หลังจากหวังเชียนเจาะรูเรียบร้อย ก็พูดกับเฉินชางว่า “ชางเอ๋อร์ ถือกล้องให้ผมหน่อยครับ”
งานผ่าตัดเป็นงานใช้แรงจริงๆ ต้องยืนก้มตัวดูภาพที่ปรากฏในอุปกรณ์ มือก็ต้องทำงานไปด้วย กินแรงมากยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่ส่วนนี้ สิ่งที่ยากที่สุดก็คือคุณต้องใช้เครื่องมือทำงานในขณะที่สังเกตการณ์ผ่านภาพที่ปรากฏบนจอ
บางครั้งก็เหมือนการเล่นเกม
สิ่งที่แตกต่างจากการเล่นเกมก็คือคุณไม่มีโอกาสล้มเหลว
ถ้าเล่นเกมแพ้ยังเริ่มใหม่ได้ แต่ชีวิตคนเริ่มใหม่ไม่ได้
ดังนั้นนี่จึงต้องใช้ความพิถีพิถันและจิตวิญญาณในการทำงานเป็นอย่างมาก
การผ่าตัดผ่านกล้องนั้น อาจพูดได้ว่าทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องของความพิถีพิถันในด้านการรับรู้ของคุณ
ทุกวันนี้หากต้องการเป็นศัลยแพทย์ที่ยอดเยี่ยมและได้มาตรฐานคนหนึ่ง คุณจำเป็นต้องมีความสามารถรอบด้าน
เมื่อเห็นท่าทีระมัดระวังของหวังเชียน เฉินชางก็เริ่มจริงจัง ไม่กล้ารบกวนอีก
เรื่องนี้ต้องใช้จิตวิญญาณในการรับรู้อย่างสูงจริงๆ จะอย่างไรคุณก็ไม่ได้ผ่าเปิดท้อง หลายขั้นตอนต้องอาศัยการทำงานผ่านภาพบนหน้าจอ
ไส้ติ่งพองบวมอย่างเห็นได้ชัด ยาวประมาณห้าถึงหกมิลลิเมตร มีการสัมผัสกับอวัยวะรอบด้านค่อนข้างมาก ตรงกลางมีน้ำหนองไหลออกมาไม่น้อย
ขั้นต่อไปเป็นการแยกเนื้อเยื่อจากอวัยวะอื่น ขยับคีมเข้าไปใกล้ไส้ติ่ง ใช้มันพลิกส่วนโคนของไส้ติ่งออกแล้วจึงใช้คีมหนีบเส้นเลือดบริเวณไส้ติ่งและโคนผ่านรูนี้
……
การผ่าตัดดำเนินไปอย่างเป็นระบบระเบียบ เฉินชางเป็นคนคุมกล้องที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง
แต่เฉินชางกับพบบางอย่างที่ต่างออกไป
ถึงแม้กล้องจะใช้ง่าย สะดวก ทั้งยังสอดคล้องกับความต้องการของคนยุคปัจจุบัน แต่ในด้านการจัดการงานละเอียดหลายๆ อย่างยังเทียบการผ่าเปิดท้องไม่ได้การผ่าเปิดท้องไม่จำเป็นต้องผ่าใหญ่มาก ผ่าประมาณหกถึงเจ็ดมิลลิเมตรก็พอแล้ว แต่รายละเอียดหลายอย่างต้องพิจารณาถึงระดับของหมอด้วย
พูดให้ชัดเจนก็คือ เทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ศัลยแพทย์มากมายกลายเป็นผู้ใช้อุปกรณ์ไปแล้ว เพียงใช้อุปกรณ์พวกนี้ พวกเขาก็พัฒนาตนเองไปถึงระดับมาตรฐานได้อย่างว่องไว แต่หากคิดจะพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นยังต้องอาศัยทั้งเทคนิคการผ่าตัดและเทคโนโลยี
ก็เหมือนกับการแกะสลัก
เครื่องแกะสลักในปัจจุบันแกะสลักชิ้นงานออกมาได้ในเวลาไม่นาน แต่นักแกะสลักที่มีฝีมือยอดเยี่ยมยังต้องใช้เวลายาวนานเพื่อแกะสลักชิ้นงานออกมาชิ้นหนึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว เปรียบดั่งคำที่ว่าผู้ไร้ความเชี่ยวชาญมองความงดงาม ผู้เชี่ยวชาญดื่มดำรสนิยม
หลังจากผ่าตัดเสร็จ เฉินชางก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
[ติ๊ง! ทักษะฉายามือใหม่แห่งห้องผ่าตัดทำงาน: โอกาสกระตุ้น 1% ทำงาน ยินดีด้วย คุณได้รับทักษะของอันเยี่ยนจวิน: รับรู้ผ่านกล้อง]
เฉินชางชะงักไป
[การรับรู้ผ่านกล้อง: ทักษะอัตโนมัติระดับกลาง สามารถเพิ่มระดับได้]
[การรับรู้ผ่านกล้อง: คำอธิบายทักษะ: หากสวมใส่ทักษะนี้ เมื่อพบการผ่าตัดที่ต้องใช้เครื่องมือช่วยเหลือ จะส่งผลให้ผู้สวมใส่รับรู้ได้ถึงระยะที่ชัดเจนและทำงานสะดวกขึ้น สามารถใช้ได้กับ: แลปปาโรสโคป[1]และไมโครสโคป[2]เป็นต้น…]
ดวงตาของเฉินชางเปล่งประกายทันที!
ได้ของล้ำค่ามาแล้ว
[การรับรู้ผ่านกล้อง]
ทักษะนี้ดูถูกไม่ได้เลย และยังเป็นทักษะอัตโนมัติใช้งานได้หลากหลายอีกด้วย
ต้องทราบว่าปัจจุบันมีกล้องหลายประเภท แกสโตสโคป[3] โคโลโนสโคป[4] กล้องตรวจกล่องเสียง แลปปาโรสโคป เอ็นโดสโคป[5] ไมโครสโคป……
เยอะมาก
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีไม่หยุดหย่อนทำให้ปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถมากขึ้น หมอเริ่มกลายเป็นผู้ควบคุมอุปกรณ์คล้ายเป็นตัวละครในเกม RPG[6] ดังนั้นพอจะจินตนาการได้เลยว่าการรับรู้ผ่านกล้องเป็นทักษะแบบไหน!
เพิ่มระดับ จะต้องเพิ่มระดับให้เต็ม!
เมื่อคิดดังนั้น เฉินชางก็มองไปยังอันเยี่ยนจวินด้วยสายตาร้อนแรง
คุณชายสะอาดสะอ้านอย่างอันเยี่ยนจวินมีทักษะซ่อนอยู่มากแค่ไหนกันแน่
เห็นได้ชัดว่าอันเยี่ยนจวินและเหล่าเฉินเป็นพวกคนละขั้ว
ถ้าเฉินชางจ้องเหล่าเฉิน
หากเหล่าเฉินรู้ตัว จะต้องใช้วิธีจัดการประมาณว่า “ไม่สบายรึไงครับ? กวนจริงๆ!”
ส่วนอันเยี่ยนจวินดูเป็นผู้ดีกว่ามาก แค่กระแอมออกมาแล้วเบือนหนี ไม่รู้ว่ามองอะไร แต่รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่สบายไปทั้งตัว จากนั้นจึงหมุนตัวไป
เฉินชางทอดถอนใจ
[ค่าความรู้สึกดีของอันเยี่ยนจวิน: -1]
เฉินชางชะงักไป อันเยี่ยนจวิน คุณต้องเข้าใจผมผิดแน่ๆ
เหนื่อยใจจริงๆ
แต่ว่า…ได้ทักษะเปิดใช้อัตโนมัติมาทักษะหนึ่ง ทำให้เฉินชางดีใจมาก หลังจากเปลี่ยนชุดแล้วก็เดินออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ