“ผ่าเปิดเยื่อบุช่องท้อง คะแนนติดลบ!”
“แยกชั้นกล้ามเนื้อ คะแนนติดลบ!”
“หาไส้ติ่ง คะแนนติดลบ!”
……
……
เฉินชางถอนใจ นี่ผมไม่ได้จ้องจับผิดจริงๆ นะ!
มันเป็นปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณ
มีเพียงวิญญาณที่รู้ว่าทุกการเคลื่อนไหวเหล่านี้ ตนทำไปกี่รอบแล้ว?
หากถามเฉินชางว่าสิ่งที่เชี่ยวชาญที่สุดในชีวิตนี้คืออะไร ตอนนี้เฉินชางสามารถตอบได้โดยไม่ลังเลเลยว่า ไส้ติ่ง
ไส้ติ่งก็เหมือนกับก็อบลิน ตอนเริ่มเกมเฉินชางยังต้องสู้แบบเอาเป็นเอาตาย
ตอนนี้เอง เมื่อจางจื้อซินลงมีดกรีดต่อหน้าตนอีกครั้ง เขาก็รู้สึกพอใจมาก การกรีดเมื่อครู่นี้ทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นระดับความลึกหรือระดับแรงที่ใช้ล้วนได้มาตรฐาน ภายหลังตนจะเปลี่ยนไปเรียกเขาว่าจางมีดเดียวแล้ว
เฉินปิ่งเซิงก็พยักหน้าชื่นชม การผ่าเมื่อครู่นี้มีระดับมาก!
จากนั้นจึงหันมาพูดกับเฉินชาง “คุณเห็นการผ่าเปิดเมื่อครู่นี้ของเหล่าจางหรือเปล่าครับ? ทั้งมุมและระดับความลึกรวมไปถึงการใช้แรงค่อนข้างแม่นยำและได้ตำแหน่ง เรื่องพวกนี้หลังงานของวันนี้เสร็จ คุณก็ต้องศึกษาให้ดี แรงที่ใช้ลงมีดต้องคล่องแคล่วเหมือนคนขับรถเหยียบคันเร่ง จะใช้แรงเท่าไหร่ในขั้นตอนอะไร ต้องเข้าใจให้มากพอ!”
เฉินชางอยากจะเกาหัว แต่ตอนนี้ตัวเองปลอดเชื้อ ไม่อาจขยับมือมั่วซั่ว จึงทำได้เพียงพยักหน้า
การผ่าตัดดำเนินไปอย่างเชื่องช้า จางจื้อซินพอใจกับผลงานในวันนี้มาก!
ดูท่าทาง หากไม่มีแรงกดดันคงไม่มีแรงผลักดัน เฉินชางทำให้เขากดดัน จึงรู้สึกแตกต่างกันไป การลงมีดเป็นไปอย่างลื่นไหล ไม่เลวเลย!
พอใจมาก!
วันนี้จางจื้อซินให้คะแนนผลงานของตนเก้าสิบห้าคะแนน
หลังจากเย็บแผลแล้ว ผู้ป่วยก็ถูกส่งออกไป จางจื้อซินมองเฉินชางที่ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ถามด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวเฉิน คุณรู้สึกอะไรหรือเปล่า?”
เฉินชางคิดว่านี่คือเจ้านายครึ่งหนึ่งของตน ควรพูดจาดีๆ สักหน่อย “ยอดเยี่ยมมากครับ ผมคิดว่าถ้าให้คะแนนคงได้สักเจ็ดสิบแปดสิบคะแนน”
เฉินชางคิดว่าเจ็ดสิบแปดสิบคะแนนก็เป็นการไว้หน้ามากแล้ว ถึงอย่างไร…ครั้งแรกของตนก็เพิ่งได้หกสิบเอ็ดคะแนนเท่านั้น
แต่ว่า…
เมื่อจางจื้อซินได้ยินก็รู้สึกขำ ผมยังให้คะแนนตัวเองเก้าสิบห้าคะแนน คุณให้ผมแค่เจ็ดสิบแปดสิบ เด็กคนนี้นี่
เฉินปิ่งเซิงอดหัวเราะไม่ได้ “คุณนี่เอาอีกแล้วนะ การผ่าตัดเมื่อครู่ของเหล่าจาง อย่างน้อยผมก็ให้เก้าสิบคะแนน ไม่มีปัญหาอะไรเลย”
เฉินปิ่งเซิงไม่ได้พูดเพราะเกรงใจ แต่กำลังพูดเรื่องจริง การผ่าตัดเมื่อครู่นี้ของจางจื้อซินมีระดับมากจริงๆ
เขาสบตากับจางจื้อซินพลางยิ้มชื่นชมออกไป ต่างคนต่างรู้สึกว่าระดับทักษะของเฉินชางค่อนข้างจำกัดจึงมองความยอดเยี่ยมในการผ่าตัดไม่ออก
จางจื้อซินล้างมือพลางพูดหยอกๆ ไปว่า “โอ้ สายตาเสี่ยวเฉินดีจริงๆ! ถ้างั้นคุณว่าคะแนนที่ถูกหักไปยี่สิบสามสิบคะแนนเกิดจากอะไรหรือ?”
เฉินชางลังเลเล็กน้อย “คุณอยากฟังจริงเหรอครับ?”
จางจื้อซินเบิกตากว้าง “แน่นอนสิครับ”
เฉินชางพยักหน้า “อย่างแรก ตอนที่คุณผ่าเปิดท้อง ถึงแม้จะใช้แรงได้แม่นยำ แต่ตอนที่คุณผ่าลงไปที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังคุณกลับไม่ได้เปลี่ยนแรง ต้องทราบว่าผิวหนังและชั้นไขมันมีความอ่อนนุ่มแตกต่างกันไป จึงต้องเลือกแรงที่ใช้ด้วย…จุดที่สอง ตอนที่คุณแยกกล้ามเนื้อ คุณใช้วิธีนี้ค่อนข้างหยาบ ถึงการแยกกล้ามเนื้อจะต้องพิถีพิถันด้านเรี่ยวแรง แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับความแม่นยำด้วย…แล้วยังมีตอนที่ตัดไส้ติ่ง คุณสามารถ…สุดท้ายตอนเย็บแผล…”
เมื่อพูดถึงตอนสุดท้าย เฉินชางก็ถอนใจออกมา “สุดท้ายก็คือการเย็บปิด คุณไม่รู้สึกหรือครับว่าการเย็บของคุณดูไม่เป็นมืออาชีพ?”
เฉินชางเพิ่งจะพูดจบ ทั้งสามก็จมลงสู่ความเงียบงัน…
เสียงน้ำไหลผ่านมือของทั้งสามดังซ่าๆๆ แต่ก็ลบล้างความเศร้าไม่ได้?
เดิมทีหลิวเจี้ยนวิสัญญีแพทย์เตรียมมาล้างมือ แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็เอาแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่ที่เดิม
จางจื้อซินขมวดคิ้ว ตอนแรกเขาแค่ต้องการหยอกล้อเฉินชางจริงๆ แต่ว่า…ตอนที่เขาได้ยินเฉินชางวิจารณ์อย่างจริงจังก็อดคิดเชื่อมโยงไปไม่ได้…จากนั้น…เขาก็เหม่อไปแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ