เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 482

บทที่ 482 คุณยังหนุ่ม เรียนรู้จากอาจารย์เฉินให้ดีๆ!

ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉินชางจึงมีฉายาที่ใช้เรียกกันในแผนกฉุกเฉินเพิ่มอีกฉายาหนึ่งคือ ‘ผู้อำนวยการเฉิน!’

ทุกคนคิดว่าตำแหน่งหัวหน้าแผนกไม่ยิ่งใหญ่พอ ‘หัวหน้าเฉิน’ ก็ไม่อลังการงานสร้างเท่า ‘ผู้อำนวยการเฉิน’

เฉินชางมีสีหน้าหวาดระแวง รู้สึกเครียดขึ้นมาแล้ว เขามองฉินเยว่ สูดหายใจลึกๆ กระซิบเบาๆ ว่า “ลูกสาวท่านผู้อำนวยการ ผมไม่ได้อยากแย่งตำแหน่งจริงๆ นะครับ”

แต่เรื่องขำขันก็ส่วนเรื่องขำขัน การราวด์วอร์ดตอนเช้าทำให้ทุกคนรู้ว่าชื่อ ‘ผู้อำนวยการเฉิน’ ไม่ได้มาเล่นๆ ผู้อำนวยการเฉินคนนี้มีความสามารถอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอัตราความสำเร็จในการผ่าตัดผู้ป่วยของเขาอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว

ลักษณะท่าทางตอนตรวจเยี่ยมผู้ป่วยของเขาก็ไม่แตกต่างอะไรจากหัวหน้าแผนก

สือน่าเดินนำเหอลู่ เหอลู่อุ้มประวัติผู้ป่วยเดินตามโดยมีเฉินชางอยู่ข้างๆ

เมื่อสือน่ารายงานอาการของผู้ป่วยจบแล้วเฉินชางก็ตรวจให้ผู้ป่วยเล็กน้อย จากนั้นจึงออกคำสั่งแพทย์ตามอาการของผู้ป่วย

เหอลู่ที่ยืนดูอยู่ข้างๆ รู้สึกแปลกใจ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นงานของหัวหน้าแผนก

นอกจากนี้เหอลู่ยังพบด้วยว่า เมื่อมาถึงห้องพักผู้ป่วยแล้ว ทุกคนจะให้ความเคารพเฉินชางอย่างมาก ทั้งยังเรียกอย่างสนิทสนมว่า ‘หมอเฉิน’ อีกด้วย

คนที่เพิ่งมาทำงานในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองได้เพียงสองวันสั้นๆ ต่างรับรู้แล้วว่าผู้อำนวยการเฉินคนนี้ไม่ใช่ฉายาที่เกินจริงแม้แต่น้อย แต่เขามีฝีมือคู่ควรกับฉายาจริงๆ

แม้จะไม่เคยเห็นเฉินชางผ่าตัด แต่ฟังจากคำพูดของผู้ป่วยแล้ว ผู้อำนวยการเฉินคนนี้มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ นี่ทำให้ทุกคนทั้งแปลกใจและคาดหวัง คิดว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นการผ่าตัดของเฉินชางกับตาสักที!

ด้วยเหตุนี้ ความลึกลับของผู้อำนวยการเฉินจึงกลายเป็นความคาดหวังในใจของหมอที่เพิ่งมาใหม่ทุกคนไปโดยปริยาย

……

……

อย่างไรก็ตาม ต่อให้เฉินชางได้ชื่อใหม่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเหล่าเฉินสักนิด!

เพิ่งไปตรวจเยี่ยมผู้ป่วยให้สือน่าเสร็จ เหล่าเฉินก็ส่งประวัติผู้ป่วยมาให้หลายเล่ม พูดเย้าไปว่า “ผู้อำนวยการเฉิน ถือให้ดีนะครับ ถ้าตกไปคุณต้องไปปรินท์ผลการตรวจมาใหม่นะครับ”

เฉินชางกัดฟันแน่น ได้แต่โกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไร!

หลัวโจวพอจะมองความสัมพันธ์ระหว่างเฉินชางและเหล่าเฉินออก ทำให้เขารู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

เขายิ้มพูดไปว่า “มาเถอะ ส่งมาให้ฉันเถอะ”

เฉินชางยิ้ม “ไม่เป็นไร ฉันถือจนชินแล้วละ ดูกล้ามแขนฉันสิ ได้มาจากการถือประวัติผู้ป่วยนี่แหละ!”

หมอในห้องพากันหัวเราะออกมา

หากมีเฉินใหญ่เฉินน้อยอยู่ ห้องพักหมอแห่งนี้คล้ายจะไม่เคยขาดแคลนเสียงหัวเราะเลยสักครั้ง

เหล่าเฉินมีผู้ป่วยค่อนข้างมาก ซึ่งรวมถึงคนไข้ของหวังหย่งด้วย ดังนั้นจึงใช้เวลาในการตรวจเยี่ยมพักใหญ่

ตอนเช้ามีผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณมือมาใหม่คนหนึ่ง อันเยี่ยนจวินจึงคิดจะพาเจียงเทาที่เพิ่งมาใหม่ไปผ่าตัดก่อนแล้วค่อยกลับมาราวด์วอร์ด ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงตรงไปที่ห้องผ่าตัดด้วยกัน

ระหว่างทางเจียงเทาถามเรื่องเฉินชางไม่หยุด อันเยี่ยนจวินไม่ค่อยชอบพูดอะไรนัก แต่ก็ยังตอบกลับไปเป็นบางครั้ง

คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่มักจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อเห็นคนอื่นเก่งๆ ก็มักจะเกิดความคิดโอหังในใจ คิดเปรียบเทียบไม่มากก็น้อย นี่คือเรื่องปกติ ทุกคนต่างก็มีใจอยากแข่งขันอยากเอาชนะกันทั้งนั้น

ยิ่งเป็นคนที่เพิ่งเรียนจบปริญญาเอกเช่นเจียงเทาก็ยิ่งเลือดร้อน ยิ่งทุ่มเทให้กับตำแหน่งหน้าที่การงานมากกว่าคนอื่น!

อันเยี่ยนจวินไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องเลวร้ายอะไร คนหนุ่มสาวก็มีนิสัยเช่นคนหนุ่มสาว อีกอย่าง บางครั้งการเปรียบเทียบและการแข่งขันอย่างสมเหตุสมผลก็ช่วยให้คนเราก้าวหน้าได้เช่นกัน

แต่ว่า…อันเยี่ยนจวินเห็นท่าทางของเจียงเทาแล้วก็อยากเตือนสักประโยคจริงๆ

คุณเทียบกับคนอื่นได้ จะเทียบกับผมก็ยังได้ แต่ว่า…อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับเฉินชางเป็นอันขาด จะเลือกเป้าหมายก็ต้องเลือกให้มันเหมาะสมด้วย

ถึงอย่างไร…ระหว่างคุณกับเฉินชางไม่เรียกเปรียบเทียบหรอก แต่เรียกว่าถูกข่มเหงซะมากกว่า!

การหาคู่แข่งไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร แต่ถ้าคุณหาคู่ต่อสู้ที่คุณไม่อาจเอาชนะได้ตลอดชีวิต ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

ทว่าเห็นเจียงเทามีท่าทางทะเยอทะยานเช่นนั้น อันเยี่ยนจวินก็อดทอดถอนใจไม่ได้ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย

คนหนุ่มเช่นนี้ หากตนพูดออกไปก็ไม่แน่ว่าจะเชื่อ

คิดถึงตรงนี้ อันเยี่ยนจวินก็ได้แต่ระงับคำที่อยากพูดเอาไว้ คนหนุ่มสาวเช่นนี้ หากไม่เจอดีซะบ้างจะรู้จักถ่อมตนได้อย่างไร บางทีนี่อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายก็ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ