บทที่ 409 ผู้อำนวยการฉินจะมีความสุข!
เมื่อฟังเฉินชางพูดจบ กระทั่งฉินเสี้ยวหยวนก็ยังสับสน อดถามไม่ได้ว่า “เสี่ยวเฉิน คุณเรียนด้านศัลยกรรมความงามมานานแค่ไหนแล้วครับ”
เฉินชางทอดถอนใจออกมา
เฮ้อ มีผู้อำนวยการอยู่ในครอบครัวช่างยากลำบากจริงๆ
จะคิดว่าผมเกเรไปทำอาชีพอื่นหรือเปล่า
จะรังเกียจที่ผมทำหลายอาชีพหรือเปล่า
แต่นี่คือพ่อตาในอนาคตของตน คิดถึงตรงนี้เฉินชางก็อดถอนใจไม่ได้ จากนั้นจึงฝืนทำหน้าหนากล่าวไปว่า “ก็สักระยะแล้วครับ…เรียนรู้กับอาจารย์จางจื้อซินน่ะครับ สองเดือนที่ผ่านมาถ้ามีเวลาช่วงวันเสาร์ผมจะไปช่วยที่คลินิก ได้เรียนรู้อะไรมาไม่น้อยเลยครับ”
เมื่อเขากล่าวออกมาเช่นนี้ ไม่ใช่แค่ฉินเสี้ยวหยวนเท่านั้น กระทั่งฉินเยว่และจี้หรูอวิ๋นก็ยังแอบบ่นในใจ!
คุณเพิ่งฝึกมาสองเดือนก็กล้าลงมีดบนร่างกายฉันแล้วหรือ!
เฉินชาง คุณจะใจกล้าไปถึงไหนกัน!
กระทั่งฉินเสี้ยวหยวนก็ยังตกตะลึงจนตาค้าง กลอกตาใส่ไปรอบหนึ่ง ไอ้หนุ่มนี่ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเลยจริงๆ
แม้จะกล่าวกันว่าเทคนิคพวกนี้เอามาฝึกฝนกับคนในครอบครัวได้ แต่…แบบนี้จะเป็นกันเองเกินไปหรือเปล่า
ยังไม่ทันได้แต่งงาน ยังไม่ทันเปลี่ยนคำเรียกด้วยซ้ำ คำว่าแม่ก็ไม่เห็นจะหลุดออกมาสักคำ! แต่นี่เตรียมลงมีดบนร่างกายภรรยาเขาแล้ว ต่อไปจะไหวเหรอ
คิดถึงตรงนี้ เหล่าฉินก็ชาวาบไปถึงหนังศีรษะ!
ส่วนฉินเยว่ก็เหงื่อไหลท่วมหัว มองคนเป็นแม่อย่างระมัดระวัง กลัวว่าความแปรปรวนตามวัยจะทำให้อีกฝ่ายระเบิดอารมณ์ออกมา
แต่จี้หรูอวิ๋นกลับนิ่งมาก ดังนั้นฉินเยว่จึงผ่อนคลายไปได้บ้าง
ทุกคนอดทอดถอนใจออกมาไม่ได้
เฉินชางเห็นดังนั้นก็รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาโดยพลัน แต่ตอนนี้เขายังอธิบายไม่ได้!
จะพูดว่าตนมีพรสวรรค์เหนือคนธรรมดาก็คงไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
จะให้พูดว่าอาทิตย์แรกก็เก่งเหนือจางจื้อซิน อาทิตย์ที่สองก็คว่ำหยางเทาได้ อาทิตย์ที่สามดวลเดี่ยวกับฉินเสียงจนอีกฝ่ายแพ้ไม่เป็นท่า อาทิตย์ที่สี่ก็เริ่มโดดเด่นในอันหยาง เช่นนี้น่ะหรือ
แบบนี้ไม่พูดดีกว่า!
ฉินเยว่ยิ้มแล้วกล่าวต่อไปว่า “แม่คะ ความหมายของเฉินชางก็คือ เขาช่วยแม่ติดต่อศัลยแพทย์ความงามเก่งๆ ได้ค่ะ ยังไงซะเขาก็ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ค่อนข้างคุ้นเคยกันอยู่”
เฉินชางรีบพยักหน้า “ใช่ครับๆ คุณน้า ผมช่วยติดต่อศัลยแพทย์ความงามให้คุณได้นะครับ”
ฉินเสี้ยวหยวนกระแอมออกมา ฉินเสี้ยวหยวนและจี้หรูอวิ๋นเป็นคนใหญ่คนโตในวงการแพทย์ของเมืองอันหยาง จี้หรูอวิ๋นทำงานด้านประกันสังคม รู้จักกับโรงพยาบาลทุกแห่งในเมือง ส่วนฉินเสี้ยวหยวนก็เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล คนอื่นอยากรู้จักเขาจนแทบอดทนไม่ไหวแล้ว
แต่เสี่ยวเฉินเจตนาดี ดังนั้นฉินเสี้ยวหยวนและจี้หรูอวิ๋นจึงยิ้มตอบ
จี้หรูอวิ๋นพูดยิ้มๆ ว่า “เสี่ยวเฉิน ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องลบเลือนริ้วรอยเท่าไหร่ อธิบายให้ฟังได้หรือเปล่า”
เฉินชางพยักหน้า “คุณน้าครับ ปัจจุบันนี้มีวิธีการลบเลือนริ้วรอยมากมาย แต่วิธีที่ให้ผลยาวนานและมีผลข้างเคียงน้อยก็คือวิธีการผ่าตัดลบเลือนริ้วรอยแบบ SMAS ซึ่งเป็นที่ยอมรับในปัจจุบันมาก ยิ่งไปกว่านั้น การผ่าตัดชนิดนี้ยังคงผลลัพธ์ได้นาน อาจคงผลลัพธ์ได้หกถึงสิบปี…”
เฉินชางอธิบายจบ จี้หรูอวิ๋นก็ประทับใจมากทีเดียว ถ้ามีเวลาเธอจะลองไปศึกษาดูสักหน่อย
ทันใดนั้นฉินเสี้ยวหยวนก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “จริงสิ ผมจำได้ว่าฉินเสียงของโรงพยาบาลตงต้าก็ทำคลินิกศัลยกรรมเหมือนกัน เคยเจอกันหลายครั้งแล้วแต่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ ถ้ามีเวลาพวกเราลองไปถามเขาดูก็ได้”
จี้หรูอวิ๋นพยักหน้า หากเป็นโรงพยาบาลรัฐทั่วไป โดยปกติจะอำนวยความสะดวกให้จี้หรูอวิ๋นอย่างดีเพราะเธอทำงานด้านประกันสังคม ใครบ้างไม่อยากคบหากับเธอ
หากพูดให้ฟังดูแย่สักหน่อยก็คือ ตอนนี้มาตรฐานประกันสังคมค่อนข้างเข้มงวด ฝ่ายประกันสังคมที่มาตรวจสอบประวัติผู้ป่วยก็ทำตามกฎระเบียบเคร่งครัด ต้องตรวจสอบกันอยู่หลายรอบกว่าจะรู้ผล ดังนั้นโรงพยาบาลจะมีเรื่องกับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่กับฝ่ายประกันสังคม!
หากรู้จักคนที่ทำงานอยู่ในฝ่ายประกันสังคมก็จะลดความยุ่งยากไปได้ไม่น้อย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ