สรุปตอน บทที่ 625 กู้ชีพ! (1) – จากเรื่อง เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet
ตอน บทที่ 625 กู้ชีพ! (1) ของนิยายSlice of Lifeเรื่องดัง เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 625 กู้ชีพ! (1)
Ink Stone_Fantasy
เฉินชางเดินขาลากมาถึงแผนกศัลยกรรมหัวใจของโรงพยาบาลตงต้าสาขาหนึ่ง ตอนนี้เขาอยากแอดมิทเป็นผู้ป่วยใน แต่คิดไปคิดมาก็ไม่รู้ว่าจะแอดมิทแผนกไหน! เขาอยากถามแผนกระงับปวดว่ารักษาอาการปวดก้นไหม แต่ทันทีที่ถามสาเหตุของอาการปวด เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรถึงจะดีเช่นกัน
หรือบอกว่า…ถูกจีทคุนโดเล่นงานสะโพกดีนะ เฮ้อ… เพลียใจ! ยัยฉินขี้ประจบนะ ยัยฉินขี้ประจบ ทำไมคุณหนีไปไวขนาดนั้นนะ! นี่พ่อแท้ๆ คุณเลยนะ ไม่ช่วยกันหน่อยเลย
เฉินชางยิ่งกระวนกระวายใจ
มาถึงแผนกก็หกโมงครึ่งแล้ว ทันทีที่เข้ามาก็เห็นหมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สามลุกขึ้นมาทันที!
“เฉินชางมาแล้ว!”
ทันใดนั้นเก่อฮว๋ายก็ดันเฉินชางให้นั่งลงบนเก้าอี้ “เสี่ยวเฉิน เก่งมากเลย ถึงกับเอาที่หนึ่งของทีมมาครอง เป็นตัวแทนออกศึกของตงหยาง รู้สึกยังไงบ้าง”
เฉินชางเด้งตัวลุกขึ้น!
รู้สึกยังไงเหรอ ผมโคตรเจ็บก้นเลย!
จางไต้ที่อยู่ปริญญาเอกปีสองกดเฉินชางไว้บนเก้าอี้ “เสี่ยวเฉิน คุณเก่งมากจริงๆ พวกเรายังไม่รู้เลยว่าคุณจะถึงกับเก่งขนาดนี้ รีบนั่งลง อีกเดี๋ยวผ่าตัดคุณต้องสอนพวกเราดีๆ คืนนี้พวกเราตั้งใจเตรียมการผ่าตัดมาสามครั้ง!
เฉินชางยืนขึ้นทันที คราวนี้เขามองหมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สาม ยกเก้าอี้ออก จากนั้นพูดเสียงเรียบว่า “ไม่เป็นไรๆ ผมไม่นั่งแล้ว…นั่งมาทั้งวัน”
ตอนนี้เมิ่งซีเดินเข้ามา ยิ้มพลางเอ่ยว่า “มาแล้ว”
เฉินชางยิ้ม “สวัสดีครับอาจารย์เมิ่ง!”
เมิ่งซีพยักหน้า “นั่งก่อนสิ หมอเก่อคะ ไปออกหนังสือแจ้งออกจากโรงพยาบาลให้เตียงเบอร์สิบสองก่อนค่ะ มีหนังสือรับรองการออกจากโรงพยาบาลด้วย พรุ่งนี้เช้าครอบครัวคนไข้จะมาดำเนินการ”
เฉินชางยิ้มให้ “ผมไม่นั่งแล้วครับ หมอเก่อ ให้ผมออกหนังสือรับรองให้คุณเถอะ”
เก่อฮว๋ายพยักหน้า “ขอบคุณครับเสี่ยวเฉิน”
หลังจากเขียนหนังสือรับรองการออกจากโรงพยาบาลเสร็จ เมิ่งซีก็เซ็นชื่อ เขียนวันที่เป็นวันพรุ่งนี้
วันอังคาร หัวหน้าซย่าแผนกศัลยกรรมหัวใจราวน์วอร์ดใหญ่ ทุกวันอังคารกับวันศุกร์จะสั่งจ่ายยาครั้งใหญ่ตามสถานการณ์ของคนไข้
เรื่องนี้ก็ต้องพูดถึงการสั่งจ่ายยาของแผนกต่างๆ ในโรงพยาบาล ปกติทุกคนจะสั่งจ่ายยาอาทิตย์ละสองครั้งตามความเคยชิน สั่งจ่ายยาครั้งใหญ่ก็หมายถึง ถ้าต้องการสั่งจ่ายยาวันอังคารก็จะสั่งจ่ายถึงวันศุกร์ รับของเหลวของสามวันตามคำสั่งแพทย์ระยะยาว
ส่วนคำสั่งแพทย์ชั่วคราวก็สะดวกดี เปลี่ยนแปลงทันทีก็พอ แบบนี้แล้วสะดวกกับพยาบาลที่รับยา และยังสะดวกกับหมอผู้ลงคำสั่งแพทย์ ถ้าวันนี้คุณสั่งยา พรุ่งนี้เขาก็สั่งยา แบบนี้แล้วจะกระทบกับความเป็นระเบียบของแผนก
นอกจากนี้…อย่าคิดว่าพยาบาลถือว่าอยู่ต่ำกว่าหมอเป็นอันขาด ถ้าพยาบาลไม่ให้ความร่วมมือขึ้นมา ถือเป็นเรื่องยุ่งยากเรื่องหนึ่งสำหรับหมอ ดังนั้น การร่วมมือกันระหว่างหมอและพยาบาลจึงเป็นเรื่องจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดเกี่ยวโยงกับทุกด้านของงานรักษาโดยตรง
เช้าวันอังคารยุ่งมาก ดังนั้นปกติแล้วหลายเรื่องถ้าทำได้ก็จะทำตอนกลางคืนไว้ล่วงหน้า อย่านึกว่าตอนหัวหน้าราวน์วอร์ดใหญ่คุณจะทำธุระของคุณเองได้ตามใจเป็นอันขาด…
หลังจากทำงานหลายอย่างเสร็จ ทุกคนกำลังจะเตรียมไปห้องผ่าตัด จู่ๆ พยาบาลก็วิ่งรีบร้อนเข้ามา “หัวหน้าเมิ่ง หมอเก่อ แย่แล้วค่ะ จู่ๆ คนไข้เตียงสิบสองก็หมดสติไปค่ะ”
เพียงประโยคเดียว เมิ่งซีโฉบไปหาเตียงสิบสองทันที!
เฉินชางก็ตามหลังเธอไปติดๆ ด้านเก่อฮว๋ายก็ลุกขึ้นหันหลังกลับไปเอาชาร์ตผู้ป่วยมา
เตียงสิบสองก็คือคนไข้ของเก่อฮว๋ายและเมิ่งซี ไม่ว่าปัญหาอะไรก็อยู่ในความรับผิดชอบของทั้งสองคน
เพิ่งเข้ามาในห้องผู้ป่วย จู่ๆ ก็พบว่าคนไข้นอนอยู่กับพื้น ผู้ป่วยเป็นชายหนุ่มอายุเพียงสามสิบห้าสามสิบหกปีคนหนึ่ง ภรรยาและลูกที่อยู่ฝั่งหนึ่งตกใจทำอะไรไม่ถูก
“หมอคะ อยู่ดีๆ ทำไมถึงหมดสติไปแล้วล่ะ”
เมิ่งซีสีหน้าเคร่งเครียด พูดกับผู้หญิงคนนั้นว่า “ไม่ต้องกังวลนะคะ ใจเย็นก่อนค่ะ”
ใครจะทำเรื่องนี้กัน พวกเราเป็นแผนกศัลยกรรมหัวใจ ไม่ใช่แผนกประสาทวิทยาหรือแผนกศัลยกรรมสมองซะหน่อย
แต่ที่เมิ่งซีวิเคราะห์ก็ถูก จู่ๆ กำเริบหมดสติไปแบบนี้ควรพิจารณาปัญหาหลอดเลือดสมอง ต่อให้ไม่มีความดันโลหิตสูง ถ้าหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยมีรูปร่างผิดปกติ หรือตัวผู้ป่วยเองหลอดเลือดแดงในกะโหลกโป่งพองอยู่แล้ว แล้วหลอดเลือดแดงโป่งพองฉีกขาด ก็อาจจะทำให้หมดสติได้! นี่เป็นสิ่งที่ตัดไปไม่ได้! ถึงอย่างไรหลอดเลือดแดงโป่งพองในบางคนก็ไม่ได้มีอยู่จุดเดียว
เก่อฮว๋ายสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่งแล้วส่ายหัว “ไม่ได้ทำครับ คนไข้ทำแค่ CT scan ศีรษะ ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร”
เขาก็รู้ว่า CT scan ศีรษะดูได้แค่ภาพรวม หลายอย่างมองไม่เห็น
ถ้าตอนนี้ทำ CT scan ก็ดูออกได้ว่าสมองมีเลือดออกหรือไม่ แต่ ณ ขณะนี้ ความเป็นความตายของผู้ป่วยแขวนอยู่บนเส้นด้าย ไม่มีโอกาสส่งไปห้อง CT scan สักนิด มิหนำซ้ำอัตราส่วนที่หลอดเลือดแดงโป่งพองในกะโหลกจะฉีกขาดก็น้อยมาก!
ในตอนนี้เอง เฉินชางพลันพูดขึ้นว่า “รูม่านตาทั้งสองข้างใหญ่กลมเท่ากัน ไม่พบว่ารูม่านตาขยายออก การตอบสนองต่อแสงปกติ…ผมคิดว่าไม่ค่อยเหมือนเลือดออกในสมอง!”
คำพูดของเฉินชางทำให้เมิ่งซีตาวาว จริงด้วย…การตรวจสภาพร่างกายกับระบบประสาทที่เป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดถูกลืมไปเลย ตอนนี้ต่อให้ตัดเลือดออกในสมองทิ้งโดยสิ้นเชิงไม่ได้ แต่ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
บางครั้งการตรวจก็คือวิธีการตัดตัวเลือกจริงๆ โดยเฉพาะในกรณีที่สาเหตุไม่ชัดเจน ต้องตรวจให้ชัดอย่างรวดเร็ว วิธีการตัดตัวเลือกเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
ทั้งกระบวนการดูเหมือนยืดยาว แต่ความจริงแล้วใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที!
และก็ในตอนนี้เอง เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจก็เชื่อมต่อเสร็จแล้ว!
ทว่าตอนที่เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจยังไม่มีรูปออกมา จู่ๆ พยาบาลก็พูดว่า “หัวหน้าเมิ่ง! หัวใจห้องล่างเต้นพลิ้วค่ะ!”
ประโยคเดียว ทำทุกคนหน้าเปลี่ยนสีทันที!
เมิ่งซีอึ้งไป รีบพูดว่า “ติดต่อแผนกฉุกเฉิน เอา AED มา เร็วเข้า!”
คราวนี้อันตรายเสียแล้ว ตัวผู้ป่วยเพิ่งผ่าตัดกำจัดหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ตอนนี้จู่ๆ เจอเข้ากับภาวะหัวใจห้องล่างเต้นพลิ้ว อัตราความอันตรายพุ่งสูงขึ้นฉับพลัน
—————————————————-
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ