เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 491

สรุปบท บทที่ 491 ผมเคยได้ยินชื่อนี้!: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

สรุปเนื้อหา บทที่ 491 ผมเคยได้ยินชื่อนี้! – เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet

บท บทที่ 491 ผมเคยได้ยินชื่อนี้! ของ เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 491 ผมเคยได้ยินชื่อนี้!

พอได้ยินข่งเสียงหมินพูดแบบนี้ ฉินเสี้ยวยวนก็พอจะฟังอะไรออกบ้างแล้ว

แต่ฉินเสี้ยวยวนเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่อยากให้เสียน้ำใจ จึงบอกว่า “ผู้อำนวยการ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครับ เอาอย่างนี้ เสี่ยวเฉิน คุณพาเจียฮุยไปแผนกศัลยกรรมกระดูก ทำเรื่องย้ายออกจากแผนกุกเฉิน อีกเดี๋ยวผมตามไป”

“ทุกคนไปก่อนเลยครัย เดี๋ยวผมกับเสี่ยวเฉินตามไปทีหลัง”

ข่งเสียงหมินได้ฟังเขาบอกแบบนี้แล้วพยักหน้าเล็กน้อย “เอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวผมนั่งคุยอยู่ตรงนี้สักประเดี๋ยวก็ได้ พวกคุณไปจัดการธุระก่อน แล้วค่อยโทรศัพท์หาผม”

ที่จริงการทำเรื่องการเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลของข่งเจียฮุย ข่งเสียงหมินที่เป็นพ่อควรไปจัดการเอง แต่…ด้วยฐานะพิเศษ เขาจึงไม่สะดวกออกหน้ามากนัก จะให้คนอื่นทำแทนก็ไม่เหมาะ แต่ถ้าให้เฉินชางไปทำแทน ก็ถือว่าเหมาะสมที่สุด ถึงอย่างไรเฉินชางก็ยังต้องเรียกลูกชายตัวเองว่าพี่เจียฮุย!

ต้องบอกเลยว่าฉินเสี้ยวยวนประสานงานเก่งมาก สั่งให้เฉินชางไปจัดการเรื่องนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว ทั้งดีต่อตัวเฉินชางเอง ทั้งเพิ่มความสนิทสนมระหว่างกันได้

แต่ข่งเสียงหมินไม่ได้มีความคิดอย่างอื่น

……

……

เฉินชางกับพยาบาลเข็นข่งเจียฮุยไปทำเรื่องย้ายแผนก ส่วนฉินเสี้ยวยวนก็ครุ่นคิดเรื่องอื่นไปด้วยขณะเดินกลับตึกธุรการ

พูดตามตรง เขาเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าใครกันแน่ที่อยากหาเรื่อง แล้วอยากจะหาเรื่องอะไร

เพิ่งจะลงลิฟท์มา ก็เห็นถานลี่กั๋วยืนรออยู่ตรงทางเดินแล้ว อีกฝ่ายส่งสายตาให้ฉินเสี้ยวยวนทันที

ฉินเสี้ยวยวนรีบเดินเข้าไป

หลังจากผลักประตูเข้าไปแล้วเห็นคน ฉินเสี้ยวยวนก็กล่าวกลั้วหัวเราะทันที “หัวหน้าแผนกต้วน? สวัสดีครับ สวัสดี!”

พอต้วนเสวียเจินเห็นฉินเสี้ยวยวนมาถึงแล้ว ก็รีบลุกขึ้นพยักหน้ายิ้มทักทาย “ผู้อำนวยการฉิน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”

แม้โรงพยาบาลจะอยู่ในการควบคุมของสำนักสุขภาพ แต่เรื่องนี้ก็ค่อนข้างซับซ้อน

ในเมืองอันหยาง โรงพยาบาลอันดับสามของมณฑลมีหลายแห่งมาก แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นหน่วยงานระดับอำเภอ

แต่ยกตัวอย่างเช่นโรงพยาบาลตงต้า โรงพยาบาลตงต้าสาขาสอง โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑล โรงพยาบาลกลางแห่งมณฑล โรงพยาบาลเหล่านี้ล้วนเป็นหน่วยงานระดับรอง เพราะผู้อำนวยการโรงพยาบาลต้องควบตำแหน่งรองของหน่วยงานอื่นอีก เช่นผู้อำนวยการโรงพยาบาลตงต้าที่ควบตำแหน่งรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง ส่วนผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑล ตอนนี้ก็ควบตำแหน่งรองผู้อำนวยการของสำนักงานสาธารณสุขมณฑล

โรงพยาบาลอันดับสองค่อนข้างธรรมดา ฉินเสี้ยวยวนก็ธรรมดาเช่นกัน พูดอีกอย่างก็คือ การไต่เต้าจากระดับอำเภอถึงระดับเมืองนั้นต้องอาศัยโอกาสและเงื่อนไขต่างๆ มากมาย เป็นการข้ามระดับที่ยากมาก

หลายปีมานี้ฉินเสี้ยวยวนไม่ได้เล็งเห็นความสำคัญตำแหน่งพวกนี้แล้ว ไม่ดึงดันอยากได้ด้วย แค่มีตำแหน่งปัจจุบันก็ไม่เลวแล้ว

เดิมทีเขาก็มีพื้นเพมาจากอาชีพแพทย์ ไม่ได้เสพติดการเลื่อนขั้นมากขนาดนั้น มิหนำซ้ำ ถ้าพูดแบบไม่น่าฟังหน่อยก็คือ จะได้นั่งทำงานในตำแหน่งนั้นสักกี่ปีเชียว

ไม่มีความหมายอะไรเลย!

แต่หลังจากได้เจอต้วนเสวียเจิน เขาก็อึ้งนิดหน่อย เพราะถึงแม้ทั้งสองจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากนัก แต่ความสัมพันธ์ก็ไม่ได้แย่แน่นอน!

เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะทั้งสองเคยเจอกันมาก่อนที่บ้านหวงหย่งอี้ เคยกินข้าวด้วยกัน ถือว่ามีการติดต่อกันอยู่บ้าง ถึงขั้นกล่าวได้ว่าหวงหย่งอี้คือผู้อำนวยการคนเก่าของพวกเขา ถือว่าทำงานรุ่นเดียวกัน!

ดังนั้น ฉินเสี้ยวยวนจึงฉงนใจมากเช่นกัน

หลังจากนั่งลง ต้วนเสวียเจินถึงได้บอกว่า “ผู้อำนวยการฉิน ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะจะมาเตือนคุณ เมื่อสองวันก่อนมีคนจะมาหาเรื่องคุณครับ”

พอฉินเสี้ยวยวนได้ยินก็เข้าใจกระจ่างทันที!

ทีแรกนึกว่าผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจะส่งคนมาตำหนิตน นึกไม่ถึงว่าจะมาเตือน

เขาแปลกใจทันที “หัวหน้าแผนกต้วน หมายความว่ายังไงครับ”

ต้วนเสวียเจินอธิบายว่า “ผมก็บังเอิญรู้มาเหมือนกัน ไม่ค่อยเข้าใจรายละเอียดมากนัก ผมรู้แค่ว่าช่วงนี้มีคนยุยงให้คนอื่นไปฟ้องเรื่องคุณที่สำนักสุขภาพ พยายามจะหาเรื่องคุณให้ได้ อีกทั้งคนคนนั้นก็เหมือนจะมีเส้นสายอยู่บ้าง ผมไม่สะดวกคุยทางโทรศัพท์ วันนี้ผ่านมาพอดี ก็เลยถือโอกาสมาเตือนคุณสักหน่อย คุณจะได้เตรียมใจเอาไว้”

“เมื่อถึงตอนนั้นจะได้ไม่ถูกคนเล่นงาน!”

ฉินเสี้ยวยวนพยักหน้า เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร ที่แท้ก็เป็นเรื่องใหญ่ระดับนี้!

แมวมีวิถีของแมว สุนัขมีวิธีของสุนัขจริงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย เป็นสไตล์การกระทำของจูเซวียนเหวินชัดๆ

ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากทำให้ตนรู้สึกรังเกียจ ทางที่ดีคือหาจุดด่างพร้อยของตนสักหน่อย

พอนึกถึงตรงนี้ ฉินเสี้ยวยวนก็ได้แต่ยิ้มเรียบๆ

ผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที ปรากฏว่าต้วนเสวียเจินยังไม่ไปไหนไกล แต่กลับมาอีกทีพร้อมของบำรุงสุขภาพและผลไม้จำนวนหนึ่ง หอบไปที่แผนกศัลยกรรมกระดูก

เขาคิดในใจว่า ครั้งนี้ไม่ได้มาเสียเที่ยวจริงๆ!

มนุษย์กับมนุษย์ก็เป็นอย่างนี้ เมื่อมอบกุหลาบให้คนอื่น กลิ่นหอมของกุหลาบก็ติดมือเรา ต้องช่วยเหลือกันและกันถึงจะเติบโตได้

ทีแรกต้วนเสวียเจินแค่รู้สึกว่าฉินเสี้ยวยวนกับตัวเองถือเป็นผู้อำนวยการแก่ๆ คนหนึ่งเหมือนกัน สื่อสารพูดคุยกันก็ถือเป็นการช่วยเหลือกัน

นึกไม่ถึงว่าจะได้รู้จักกับผู้อำนวยการข่งเพราะเรื่องนี้

คิดแล้วก็สะท้อนใจ!

……

……

ร้านอาหารไม่ได้หรูหรา แต่ก็ไม่เลวเหมือนกัน มีโต๊ะใหญ่สิบกว่าโต๊ะ หลังจากนั่งลงแล้ว ข่งเสียงหมินก็ไม่ได้วางมาดสูงส่ง ยกน้ำชาขึ้นมาพร้อมบอกว่า “เรื่องของเจียฮุยวันนี้ ต้องขอบคุณทุกคนที่อยู่ตรงนี้จริงๆ พวกเราสองสามีภรรยาจะดื่มคารวะสักแก้ว”

ทุกคนรีบยกแก้วขึ้นเป็นเพื่อนเขา พากันกล่าวปฏิเสธเช่นกัน

“วันนี้เป็นผลงานของหมอเฉินทั้งนั้น!”

“ใช้ วันนี้หมอเฉินลำบากแล้ว”

……

ขณะที่ฟังทุกคนกล่าวเยินยอ เฉินชางก็ยิ้มอย่างเก้อเขินเช่นกัน

พฤติกรรมนี้อยู่ในสายตาข่งเสียงหมิน จู่ๆ เขาก็มีท่าทางครุ่นคิดพร้อมบอกว่า “เสี่ยวเฉิน ผมรู้อยู่แล้วครับ เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งเห็นในหนังสือพิมพ์ เป็นข่าวเรื่องกู้ชีพจากอุบัติเหตุรถยนต์ ฝีมือเขาไม่เลวเลยจริงๆ”

ตอนนี้ภรรยาของข่งเสียงหมินพลันพูดขึ้นว่า “ฉันจำได้ว่าเมื่อสองเดือนก่อน บนหนังสือพิมพ์รอบเย็นของเมืองอันหยางก็มีชื่อของเสี่ยวเฉินเหมือนกันใช่หรือเปล่า เหมือนจะเป็น…เรื่องที่ไม่ให้คนแทรกแถวอะไรสักอย่าง”

ตอนนี้ข่งเสียงหมินนึกออกแล้วเช่นกัน นึงไม่ถึงว่าเฉินชางจะยอดเยี่ยมขนาดนี้!

เขามองเฉินชางด้วยรอยยิ้มแวบหนึ่ง แล้วกล่าวชม “เสี่ยวเฉินไม่เลวเลยจริงๆ มีพร้อมทั้งคุณธรรมและฝีมือ เป็นหมอที่ดี!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ