บทที่ 462 โดนอะไรกระตุ้นมา – ตอนที่ต้องอ่านของ เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
ตอนนี้ของ เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายSlice of Lifeทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 462 โดนอะไรกระตุ้นมา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 462 โดนอะไรกระตุ้นมา
ฉินเสี้ยวหยวนไม่ได้โกรธ อย่างมากก็แค่รู้สึกจนใจ! แต่เขาจนใจกับลูกสาวตัวเอง ไม่เกี่ยวกับเฉินชางแม้แต่น้อย เขารู้ดีว่าเฉินชางทำเรื่องเช่นนี้ไม่ได้แน่ๆ นี่ต้องไม่ใช่ความคิดเสี่ยวเฉินแน่นอน ที่อีกฝ่ายพูดเช่นนี้ก็เพื่อยอมรับความผิดแทนฉินเยว่!
คิดแล้วฉินเสี้ยวหยวนก็โกรธไม่ลง กลับรู้สึกเบิกบานใจมากกว่า เพราะนี่แสดงให้เห็นว่าเฉินชางมีความรับผิดชอบ รู้จักปกป้องฉินเยว่ด้วย นับว่าเป็นเป็นสุภาพบุรุษ!
คนเป็นพ่อแม่จะไม่เข้าใจลูกสาวตัวเองเชียวหรือ
จี้หรูอวิ๋นมองเฉินชาง อดยิ้มไม่ได้เช่นกัน
เด็กคนนี้ ยิ่งมองก็ยิ่งไม่เลว ไม่เพียงแต่จะมีความสามารถสูง ทั้งยังเป็นคนดีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ฉินเยว่ที่อยากปกป้องว่าที่สามีได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจ จึงรีบบอกไปว่า “พ่อคะ แม่คะ นี่ไม่ใช่ความคิดของเฉินชางนะคะ อย่าตำหนิเขาเลย!”
“เป็นเพราะหนูเอง เมื่อคืนหนูเห็นว่าสูทของเฉินชางใส่ไม่ได้แล้ว แล้วเขาก็ยุ่งทั้งวัน เหนื่อยจนทำอะไรไม่ไหว หนูอยากให้เขาพักผ่อนเร็วๆ เลยไม่ได้ไปซื้อกัน คิดว่ายืมของพ่อมาใส่ก่อนแล้วค่อยไปซื้อ…”
ฉินเสี้ยวหยวนพูดยิ้มๆ ว่า “เอาละ พ่อไม่โกรธ ไม่ได้เอาไปใส่จนขาดสักหน่อย อีกอย่าง เสี่ยวเฉินใส่แล้วก็เหมาะมาก!”
“ลูกคนนี้นี่ มีอะไรก็มาบอกพ่อตรงๆ ได้เลย คนเป็นพ่อจะทำให้ลูกไม่ได้เชียวเหรอ ยังมาทำตัวลับๆ ล่อๆ กับพ่ออีก!”
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาทันที
ที่เหล่าฉินไม่ให้เสื้อไปเลย ไม่ใช่เพราะตัดใจไม่ได้ แต่เขารู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสมนัก ถ้าตนยังไม่ได้ใส่ก็ยังดี แต่เสื้อตัวนี้เขาใส่ไปแล้ว หากมอบให้เฉินชาง เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะรังเกียจ
ฉินเสี้ยวหยวนเป็นผู้นำมาชั่วชีวิต จึงค่อนข้างคิดมาก
เมื่อเห็นพ่อแม่ไม่โกรธ ฉินเยว่จึงคลายใจลงได้บ้าง เธอพูดยิ้มๆ ว่า “พ่อคะ ที่จริงพอเฉินชางใส่เสื้อตัวนี้แล้วก็ถือว่าได้เพิ่มรัศมีให้เสื้อของพ่อนะคะ! พ่อว่าใช่หรือเปล่า ตอนนี้มันมีความพิเศษขึ้นมาแล้วนะคะ”
ฉินเสี้ยวหยวนและจี้หรูอวิ๋นได้ยินฉินเยว่กล่าวเช่นนี้ก็ยิ้มออกมา
ตอนเที่ยง ทั้งสี่ไม่ได้กินข้าวในโรงแรม พวกเขาออกไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารดีๆ แห่งหนึ่งด้วยกันโดยมีเหล่าฉินเป็นเจ้ามือ
……
……
เมื่อมีเฉินชางเข้ามาเพิ่ม ทำให้ครอบครัวสามคนดูคึกคักขึ้นมา
ทันใดนั้น เฉินชางก็คิดขึ้นมาได้ว่าอีกไม่นานจะเป็นวันเกิดของแม่เขาแล้ว ดังนั้นเขาจะต้องจัดตารางงานให้ดี เพราะเขาตัดสินใจแล้วว่าพอถึงเวลาจะพาฉินเยว่กลับบ้านไปร่วมงานวันเกิดแม่เขาด้วยกัน
ช่วงสองปีก่อนเขายุ่งทุกปี ปลีกตัวไปไม่ได้จริงๆ และเขาก็เป็นพนักงานใหม่จึงเกรงใจหากจะต้องขอแลกเวรกับคนอื่น ทว่าตัวเขาเองก็ทำงานให้คนอื่นไม่น้อยเลยทีเดียว
โรงพยาบาลอันดับสองของมณฑลนี้ไม่ใช่โรงพยาบาลที่ยอดเยี่ยมมากมายนัก เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพการบริการของโรงพยาบาลและเพิ่มจำนวนผู้มาใช้บริการ ฉินเสี้ยวหยวนจึงไม่ได้กำหนดวันหยุดของโรงพยาบาล แต่จะใช้วิธีการเวียนกันหยุด เพื่อเป็นหลักประกันว่าบุคลากรจะเตรียมพร้อมทำงานได้ทุกเมื่อ ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ไอรีนโนเวล ขอบคุนจ้า
อย่างไรก็ตาม วันจันทร์หน้า พนักงานที่แผนกฉุกเฉินเพิ่งรับมาใหม่จะเข้ามาปฏิบัติงานอย่างเป็นทางการแล้ว บางทีอาจจะไม่ยุ่งเท่าไหร่นัก
เฉินต้าไห่ชอบงานอลังการ เฉินชางจึงคิดว่าอีกสองวันจะไปซื้อรถดีๆ สักคันหนึ่ง ขับพาว่าที่ลูกสะใภ้สวยๆ ไปด้วย ให้เหล่าเฉินรู้สึกมีหน้ามีตาสักหน่อย
ตอนนี้เฉินชางไม่ขาดแคลนเงินทอง เงินหลายล้านหยวนก็เอาออกมาใช้ได้สบายๆ เขาจึงคิดว่าหากพ่อแม่มาหา จะรับพวกท่านมาดูแลที่อันหยาง
ไม่ใช่ว่าในหมู่บ้านไม่ดี แต่บริการสาธารณสุขของที่นั่นยังไม่ดีนัก อีกอย่าง จะให้คนเฒ่าคนแก่ทั้งสองออกมาจากหมู่บ้านตอนนี้เลยพวกเขาคงไม่ดีใจ เพราะใช้ชีวิตอยู่ที่ชนบทกันมาจนเคยชินแล้ว
พวกเขารับประทานอาหารจนถึงบ่ายสอง เสร็จแล้วฉินเยว่กับเฉินชางก็ไปเดินเล่นด้วยกัน ส่วนฉินเสี้ยวหยวนและจี้หรูอวิ๋นก็กลับบ้าน
ก่อนแยกย้าย ฉินเสี้ยวหยวนแซวลูกสาวว่า “กลับช้าหน่อยก็ได้ เดินเที่ยวกันเยอะๆ หน่อย”
ช่วงเย็น ฉินเยว่และเฉินชางไปซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่ในแต่ละฤดูกาลด้วยกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
แต่เธอสาบานว่าจะไม่ให้เฉินชางกินแน่ ฝึกอีกสักพักค่อยเอาไปให้เขากิน!
เฉินชางชะงักไปทันที รู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก แต่เห็นฉินเยว่มีท่าทางมั่นอกมั่นใจเช่นนั้นก็ได้แต่ยอมแพ้! เขาคิดแล้วว่าต่อให้รสชาติแย่ขนาดไหนก็คงไม่มีปัญหา เพราะเขาไม่ใช่พวกเลือกกิน
กลับถึงบ้านแล้วเฉินชางก็เปลี่ยนเสื้อผ้า นำสูทไปส่งร้านซักรีดพร้อมกำชับที่ร้านอย่างดี
……
……
ทางด้านฉินเยว่ก็รีบกลับบ้านมาอย่างเร่งร้อนเพราะกลัวว่าพ่อแม่จะเริ่มกินข้าวกันแล้ว
ฉินเสี้ยวหยวนเห็นฉินเยว่กลับเร็วขนาดนี้ก็ชะงักไปทันที “ทำไมกลับเร็วจังลูก พ่อกับแม่ยังไม่ได้กินข้าวเลย”
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นพลันโล่งใจ มองเหล่าฉินยิ้มๆ “พ่อคะแม่คะ วันนี้ลำบากกันแล้วนะคะ เดี๋ยวหนูทำกับข้าวให้เอง!”
เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา จี้หรูอวิ๋นและฉินเสี้ยวหยวนพลันสบตากัน
รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ!
นี่เป็นครั้งแรก…ในประวัติศาสตร์เลยมั้ง
ฉินเยว่เคยทำกับข้าวที่บ้านด้วยหรือ
ทั้งสองมองฉินเยว่อย่างกระวนกระวายใจ
ลูกคนนี้ไปโดนอะไรกระตุ้นมากันแน่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ