เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 483

บทที่ 483 ยังไม่โตจริงๆ!

ระหว่างออกจากห้องผ่าตัด เจียงเทาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง!

เขาทบทวนคำพูดของอู๋ปัวผู้เป็นวิสัญญีแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง

คำพูดที่ว่า ‘เรียนรู้จากหัวหน้าอันให้ดีๆ’ ไม่มีอะไรผิด ถึงอย่างไรหัวหน้าอันก็เป็นแพทย์อาวุโสของตน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นหมอระดับหัวหน้าแพทย์แล้วด้วย ย่อมมีประสบการณ์ด้านงานคลินิกมากมาย ควรค่าต่อการเรียนรู้!

แต่ว่า…อะไรคือ ‘ถ้ามีเวลาก็ไปให้หมอเฉินชี้แนะให้ดี’ เห็นได้ชัดว่าประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าการชี้แนะของเฉินชางมีค่ามากยิ่งกว่าหัวหน้าอันเสียอีก!

มีเหตุผลเช่นนี้ที่ไหนกัน! แล้วทำไมหัวหน้าอันจึงไม่โกรธเลยสักนิด

คิดแล้วเจียงเทาก็ยิ่งรู้สึกว่าเฉินชางซ่อนความลับอันใหญ่หลวงเอาไว้! ยิ่งคิดก็ยิ่งกระตือรือร้น! ด้วยเหตุนี้เจียงเทาจึงตัดสินใจกับตัวเองว่าจะต้องสืบค้นเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อนค่อยว่ากันอีกครั้ง

เมื่อกลับมาถึงห้องหมอของแผนก เจียงเทาพบว่าในห้องมีฉินเยว่กำลังจัดการข้อมูลต่างๆ อยู่เพียงลำพัง

เจียงเทาเดินยิ้มเข้าไปหา “สวัสดีครับหมอฉิน”

ฉินเยว่เงยหน้าขึ้น ยิ้มให้เล็กน้อย “สวัสดีค่ะหมอเจียง”

อืม ทักทายได้มีมารยาทมาก

เจียงเทาดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆ ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “หมอฉินครับ ผมได้ยินมาว่าคุณผ่านการทดสอบเข้าเรียนปริญญาเอกแล้วใช่ไหมครับ คุณคิดจะไปเรียนที่ไหนเหรอครับ”

เรื่องที่ฉินเยว่จะเข้าเรียนปริญญาเอกไม่ใช่ข่าวใหม่อะไร ทุกคนในห้องพักหมอในแผนกต่างพูดกันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว รวมกับที่ตอนนี้ฉินเยว่อยู่ในช่วงเปลี่ยนสายงานไปทางงานวิจัย ทุกคนจึงรู้ว่าฉินเยว่กำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัว

ฉินเยว่พยักหน้า “ค่ะ ฉันคิดว่าอาจจะไปเรียนที่เมืองหลวงค่ะ แต่ก็อาจเลือกเรียนภาคพิเศษ คงไม่ได้เรียนเต็มวันค่ะ”

เจียงเทาได้ยินดังนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “เมืองหลวงเหรอครับ เมืองหลวงก็ดี! แต่…ผมว่าจะเรียนทั้งทีก็เลือกเรียนเต็มวันไปเลยดีกว่านะครับ ตอนนี้มูลค่าของนักศึกษาปริญญาเอกที่เรียนภาคพิเศษไม่ค่อยสูง ไม่เป็นที่ยอมรับในหลายหน่วยงาน”

เจียงเทากล่าวไปตามเหตุผล

ฉินเยว่พยักหน้าแล้วพูดยิ้มๆ ว่า “ฉันอายุมากแล้วค่ะ ถ้าเลือกเรียนเต็มวันจะมีความกดดันเรื่องงานวิจัยสูง”

เจียงเทารีบพูดยิ้มๆ ว่า “คุณยังไม่โตขนาดนั้นหรอกครับ!”

เจียงเทาคิดว่ายิ่งใช้คำพูดที่ฟังดูตลกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างความประทับใจให้คู่สนทนาได้มากเท่านั้น แต่เขาไม่สังเกตเลยว่าใบหน้าของฉินเยว่ดำคล้ำไปหมดแล้ว โกรธจนเลือดลมแทบตีกลับ

อะไรไม่โต

แกสิไม่โต!

เล็กไปทุกอย่างนั่นแหละ!

คำว่าเล็ก หรือไม่โต กลายเป็นคำต้องห้ามในพจนานุกรมของฉินเยว่ไปแล้ว กระทั่ง ‘ผู้อำนวยการเฉิน’ ก็ยังไม่กล้าพูด แต่อีกฝ่ายถึงกับพูดออกมาแล้ว!

ตอนนี้หวังเชียนเดินเข้ามาพอดี เมื่อเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปโดยพลัน

เจ้าหมอนี่กล้ามาตอแยดอกไม้ประจำแผนกเราเชียวหรือ เอาชางเอ๋อร์ไปไว้ที่ไหน ไม่ได้การแล้ว!

คิดถึงตรงนี้ หวังเชียนก็รู้สึกว่าตนเองควรช่วยเพื่อนสักหน่อย

จู่ๆ หวังเชียนก็กล่าวขึ้นว่า “หมอเจียง คุณยังหนุ่มแต่ก็มีความสามารถสูง ประวัติการศึกษาก็ดี มีแฟนหรือยังครับ”

หมอเจียงยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ผมเอาแต่เรียนมาตลอดเลยไม่ทันได้หาแฟนน่ะครับ นอกจากนี้ผมก็อยากกลับมาอันหยางด้วย ถ้ามีแฟนก็อาจไม่มั่นคง เลยคิดว่ารอให้มั่นคงก่อนค่อยว่ากัน!”

หวังเชียนได้ยินดังนั้นก็ยิ่งรู้สึกระแวง เจ้าหมอนี่…ใจไม่บริสุทธิ์ ต้องรีบไปเตือนชางเอ๋อร์สักหน่อยแล้ว ไม่งั้นถ้าดอกไม้ประจำแผนกอย่างฉินเยว่ถูกแย่งไป ผู้อำนวยการฉินก็จะถูกคนอื่นดึงตัวไปด้วย นี่เรียกว่าสูญเสียภรรยาไปแล้วยังเสียผู้อำนวยการไปอีก เสียหายหลายแสน!

……

ตอนนี้อันเยี่ยนจวินก็กลับมาถึงห้องหมอของแผนกแล้ว เขาเห็นเหตุการณ์นี้พอดีจึงอดพูดไม่ได้ว่า “เสี่ยวเจียง ไปตรวจเยี่ยมผู้ป่วยกับผมเถอะ เสี่ยวเฉินทำงานเสร็จแล้ว”

เจียงเทาพยักหน้า เทียบกับฉินเยว่แล้ว ตอนนี้เขาสนใจเฉินชางมากกว่า คิดแล้วก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามออกไปทันที

ความทรงจำของเฉินชางไม่เลวเลย เขาจดจำคนไข้ได้เป็นอย่างดี เมื่อไปถึงห้องผู้ป่วยเฉินชางก็พูดจายิ้มแย้มกับผู้ป่วยทุกคนด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ ผู้ป่วยถูกเรียกชื่อจนครบทุกคนจึงทำให้รู้สึกสนิทสนมกับหมอยิ่งขึ้น

ถ้าสื่อสารกับผู้ป่วยให้ดีย่อมมีส่วนช่วยในงานได้มาก นี่คือสิ่งที่เหล่าเฉินสอนเฉินชาง

“เฮ้อ หมอเฉิน ผมรู้สึกว่าผมฟื้นตัวได้ดีเลยนะครับ ตอนเคลื่อนไหวก็ยิ่งรู้สึกได้…ต้องขอบคุณหมอเฉินมากเลยนะครับ!” ผู้ป่วยพูดยิ้มๆ

เฉินชางพยักหน้า “คุณผ่าตัดเสร็จไปสิบหกชั่วโมงแล้ว อีกเดี๋ยวก็ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะครับ คืนนี้ก็ไปเคลื่อนไหวทำกายภาพสักหน่อย พอจะออกจากโรงพยาบาลก็ไปรับคู่มือกายภาพที่เคาน์เตอร์พยาบาลด้วยนะครับ กลับไปก็ฝึกตัวเองให้ดี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ