บทที่ 393 ขอโทษ…ผิดไปแล้ว! (part 2)
จางจื้อซินและเฉินปิ่งเซิงเห็นจางโหย่วฝูก็ยิ้มออกมาทันที “หัวหน้าจาง”
จางโหย่วฝูเห็นทั้งสาม ดวงตาพลันสว่างวาบ “อยู่กันหมดเลย ผ่าตัดอะไรหรือครับ”
“วิปเปิลออเพอเรชั่นครับ” จางจื้อซินกล่าว ผู้ป่วยคนนี้เป็นมะเร็งตับอ่อนระยะลุกลามที่เขาดูแลอยู่
จางโหย่วฝูได้ยินดังนั้นก็เกิดสนใจขึ้นมาแล้ว “อ้อ! คุณหมายถึงผู้ป่วยเตียงยี่สิบเอ็ดสินะครับ ผมสนใจอาการของเขาอยู่พอดี ตอนนี้ผมไม่มีธุระอะไร…งั้นให้ผมเป็นศัลยแพทย์หลักแล้วกัน”
ต้วนปัวที่อยู่ข้างหลังตาค้าง…หัวหน้า คุณจะไม่มีงานได้ไง
วันนี้คุณบอกว่าจะแนะนำผมนะ!
……
เมื่อได้ยินว่าจางโหย่วฝูจะแย่งเป็นศัลยแพทย์หลัก จางจื้อซินก็สับสนขึ้นมาทันที! เฉินปิ่งเซิงเห็นดังนั้นก็เกือบหลุดหัวเราะออกมา
เห็นหน้าบูดเบี้ยวของจางจื้อซิน จางโหย่วฝูก็พูดยิ้มๆ ว่า “ไม่ต้องกังวลไปครับ มีผมอยู่ทั้งคน”
กล่าวถึงตรงนี้ จางโหย่วฝูก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้เฉินชางได้รู้สักหน่อยว่าอะไรคือการผ่าตัดระดับสูง!
จางจื้อซินอดทอดถอนใจออกมาไม่ได้ มาผิดเวลาจริงๆ ทำไมการแสดงความเจ๋งมันยากขนาดนี้นะ
วิปเปิลออเพอเรชั่นเป็นการผ่าตัดที่ยากมาก เรียกว่าเป็นการผ่าตัดผู้ป่วยที่เซลล์มะเร็งยังคงอยู่ในตับอ่อน ไม่ได้ลุกลามออกไปสู่อวัยวะอื่น
การเตรียมการก่อนผ่าตัดก็ค่อนข้างยุ่งยาก การผ่าตัดเช่นนี้ อย่างน้อยก็ต้องใช้หมอระดับแพทย์เจ้าของไข้ที่มีอายุงานสูงสองคนร่วมมือกันผ่า
หลังจากฉีดวิตามินเคให้ผู้ป่วยแล้ว หัวหน้าแผนกวิสัญญีก็มาช่วยรมยาด้วยตัวเอง เนื่องจากการผ่าตัดใช้เวลาค่อนข้างนาน จึงต้องพยายามรมยาให้ปลอดภัยที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนและความดันโลหิตต่ำ
วันนี้จางโหย่วฝูคิดจะแสดงความสามารถต่อหน้าเฉินชาง จะทำให้เฉินชางตะลึงตาค้างให้ได้ ด้วยเหตุนี้จึงหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมา กรีดแผลรูปคันศรที่ท้องส่วนบน!
ตับอ่อนและลำไส้เล็กส่วนต้นปรากฏให้เห็น เฉินชางเบิกตากว้างขึ้นมาโดยพลัน อดกล่าวไม่ได้ว่า “ให้ตายเถอะ…”
ทั้งสามพลันเงยหน้าขึ้น จ้องมองเฉินชาง
จางโหย่วฝูคิดว่าฝีมือของตนทำให้เฉินชางตื่นเต้นนับถือ จึงแอบหัวเราะออกมาอย่างไร้เสียง
ต้องแบบนี้สิ!
จางโหย่วฝูถอนใจ ตกใจใช่ไหมล่ะ
ทว่าความจริงเฉินชางไม่ได้อุทานเพราะเรื่องนี้! แต่เป็นเพราะเขาพบเรื่องน่ากลัวบางอย่างต่างหาก
เขาเห็นขอบเขตการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง!
น่ากลัวเกินไปหรือเปล่า
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกว่าลมหายใจของตนเริ่มกระชั้นถี่
เขาเห็น [ตับอ่อน] และ [ท่อตับอ่อน] สีแดงนั่นอย่างชัดเจน เหนืออวัยวะเหล่านี้ปรากฏพื้นที่สีแดงอยู่ด้วย
[มะเร็งตับอ่อน เลเวล 78 มะเร็งตับอ่อนที่ยังไม่แพร่กระจาย…]
เฉินชางเห็นพื้นที่สีแดงเหนือตับอ่อนอยู่ส่วนหนึ่ง บางส่วนก็เป็นสีเขียว นี่หมายความว่า…พื้นที่สีแดงถูกเซลล์มะเร็งลุกลามไปแล้ว ส่วนพื้นที่สีเขียวคือตับอ่อนที่ยังแข็งแรง!
การค้นพบนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเฉินชาง!
ทำไมถึงกล่าวเช่นนี้น่ะหรือ
เดิมทีการผ่าตัดมะเร็งไม่ได้ถือว่ายากมากนัก แต่สิ่งที่ยากที่สุดก็คือเราไม่ทราบขอบเขตการลุกลามของเซลล์มะเร็ง ดังนั้นการผ่าตัดมะเร็งในหลายๆ ครั้งจึงมักผ่าตัดในขอบเขตที่กว้างเกินความเป็นจริง เช่นมะเร็งตับอ่อน เราไม่จำเป็นต้องตัดตับอ่อนออกทั้งหมดก็ได้!
ทว่าเมื่อพิจารณาถึงผลการผ่าตัดแล้ว ปกติจะใช้หลักการที่ว่า ยอมตัดออกหมดดีกว่าเหลือเซลล์มะเร็งทิ้งไว้! ด้วยเหตุนี้หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยโรคมะเร็งมักมีร่างกายย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เพราะหลักการเช่นนี้เอง
หากเฉินชางมีความสามารถนี้ ตอนผ่าตัดก็จะลดขอบเขตการผ่าตัดให้เล็กที่สุดได้ ซึ่งนับว่ามีความหมายต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งมากจริงๆ!
เช่นนี้แล้วเฉินชางจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร นี่เป็นเหมือนพรจากสวรรค์สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกคนเลยทีเดียว!
การผ่าตัดดำเนินต่อไป อย่างไรจางโหย่วฝูก็เป็นหัวหน้าแผนกคนหนึ่ง การทำงานของเขาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของหมอ
เขาแยกเยื่อแขวนลำไส้ (mesentery) และหลอดเลือดออกไป จากนั้นจึงจัดการกับหลอดเลือดดำพอร์ทัล (Hepatic portal vein) ต่อ
บางทีใครหลายคนอาจไม่ทราบว่าตับอ่อนคืออะไร แต่ทุกคนควรรู้จักอินซูลิน ซึ่งตับอ่อนก็คืออวัยวะที่เป็นแหล่งผลิตอินซูลิน อินซูลินมีหน้าที่สำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากตับอ่อนถูกตัดออกไป การรักษาโรคเบาหวานหลังผ่าตัดจะเป็นเรื่องยากลำบากขึ้นมาก
ถึงอย่างไรอวัยวะก็ถูกตัดออกไปแล้ว คงสบายใจขนาดนั้นไม่ได้หรอก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ