เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 429

บทที่ 429 ความกังวลของอาจารย์เมิ่ง

ภายในห้องพักของหมอฝึกงาน ทุกคนกำลังสนทนากัน

“เฮ้อ อาจารย์ที่ผมติดตามเป็นอาจารย์ที่จบแค่ปริญญาตรี เข้ามาทำงานที่แผนกฉุกเฉินสามปี เดาว่าฝีมือคงไม่ดีไปกว่าผมหรอก!” ชายคนหนึ่งทอดถอนใจ “คงใช้ผมเขียนแต่ประวัติผู้ป่วย!”

“รัฐบาลให้มาฝึกงานเพื่อพัฒนาพวกเรา แต่ตอนนี้ดูแล้วดูเหมือนฝีมือหมอพวกนั้นยังเทียบพวกเราไม่ได้เลย!” ชายอีกคนหนึ่งพูดยิ้มๆ

พวกเขามาฝึกงานที่โรงพยาบาลอื่นก็เพราะใบรับรอง หากได้ใบรับรองจะได้รับพิจารณาตำแหน่งงานง่ายกว่า หลายคนมีอายุงานไม่น้อยแล้ว ที่สามสิบกว่าปีก็มี ที่สี่สิบกว่าปีก็มาก

“เสี่ยวสวี หมอที่คุณต้องติดตามคนนั้น ผมได้ยินว่าเขาก็จบแค่ปริญญาตรี ส่วนคุณเรียนปริญญาโทแล้ว ไม่แน่ว่าต้องสอนเขาอีก” ชายอายุสามสิบกว่าปีคนหนึ่งพูดด้วยรอยยิ้ม

สวีตงตงได้ยินแล้วก็ทำเพียงยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาดูออกว่าความรู้ของเฉินชางเหนือเขาไปไกลแล้ว

“ประสบการณ์ด้านงานคลินิกของหมอทุกท่านมากกว่าพวกเราเยอะ สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็มีไม่น้อยเลยนะครับ” สวีตงตงยิ้ม นี่ไม่ใช่การพูดแก้ตัวให้ใคร แต่หากจะให้เขาพูดจาว่าร้ายเฉินชาง เขาคิดว่าไม่จำเป็น

ในห้องมีหมอฝึกงานสี่คน อยู่ที่แผนกฉุกเฉินทั้งหมด ทุกคนอายุประมาณสามสิบกว่าปี สวีตงตงมีประวัติการศึกษาสูงที่สุดแต่อายุน้อยสุด

“ฮ่าๆ เสี่ยวสวี คุณยังเด็กเกินไป ผมจะบอกคุณให้ ที่โรงพยาบาลอันดับสองไม่ใช่ว่าหมอทุกคนจะมีความสามารถกันหมดนะครับ หมอหลายคนก็เข้ามาเพราะเส้นสาย!” ชายที่เริ่มพูดเป็นคนแรกจงใจภูมิ

สวีตงตงคิดว่าถกกับพวกเขาเรื่องนี้ก็ไม่มีความหมาย จึงทำเพียงพยักหน้ายิ้มๆ

สวีตงตงทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งอำเภอหลันได้สองเดือนแล้ว เขาพบว่าโรงพยาบาลใหญ่กับโรงพยาบาลเล็กแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดอยู่จุดหนึ่ง นั่นก็คือหากทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเล็กๆ นานวันเข้าจะทำให้กลายเป็นคนไม่ชอบเรียนรู้ อาจเป็นเพราะบรรยากาศการแข่งขันต่ำ มีความปลอดภัยในหน้าที่การงานสูง หรืออาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น…

โดยปกติหมอเหล่านี้จะเห็นการรักษาเป็นส่วนหนึ่งของงาน แต่ไม่ใช่ภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ การแข่งขันไม่ได้วัดกันที่ทักษะการรักษา หรือฝีมือทางการเรียนรู้ แต่เป็นเรื่องของเส้นสาย

พวกเขามองหลายสิ่งหลายอย่างเป็นคอนเน็คชันและความสัมพันธ์ แต่ความจริงสาเหตุของสิ่งเหล่านั้นก็เพียงเพราะความเหนื่อยล้าในการพัฒนาตนเองเท่านั้น ในความคิดของสวีตงตง คอนเน็คชันที่แท้จริงขึ้นอยู่กับความสามารถในการพัฒนาตนเองแต่ละด้าน ไม่ว่าจะความสามารถในการทำงาน ความสามารถในกิจการ ตลอดจนความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม

แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเช่นนี้ แต่สวีตงตงคิดว่าหลายคนมีความคิดเช่นนี้

ทันใดนั้นสวีตงตงก็ย้อนคิดไปถึงตอนที่ตนเซ็นสัญญากับโรงพยาบาลประชาชนแห่งอำเภอหลัน อาจารย์หมอปริญญาโทคนหนึ่งพูดกับเขาอย่างจริงใจว่า “เสี่ยวสวี ต่อไปอย่าสะดวกสบายจนเคยตัว อย่าลืมขยันเรียนรู้ อย่าตามคนมากกว่าตามงาน”

ตอนนี้เขาเข้าใจประโยคนี้ลึกซึ้งขึ้นแล้ว

โรงพยาบาลอันดับสองจะเป็นอย่างไร เขาไม่ขอวิจารณ์ชั่วคราว แต่เขามาอยู่ที่นี่ได้วันหนึ่งแล้ว เขาสังเกตหมอที่นี่อยู่ตลอด ไม่ว่าจะอายุมากอายุน้อย ประวัติการศึกษาสูงหรือต่ำ ปกติหากมีเวลาก็จะพูดคุย หรือถกปัญหาเกี่ยวกับเคสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานคลินิก หรือเรื่องการเรียนรู้ หากมีเวลาว่างทุกคนก็จะอ่านหนังสือ

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เสแสร้งออกมา แต่เป็นความเคยชิน!

ความแตกต่างนี้เห็นได้ชัดมาก

ชายวัยกลางคนอีกสามคนที่อยู่ในห้องนี้ พอกลับมาแล้วก็เอาแต่คุยเล่น โทรหาคนที่บ้าน ไม่ก็ดูคลิปวิดีโอ ส่วนสวีตงตงก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดูคลิปผ่าตัด

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นความเชี่ยวชาญของเขา ควรพัฒนาเสียหน่อย

……

……

ณ ห้องพักหมอแผนกศัลยกรรมหัวใจแห่งโรงพยาบาลตงต้า

เมิ่งซีนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ ปลดกระดุมเสื้อกาวน์ออกเม็ดหนึ่งเพื่อให้สบายตัว สองมือยกขึ้นกอดอก กำลังครุ่นคิดบางอย่าง

ทำไมช่วงนี้เฉินชางไม่มา

เพราะเธอทำอะไรไม่ดีหรือ

เพราะเธอเข้มงวดเกินไปหรือ

หรืออาจเป็นเพราะเธอยังใส่ใจเขาไม่พอหรือเปล่า

เมิ่งซีทำเรื่องนี้เป็นครั้งแรก แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยเป็นอาจารย์ใคร จู่ๆ เฉินชางก็ไม่มา เธอจึงคิดเอาเองว่าตนไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า! อันที่จริงเธอพอใจเฉินชางมากเลยทีเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ