขุ่นเคืองแต่ไม่กล้าบ่น ฟังเธอพูดแล้วไม่ค่อยเหมือนความอัดอั้นตันใจ แต่เหมือนข่มขู่กันมากกว่า…
สิ่งที่แฝงอยู่ในคำพูดก็คือ คุณเชื่อฟังไปเถอะ ฉันเป็นหัวหน้าคุณ…ระวังไว้ให้ดี ถ้าวันไหนฉันไม่พอใจจะไปตรวจสอบโรงพยาบาลของพวกคุณ!
เรียกได้ว่าตอนนี้ครอบครัวของเหล่าฉินสุดยอดมาก!
ฉินเสี้ยวหยวนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลอันดับสอง ส่วนจี้หรูอวิ๋นผู้เป็นภรรยาก็เป็นผู้อำนวยการศูนย์ประกันสังคมแห่งมณฑลตงหยาง ยักษ์ใหญ่ในวงการแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง
……
……
จี้หรูอวิ๋นมองไปด้านล่างด้วยความสงสัย เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงหันไปมองฉินเสี้ยวหยวนแล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้างุนงงระคนแปลกใจ “เหล่าฉิน! คุณ…คุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันหรือเปล่าคะ”
ฉินเสี้ยวหยวนหน้าไม่เปลี่ยนสี ใจไม่เต้นแรง ทำเพียงแค่นเสียงออกมาครั้งหนึ่ง
คิดว่าผมเป็นผู้อำนวยการมาหลายปีโดยไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยหรือ
เขาเลิกคิ้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า “จะเป็นไปได้ไงครับ ระหว่างเราจะมีความลับอะไรกันได้”
พูดจบก็หมุนตัววิ่งออกไปสวมเสื้อสวมกางเกงให้เรียบร้อย “จริงสิ เยว่เยว่ออกไปข้างนอก พวกเราก็อย่าอยู่ว่างๆ กันเลย เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อกับข้าวนะครับ เที่ยงนี้ผมทำอาหารเอง!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฉินเสี้ยวหยวนก็ยืดตัวขึ้นแล้วรีบร้อนเดินออกไปข้างนอก กระทั่งลงมาถึงล่างตึก ฉินเสี้ยวหยวนก็ทอดถอนใจ ภรรยาผมจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ที่เขารีบวิ่งลงมาเช่นนี้เพราะอยากหลบเลี่ยงคำถามของภรรยา และอยากลองดูเสียหน่อยว่าจะตามเยว่เยว่ทันหรือไม่ อยากรู้ว่าทั้งสองจะไปไหนกัน
น่าเสียดาย เมื่อเขาเดินเลี้ยวไปก็พบว่าฉินเยว่และเฉินชางขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว
……
……
เฉินชางมองฉินเยว่แล้วถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ว้าว คุณสวมกระโปรงด้วยหรือ ผมรู้จักคุณสามปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคุณแต่งหน้าเลยนะเนี่ย เอาเถอะ คุณสวยจริงๆ!”
เมื่อเฉินชางสรรเสริญเยินยอตนเองขนาดนี้ ฉินเยว่ก็รู้สึกอิ่มเอมและปลื้มปริ่ม แต่ยังคงยู่ปากเล็กๆ ยกมือทั้งสองขึ้นกอดอก แสร้งทำท่าทางไม่พอใจ
“จริงสิ คุณบอกว่ามีธุรกิจใหญ่เลยเรียกฉันมา ธุระอะไรเหรอคะ”
เฉินชางหัวเราะฮี่ๆ “ธุรกิจการค้าขนาดใหญ่แน่นอน! มากกว่าล้านเลยนะครับ!”
ฉินเยว่หันไปมองท่าทีลึกลับของเฉินชาง พูดยิ้มๆ ว่า “ซื้อบ้านเหรอคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ