ตอนที่ 602 อิจฉาเบาะนั่งหนังแท้ตัวนี้จริงๆ!
การแข่งขันวันที่สองมีขึ้นตามกำหนด วันนี้ทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง!
เฉินชางกับเมิ่งซีเดินทางมาด้วยกัน วันนี้อาจารย์เมิ่งขับเบนซ์ซีรีส์ G ส่วนเก่อฮว๋ายอยากไปสนุกด้วย แต่เฉินชางนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ หมอเก่อนั่งอยู่ข้างหลัง
เฉินชางมองดูรถซีรีส์ G แล้วก็อิจฉามาก! ด้านหมอเก่อเห็นเบาะหนังแท้ของที่นั่งคนขับของอาจารย์เมิ่ง จึงอิจฉาขึ้นมาเหมือนกัน
เฉินชางอดล้อเก่อฮว๋ายอยู่ในใจไม่ได้ คนไร้อนาคตอย่างคุณ ซีรีส์ G คันหนึ่งมีเบาะหนังแท้สี่ห้าที่นะ
เก่อฮว๋ายดูถูกเฉินชางในใจ ที่ผมอิจฉาคือเบาะหนังแท้นั่นไหมล่ะ ผมอิจฉาที่เบาะนั่นมีอาจารย์เมิ่งนะ…เฮ้อ…หนุ่มจิ้นอย่างคุณจะเข้าใจอะไร!
เห็นได้ชัดว่ารถซีรีส์ G ถูกปรับแต่งมาก่อน การตกแต่งภายในรถหรูหหรา เฉินชางคิดว่ารอการแข่งขันจบลง ตัวเองต้องรีบไปจัดรถสักคัน ทำให้ชีวิตแต่งงานสมบูรณ์หน่อย พายัยฉินขี้ประจบออกไปเที่ยวเล่นนอกเมือง
เมื่อเฉินชางกับเมิ่งซีเข้ามาก็เห็นกัวอวิ๋นเฟยพอดี เฉินชางออกตัวทักทาย กัวอวิ๋นเฟยพยักหน้ารับอย่างสุภาพ
ทุกคนเดินเข้าไปด้วยกัน เมื่อคืนกัวอวิ๋นเฟยศึกษาการผ่าตัดรักษาเอออร์ตาส่วนขึ้นครั้งนั้นของเฉินชางทั้งคืน เขาสาบานว่าจะต้องมีเค้าลางการเย็บแผลของตนในการเย็บแผลของเฉินชางอยู่แน่นอน เพื่อการนี้ เขายังตั้งใจให้หัวหน้าฉินชิวหมิงตั้งใจศึกษาให้เป็นพิเศษ และข้อสรุปของหัวหน้าฉินยิ่งทำให้เขาออกจะตกตะลึง!
“เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวเฉินคนนี้เรียนรู้จากผู้อื่นเพื่อบัญชาคนคนนั้น หลังจากได้เรียนเทคนิคของคุณ ก็ปรับปรุงให้ดีชึ้น แล้วแปลงเป็นเทคนิคของตัวเอง”
“คุณก็ดูการผ่าตัดครั้งนี้ดีๆ เรียนรู้ข้อดีของอีกฝ่ายเสียหน่อย!”
ประโยคเดียวทำให้กัวอวิ๋นเฟยค่อนข้างชื่นชม ได้ปฏิสัมพันธ์กันไม่ถึงยี่สิบนาที ผ่าตัดไม่ถึงห้านาที ต่อให้ตนตั้งใจพูดสองประโยคนี้ แต่…อาศัยแค่นี้เฉินชางถึงกับเรียนรู้จนทำได้เลยหรือ พอคิดถึงตรงนี้ก็ทำให้เขาออกจะตื่นตะลึง หมอเสี่ยวเฉินคนนี้จะเก่งเกินไปแล้ว
ส่วนเมิ่งซี? กัวอวิ๋นเฟยไม่เห็นเธอยู่ในสายตา นอกจากสวยนิดหน่อย หน้าอกใหญ่หน่อย หุ่นดีหน่อย แถมตอนนี้มีฐานะร่ำรวยมาเพิ่มหน่อย นิสัยดีหน่อย ดวงตาสวยหน่อย ริมฝีปากเซ็กซี่หน่อย…อืม นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว! มีตรงไหนที่เทียบกับภรรยาตนได้บ้าง!
พอคิดถึงตรงนี้ กัวอวิ๋นเฟยกลัวว่าร่างกายจะซื่อสัตย์เกินไป จึงรีบร้อนเดินเข้าไปข้างในทันที พูดตามตรงเขาไม่ถนัดการคบค้ากับผู้หญิง ผู้หญิงสวยยิ่งแล้วใหญ่ อาจารย์ที่ปรึกษาของเขาบอกเขาว่าผู้หญิงยิ่งสวยยิ่งอันตราย เขารับประโยคนี้มาใช้!
หลังจากทุกคนเข้าสนาม วันนี้เห็นได้ชัดว่าเฉินชางกับเมิ่งซีค่อนข้างเป็นที่ต้อนรับ ทุกๆ คนต่างทักทาย การแลกเปลี่ยนเมื่อคืนทำให้ทุกคนเริ่มสนิทกัน มิหนำซ้ำที่สำคัญที่สุดคือได้ผลเก็บเกี่ยวมากมาย
ไม่นานนักพิธีกรก็ขึ้นเวทีมาพูดว่า “ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับผู้เข้าแข่งขันทุกท่านที่เดินมาถึงจุดนี้ นี่หมายความว่าศักยภาพของทุกท่านได้รับการยอมรับแล้ว”
“ตอนนี้แต่ละกลุ่มมีผู้เข้าแข่งขันเพียงห้าคน แบบนี้แล้วตอนที่พวกเราจับฉลากจะมีฉลากไม่มีคู่ชิ้นหนึ่ง ถ้าไม่มีคู่แข่งจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้เลย”
พอพูดออกมาแบบนี้ เฉินชางก็อึ้งไปทันที!
และในตอนนี้เมิ่งซีออกจะตื่นเต้น ดวงตาจ้องเขม็งไปที่กล่องฉลาก
เธอหันไปมองสีหน้าเฉินชาง “ทำไมล่ะ คุณไม่อยากเข้ารอบเพราะไม่มีคู่แข่งเหรอ”
เฉินชางตะลึงงัน เอ่ยอย่างขึงขังว่า “การแข่งขันต้องอาศัยศักยภาพ อาจารย์เมิ่ง คุณมีความคิดฉวยโอกาสอย่างนี้ได้ไง”
เมิ่งซีกลอกตาใส่เฉินชาง ปากก็ด่าเฉินชางว่าอะไรสักอย่างโดยไม่ออกเสียง แต่เฉินชางสาบานได้ เขาอ่านรูปปากเก่งมาก จะต้องว่าตนว่า ‘โง่เป็นควาย’ แน่!
เฉินชางจนใจ หยิบโทรศัพท์มาค้นในไป๋ตู้ว่า ‘มีอาจารย์ที่ปรึกษาปัญญาอ่อนนี่มันเป็นประสบการณ์แบบไหนกัน’ พออ่านคอมเม้นท์ดุเดือดเลือดสาดข้างล่าง จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าตนพยายามอย่างที่สุดแล้ว อาจารย์เมิ่ง คุณเจอนักเรียนอย่างผมถือเป็นโชคดีของคุณจริงๆ
ทว่าพอเฉินชางเห็นระดับความปัญญาอ่อนของอาจารย์ที่ปรึกษาคนอื่น จู่ๆ ก็พบว่าที่แท้ตนโชคดีมาก! อย่างน้อยอาจารย์เมิ่งก็ไม่ให้ตนไปซักผ้าทำกับข้าวที่บ้านตัวเอง ทั้งไม่ให้ตนไปอาบน้ำถูหลังให้ แถมไม่ต้องไปดูแลความเป็นอยู่! ต่อให้เฉินชางอยากไปทำให้ เธอก็ต้องไม่ยอมให้ตนไปแน่! พอคิดแบบนี้แล้ว อาจารย์เมิ่งโง่ก็จริง แต่อย่างน้อยก็ยังมีจรรยาบรรณครูใช้ได้
แต่บอกตามตรง เฉินชางไม่อยากผ่านเข้ารอบโดยไม่ต้องแข่งจริงๆ ถึงอย่างไรสำหรับเขาแล้ว การเข้ารอบโดยไม่ต้องแข่งในแต่ละครั้งก็เป็นความเสียหายใหญ่หลวงทุกครั้ง
ดวลเดี่ยวมีดรอปของ แต่เข้ารอบโดยไม่ต้องแข่งไม่มีไง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ