เฉินปิ่งเซิงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย!
ความรู้สึกนี้มหัศจรรย์มาก ในตอนที่คุณตระหนักรู้เรื่องบางอย่างคุณจะรู้สึกสบายไปทั้งตัว เหมือนกับตอนคุณเรียนโจทย์ปัญหาฟังก์ชันจนพบกับคอขวด ผ่านไปนานก็ยังทะลวงคอขวดไปไม่ได้ แต่ข้อแนะนำและคำบรรยายของอาจารย์ทำให้คุณเข้าใจกระจ่างขึ้นมาโดยพลัน ความรู้สึกเหมือนทะลุผ่านหมอกหลายชั้นมาได้ ทำให้รู้สึกสบายจริงๆ!
ยิ่งเป็นศัลยแพทย์ก็ยิ่งเป็นเช่นนี้ ต้องการทะลวงคอขวดครั้งแล้วครั้งเล่า แบบนี้จึงจะพัฒนาตนเองได้ไม่หยุดหย่อน
หากต้องการทะลวงคอขวด จำเป็นต้องพบจุดอ่อนของตนเองเสียก่อน
คำวิจารณ์อันคมกริบของเฉินชางตรงจุดมาก แต่ละประโยคทำให้เฉินปิ่งเซิงรู้สึกเหมือนว่าหมอกที่บดบังสายตาเหล่านั้นกำลังสลายไป
เหล่าเฉินรู้สึกเบิกบานใจ แต่จู่ๆ สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นมา เมื่อคิดให้ละเอียดอีกครั้งก็เริ่มใจเย็นลง ใคร่ครวญปัญหาสำคัญในตอนนี้ก่อน เฉินชางรู้ได้อย่างไร?
เขาหันไปมองจางจื้อซิน พบว่าท่าทางของอีกฝ่ายค่อนข้างมีสีสัน สีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างงดงามเหมือนคนเป็นดาวน์ซินโดรมไปจนถึงคนเป็นอัลไซเมอร์ ตีความสีหน้าของศัลยแพทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อคิดดูแล้วก็เข้าใจว่าจางจื้อซินกำลังดื่มด่ำกับคำวิจารณ์เมื่อครู่นี้ของเฉินชางจึงไม่คิดรบกวน เพียงแต่สายตาที่ใช้มองเฉินชางลึกล้ำขึ้นเล็กน้อย
เด็กคนนี้…ตนประเมินพรสวรรค์ด้านการผ่าตัดของเขาต่ำเกินไป
แม้นี่เป็นแค่การผ่าตัดไส้ติ่ง แต่นั่นเป็นเพราะเขาเพิ่งเคยผ่าตัดไส้ติ่งอย่างเดียว!
ถ้าหาก…สายตาที่เฉินปิ่งเซิงใช้มองเฉินชางร้อนแรงยิ่งขึ้น ราวกับพบเป้าหมายใหม่!
เขาตัดสินใจแล้ว หลังจากผ่านช่วงนี้ไปเขาจะให้เฉินชางทำการผ่าตัดมากๆ สัมผัสกับการผ่าตัดใหม่ๆ ของศัลยแพทย์ให้มาก
ระหว่างมนุษย์เรามีช่องว่างอยู่บ้างจริงๆ เดิมทีคิดว่าช่องว่างของตนกับเฉินชางยังมีอยู่มาก แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว…
ผ่านไปนาน!
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงทอดถอนใจดังมา!
เหล่าเฉินหันไปมอง เดิมทีคิดว่าเป็นจางจื้อซิน ผลกลับ…เห็นเฉินชางมองเหล่าจางอย่างทอดถอนใจ…
ภาพนี้ดูแปลกประหลาดจริงๆ
ตอนนี้เอง จู่ๆ จางจื้อซินก็หมุนตัวอย่างเบิกบานใจ มองเฉินชางและเฉินปิ่งเซิงด้วยรอยยิ้มหวาน
เขาไม่สนใจกระทั่งจะล้างมืออีก หันมากอดคอเฉินปิ่งเซิง พูดด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “เหล่าเฉิน ผมจะบอกอะไรคุณให้ คำพูดเมื่อครู่ของเสี่ยวเฉินทำให้ผมเข้าใจลึกซึ้งแล้ว ถึงบางคำพูดของเขาจะไม่มีความหมาย คำพูดก็ดูไร้สาระ แต่บางประโยคก็มีเหตุผล!”
“ตอนนั้นผมรวมความรู้และประสบการณ์หลายปีของผมเข้าด้วยกันจนรู้สึกว่าระดับของตัวเองค่อยๆ เพิ่มขึ้น อีกเดี๋ยวตอนผ่าตัดผมจะอธิบายให้คุณฟัง จุ๊ๆ มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มากมายเลยทีเดียว”
“เสี่ยวเฉินไม่เลวเลย ผมว่าสายตาของคุณไม่เลวจริงๆ เรียนรู้ให้ดีๆ นะครับ อีกเดี๋ยวคุณทำการผ่าตัด ผมจะสอนคุณมือต่อมือเลย!”
เฉินชางตื่นตะลึง ผมพูดให้คุณฟังไปมากขนาดนั้น…คุณแค่บอกว่าผมมีวาทศิลป์ไม่มีประโยชน์อะไรอีก?
คุณมีมโนธรรมบ้างหรือเปล่า ผมวิจารณ์คุณไปแต่ละคำทั้งตรงจุดและคมกริบ แต่คุณมีพรสวรรค์จำกัด เรียนรู้ไม่ได้แล้วยังมาบอกว่าผมพูดจาเลอะเทอะอีก…
ช่างเถอะ!
พรสวรรค์ทางด้านศัลยกรรมทั่วไปของคุณมีจำกัด ไปเป็นหมอความงามของคุณต่อไปเถอะ…
เฉินชางถอนใจ
พึมพำในใจด้วยความรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ น่าผิดหวังจริงๆ…
……
……
การผ่าตัดเคสที่สองเริ่มขึ้นแล้ว เฉินชางจ้องท้องผู้ป่วย สูดหายใจลึก
ตอนนี้เฉินปิ่งเซิงและจางจื้อซินจับจ้องมาที่เฉินชาง ไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงจ้องท้องจนนิ่งไปแบบนั้น
แต่ว่า!
พริบตาเดียว บรรยากาศของเฉินชางก็เปลี่ยนไป
จับมีดอย่างคล่องแคล่วคุ้นเคย กรีดลงไปเบาๆ ใช้มือจับด้ามค่อยๆ กดลงไป พริบตานั้นท้องก็เปิดออก!
เฉินปิ่งเซิงชะงักไปโดยพลัน เลือดล่ะ?
ทำไมถึงมีเลือดน้อยขนาดนั้น!
แต่ไม่นานเขาก็เห็นเลือดค่อยๆ ซึมออกมา ทว่ายังคงมีไม่มาก….
เหล่าเฉินเบิกตากว้าง รู้สึกเหลือเชื่อ นี่…ดูเหมือนจะทำได้คล่องมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ