บทที่ 364 ความแปลกประหลาดของแผนกฉุกเฉิน
เฉินชางรีบเดินเข้าไปที่ห้องหมอของแผนกฉุกเฉิน
หวังหย่งก็เพิ่งเข้ามา เมื่อเห็นขาทั้งสองของผู้ป่วยก็ชะงักไปเล็กน้อย
เป็นอะไรกันแน่
ตอนนี้ขาส่วนล่างของผู้ป่วยกลายเป็นสีม่วงปนดำไปแล้ว ราวกับมีก้อนเลือดตกตะกอนอยู่ในนั้น
หากมีลิ่มเลือดที่ขาก็อาจส่งผลกระทบกับระบบไหลเวียนโลหิต โดยลิ่มเลือดจะไปขัดขวางการไหลเวียนของเลือดจนทำให้ขากลายเป็นสีเขียวม่วง และอาจมีอาการบวม แต่ในกรณีนี้ นอกจากจะทำให้บริเวณขาสีคล้ำมากกว่าปกติแล้วก็จะไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ
หรือจะถูกพิษไนเตรท
หากถูกพิษไนเตรทจะทำให้ฮีโมโกลบินสูญเสียความสามารถในการอุ้มออกซิเจนจนทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนในเลือด และส่งผลให้ร่างกายกลายเป็นสีม่วงเขียว แต่การถูกพิษไนเตรทนั้นไม่ได้ส่งผลเฉพาะจุดแต่จะส่งผลให้มีอาการทั้งร่างกาย
ตอนนี้มีเพียงขาส่วนล่างของผู้ป่วยที่เริ่มกลายเป็นสีม่วง คงไม่ใช่แน่!
นี่เป็นการวินิจฉัยของเฉินชางหลังจากได้เห็นสภาพของผู้ป่วย!
สำหรับหมอคนหนึ่งแล้ว ประสบการณ์ทางคลินิกที่ยาวนานจะช่วยบ่มเพาะให้พวกเขามีดวงตาอันเฉียบแหลม แม้กระนั้น การวินิจฉัยอาการจะใช้เพียงดวงตาอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องอาศัยการพิจารณาข้อมูลโดยรวม การซักถามประวัติอาการป่วยอย่างละเอียด การถามสาเหตุของอาการ รวมไปถึงพัฒนาการของอาการอีกด้วย หากจำเป็นก็ต้องให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจสอบแต่ละอย่างถึงจะทราบ
ผู้ป่วยเป็นผู้ชายอายุไม่มาก ประมาณสามสิบกว่าปี เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขากำลังวิตกกังวล
“หมอครับ วันนี้ผมไปเตะบอลมา เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำ อยู่ดีๆ ขาทั้งสองก็กลายเป็นสีม่วง คุณช่วยตรวจด้วยนะครับ!”
ผู้ป่วยชายอยู่ในอาการตื่นตระหนก มองขาทั้งสองของตนด้วยอาการตื่นตกใจ
เฉินชางอดถามไม่ได้ว่า “เจ็บไหมครับ”
เขาพยักหน้า “ครับ! ตอนแรกไม่เจ็บ แต่ว่าตอนนี้…เจ็บนิดหน่อย ผมได้รับบาดเจ็บหรือเปล่าครับ ตอนผมเพิ่งเตะบอลเสร็จยังไม่รู้สึกเลยครับ แต่ต่อมาตอนไปอาบน้ำกับเพื่อนๆ พวกเขาบอกผม ผมถึงค่อยรู้ตัว ตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกเจ็บแล้ว ผมกำลังคิดว่าผมได้รับบาดเจ็บตอนออกกำลังกายแต่ไม่รู้ตัวหรือเปล่าน่ะครับ หลังจากผมพักไปแป๊บหนึ่งก็รู้สึกแปลกๆ แถวเส้นประสาท ผมคิดว่าตอนนั้นเส้นประสาทค่อนข้างตึง เลยไม่มีปฏิกิริยาอะไร…”
ชายคนนั้นอธิบาย ทำให้ทุกคนชะงักไปเล็กน้อย!
ชายคนนั้นขมวดคิ้ว “แล้วก็คันนิดหน่อยด้วยครับ! ไม่รู้ว่าเป็นอะไร!”
หวังหย่งเห็นเฉินชางและฉินเยว่เดินเข้ามาก็พยักหน้าทักทาย
หวังหย่งมองขาของผู้ป่วยแล้วลองกดดูแต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ดังนั้นจึงถามต่อไป “ตอนนี้เจ็บหรือเปล่าครับ”
ชายคนนั้นลองคลำดูแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมก็ไม่แน่ใจครับ ดูเหมือนจะเจ็บแต่ก็เหมือนไม่เจ็บ! ตอนนี้ผมไม่แน่ใจเลย”
คำตอบของเขาฟังดูคลุมเครือ
“แต่มันคันนิดหน่อยแน่ๆ!”
พูดจบเขาก็มีสีหน้ากังวล จากนั้นจึงถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “หมอครับ มีอะไรไปอุดตันในเส้นเลือดผมหรือเปล่า ระหว่างเดินทางมาโรงพยาบาลเพื่อนผมลองเสิร์ชดูแล้ว เห็นว่าถ้ามีอะไรไปอุดตันในเส้นเลือดจะมีสภาพแบบนี้ ถ้าไม่ทำให้เลือดไหลเวียนเป็นปกติเร็วๆ อาจจะทำให้ขาตายได้!”
ชายคนนั้นพูดด้วยความหวาดกลัว เขาลองดูรูปภาพในอินเตอร์เน็ตแล้วพบว่าภาพเหล่านั้นคล้ายกับที่เขาเป็น ในนั้นเรียกว่าอาการลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ หรือลิ่มเลือดอุดตันบริเวณขาอะไรนี่แหละ หากรักษาไม่ดี…อาจต้องตัดขาทิ้ง!
เมื่อพูดออกมาเช่นนี้แล้ว เขาก็มีท่าทีกังวล “ผมได้ยินว่าอาจเป็นเพราะออกกำลังกายหนักเกินไป ทำให้เอ็มโบลัส[1](embolus) ในร่างกายไม่เสถียร พอมันเดินทางไปถึงหลอดเลือดที่ขาก็จะเกิดการอุดตัน ทำให้เกิดอาการแบบนี้”
ชายคนนั้นพูดจาราวกับผู้เเชี่ยวชาญ กลับเป็นหวังหย่งที่ดูเหมือนเป็นคนนอกวงการแพทย์ เกือบถูกชายคนนั้นโน้มน้าวไปแล้ว
เพียงแต่…
ฉินเยว่มองดูขาของชายคนนั้นพบว่าไม่เหมือนอาการป่วย เพราะว่า…ส่วนที่เป็นสีดำสีเขียวสีม่วงบริเวณขาทั้งสองดูเหมือนจะมีรูปแบบตายตัวเกินไปหน่อย ขอบสีบริเวณขาด้านล่างก็ดูชัดเจน ขอบมันชัดเกินไป…เหมือนกับ…เหมือนกับใส่เลกกิ้งหรือถุงเท้าฟุตบอลอย่างไรอย่างนั้น
ฉินเยว่ถามด้วยท่าทางครุ่นคิด “ตอนบ่ายคุณสวมถุงเท้าหรือเปล่าคะ ถุงเท้าออกกำลังกายแบบรัดน่ะค่ะ”
ชายคนนั้นชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวอย่างตกใจว่า “คุณทราบได้อย่างไรครับ”
ตอนเขาไปเตะบอลช่วงบ่าย เขาสวมถุงเท้าฟุตบอลแบบสูงกับเลกกิ้งไปด้วย ดังนั้นตอนเล่นบอลเขาวิ่งไปวิ่งมาก็ยังไม่รู้ตัว ต้องอาบน้ำก่อนถึงค่อยรู้ตัวว่ามีอาการนี้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉินเยว่ก็เดินไปหยิบสบู่ข้างอ่างล้างมือแล้วเดินกลับมามาส่งสบู่ให้ชายคนนั้น “คุณลองล้างดูก่อนค่ะว่าล้างออกหรือเปล่า”
เขาชะงักไป ท่าทางตื่นตระหนก “คุณจะบอกว่า…สีตกหรือครับ”
ฉินเยว่ยิ้ม “คุณลองดูก่อนนะคะว่าล้างออกหรือเปล่า แล้วค่อยว่ากัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ