เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 427

สรุปบท บทที่ 427 ประวัติผู้ป่วยของผมมันหิวกระหาย!: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

ตอน บทที่ 427 ประวัติผู้ป่วยของผมมันหิวกระหาย! จาก เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 427 ประวัติผู้ป่วยของผมมันหิวกระหาย! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายSlice of Life เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 427 ประวัติผู้ป่วยของผมมันหิวกระหาย!

การสอบทุกอย่างในทั่วทั้งมณฑลตงหยางสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคม เนื่องจากโรงพยาบาลอันดับสองเป็นหน่วยงานที่มีคุณสมบัติเพียงพอซึ่งได้รับเลือกให้เป็นฐานการฝึกอบรมงาน ทำให้มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งมาลงทะเบียน

นี่เป็นเรื่องดีสำหรับหมอของโรงพยาบาลอันดับสองอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนักศึกษาจะช่วยลดทอนงานและความกดดันให้หมอไปได้ในพริบตา

นักศึกษา หรือแพทย์อินเทิร์นเหล่านี้มาช้ากว่านักศึกษาในระดับปริญญาโทเล็กน้อย เนื่องจากนักศึกษาในระดับปริญญาโทมีจำนวนน้อย และ…ที่สำคัญก็คือ คนพวกนี้แต่ละคนต่างก็มีคนให้พึ่งพาอาศัย ตอนมาราวด์[1]ยังไม่ทันได้ราวด์ดีๆ ก็ถูกอาจารย์ที่ปรึกษาของตนเรียกตัวกลับไปแล้ว

อาจารย์ที่ปรึกษาแต่ละคนล้วนเป็นแพทย์ระดับหัวหน้าแพทย์กันทั้งนั้น หากหมอปฏิเสธอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาทั้งที่ยังต้องอยู่โรงพยาบาลเดียวกันคงไม่ค่อยดี ซึ่งหากเทียบกันแล้วแพทย์อินเทิร์น พวกนี้จะมั่นคงกว่ามาก

หลี่เป่าซานบอกเรื่องนี้กับทุกคนในช่วงแลกเปลี่ยนเวรตอนเช้า บรรยากาศภายในห้องหมอพลันครึกครื้น

จางซูเป็นคนแรกที่พูดยิ้มๆ ว่า “จะมีอินเทิร์นมาเหรอ รีบเลย! หัวหน้า คุณก็รับมาเยอะๆ หน่อยล่ะ!”

“ใช่แล้ว! ประวัติผู้ป่วยของผมกำลังหิวกระหาย!” หมอหู หมอแผนกฉุกเฉินฝ่ายอายุรกรรมหัวเราะก่อนจะเอ่ยติดตลก

“ในที่สุดตอนไปราวด์วอร์ดก็ไม่ต้องแบกประวัติผู้ป่วยเองแล้ว รู้สึกเหมือนมีลูกสมุนเลยแฮะ…” หวังเชียนกล่าวอย่างทอดถอนใจ

ได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลี่เป่าซานก็อดพูดไม่ได้ว่า “คนเขามาเรียน ไม่ได้มารับจ้างทำงานให้พวกคุณสักหน่อย เก็บท่าเก็บทางกันด้วย! แต่…มาเป็นแพทย์อินเทิร์นก็คือมาเรียนรู้ทักษะ การเรียนรู้ก็คือเป้าหมาย การทำงานคือวิธีการ ตอนแยกแผนกในอีกสองเดือนต่อจากนี้ ผมจะทำการประเมินแบบกลุ่ม ถ้าพวกอินเทิร์นไม่ผ่าน ก็เป็นความรับผิดชอบของอาจารย์”

ประโยคนี้ของหลี่เป่าซานทำให้ทุกคนชะงักไปทันที

ทุกคนพยักหน้ารับอย่างเสียมิได้

หลี่เป่าซานกำลังจะเดินออกไป จู่ๆ ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงย้อนกลับมาพูดต่อไปว่า “เอ่อ…แพทย์อินเทิร์นจะมาร่วมงานด้วยแล้ว ช่วงเวลาฝึกงานก็คือหนึ่งเดือน แต่เงินช่วยเหลือมีไม่ถึงสองพัน คนที่มีตำแหน่งยังดี ยังมีเงินเดือนพื้นฐานเดือนละสามสี่พัน ส่วนคนไม่มีตำแหน่งก็ได้ประมาณสองพัน เป็นคนหนุ่มสาวทั้งนั้น อยู่ในวัยกำลังใช้เงิน ดังนั้นถ้าทุกคนช่วยเหลือเรื่องค่าข้าวได้ก็ช่วยหน่อยนะครับ พยายามอย่าใช้งานคนอื่นฟรีๆ ล่ะ”

กินข้าวในเมืองอันหยางมื้อหนึ่ง แม้จะเป็นร้านที่ไม่แพงก็ยังต้องใช้เงินมื้อละสิบกว่าหยวน แม้ดูไม่มากแต่ก็เป็นการแสดงน้ำใจ

กล่าวได้ว่าหลี่เป่าซานเป็นคนที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนคนหนึ่ง ในตอนที่เฉินชางยังเป็นแพทย์ชั่วคราว หากมีงานอะไรทำเงินได้ หลี่เป่าซานก็จะให้พวกเขาไปทำ พยายามหาเงินให้มากสักหน่อย

“จริงสิ เลขาฯ ฝ่ายอินเทิร์นของแผนกเราก็ให้ปิ่งเซิงทำไปแล้วกัน ปิ่งเซิง เดี๋ยวพอแพทย์อินเทิร์นมาแล้วคุณก็แบ่งกลุ่มให้ดีนะครับ พยายามทำให้แน่ใจว่าหมอทุกคนจะมีแพทย์อินเทิร์นอยู่ใต้การดูแลอย่างน้อยหนึ่งคน ใครที่ยุ่งหน่อยก็มีสองคน”

เฉินปิ่งเซิงพยักหน้า “ได้ครับ”

หลี่เป่าซานค่อนข้างวางใจเฉินปิ่งเซิง พูดจบก็เดินออกไป

หวังเชียนทอดถอนใจ “เฮ้อ รีบมาเถอะ ผมก็อยากมีอินเทิร์นเป็นของตัวเองเหมือนกัน!”

อันเยี่ยนจวินหรี่ตามองหวังเชียน กล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “คุณก็มีพวกหมอเดนท์คอยติดตามอยู่ไม่ใช่หรือ ไปไหนซะแล้วล่ะ”

หวังเชียนทอดถอนใจ “อาจารย์อัน คุณไม่รู้สินะครับ หมอเดนท์คนนั้นเป็นนักเรียนของหัวหน้าหยางแผนกศัลยกรรมโรคปอด ถูกเรียกกลับไปทำงานที่แผนกแล้ว ส่วนผม…ก็ไม่กล้าถาม ไม่กล้าพูด ยังไงเขาก็เป็นนักเรียนของหัวหน้าหยาง เฮ้อ…วุ่นวาย!”

อันเยี่ยนจวินพยักหน้าสื่อว่าเข้าใจ เรียกว่าสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ไม่จำเป็นต้องล่วงเกินคนระดับหัวหน้าแผนกเพียงเพราะนักเรียนแค่คนเดียว

หวังเชียนมองไปยังอันเยี่ยนจวินยิ้มๆ “ผมยังดี เด็กนั่นก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน เลยมาช่วยดูเรื่องประวัติผู้ป่วยให้ผมเป็นบางครั้ง แต่เฉินชางสิ เขาก็มีนักเรียนอยู่คนหนึ่ง แต่…ดูเหมือนลงทะเบียนแล้วจะไม่เคยมาเลย!”

เฉินชางชะงักไปทันที “ผมมีนักเรียนกับเขาด้วยเหรอ ทำไมไม่รู้เลยล่ะครับ!”

หวังเชียนกล่าวอย่างมีความสุข “ฮ่าๆ ดูสิ นักเรียนตัวเองยังไม่รู้อีก!”

เป็นเช่นนั้นจริงๆ เฉินปิ่งเซิงจัดแจงหมอเดนท์ให้เฉินชางไปคนหนึ่งแล้ว แต่…เฉินชางไม่รู้ตัว!

คิดถึงตรงนี้เฉินชางก็รู้สึกระทมทุกข์ “ทำไมผมไม่รู้ล่ะ”

ฉินเยว่จึงค่อยพึงพอใจ…

เฉินชางมองชายร่างอ้วนที่หนักเกือบเก้าสิบกิโลกรัมคนนั้นเดินมาหาตนเอง อดทอดถอนใจไม่ได้ แอบบ่นในใจว่า ‘ถึงจะไม่เจริญหูเจริญตา แต่…เป็นมงคลกับชีวิต ดีแล้ว’

ชายคนนั้นพูดยิ้มๆ ว่า “สวัสดีครับอาจารย์เฉิน ผมสวีตงตง”

เฉินชางพยักหน้ายิ้มๆ “ครับ คุณ…ทำงานแล้วใช่ไหมครับ”

สวีตงตงพยักหน้า “ผมทำงานอยู่ที่แผนกศัลยกรรมทั่วไปของโรงพยาบาลประชาชนแห่งอำเภอหลัน เพิ่งไปทำช่วงเดือนกันยายนของปีนี้เองครับ”

เฉินชางได้ยินว่าโรงพยาบาลประชาชนแห่งอำเภอหลันก็ชะงักไปเล็กน้อย สวีตงตงดูคล้ายกับเฉียนหลิน แต่ฝ่ายหลังดำกว่าเล็กน้อย ไม่ได้ดูหน้าตาอวบอิ่มเป็นมงคลเหมือนเจ้าหนุ่มนี่

“อายุเท่าไหร่แล้วครับ”

“ยี่สิบเจ็ด! ผมเรียนจบจากวิทยาลัยแพทย์ฉงชิ่ง ส่วนปริญญาโทเลือกเรียนศัลยกรรมทั่วไปครับ” สวีตงตงเห็นเฉินชางอายุไม่มากก็ยิ้มออกมา “อาจารย์เฉินอายุประมาณสามสิบหรือเปล่าครับ”

เฉินชางยิ้ม “พวกเราอายุเท่ากันครับ แต่…ทำไมคุณไม่มาเรียนปริญญาโทที่มณฑลล่ะครับ”

สวีตงตงดูเป็นคนอารมณ์ดีมาก “ผมเรียนปริญญาโทโดยไม่มีใบรับรองการฝึกอบรมน่ะครับ โรงพยาบาลระดับมณฑลเลยไม่รับพวกเรา พอดีว่าโรงพยาบาลอำเภอหลันซึ่งเป็นบ้านเก่าของผมมีนโยบายดึงดูดบุคลากรผู้มีความสามารถ ถ้าไปทำงานที่นั่นจะได้เงินค่าตั้งถิ่นฐานสองแสน อีกอย่างตอนนี้อำเภอหลันก็เจริญแล้วนะครับ หมอต้วนดีกับผมมาก พอผมไปทำงานที่นั่นเขาก็ให้ผมออกมาฝึกงานเลย”

“นอกจากนี้ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหนก็เป็นหมอตรวจโรคเหมือนกัน อยู่ที่อำเภอก็ไม่เลว โอกาสมากความกดดันน้อย ห่างจากเมืองอันหยางไม่ไกล ผมพอใจมากแล้วครับ”

เฉินชางพยักหน้า เจ้านี่ไม่เลวเลย อย่างน้อยก็เป็นพวกมองโลกในแง่ดี

[1] ราวด์ (Round) การสับเปลี่ยนไปเรียนรู้ในแผนกต่างๆ ของโรงพยาบาลเพื่อศึกษาเบื้องต้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ