ในห้องผู้ป่วยแผนกศัลยกรรมหัวใจของโรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉินแห่งเมืองหลวงมีคนมาเยือนมากมาย
ฮุ่ยฮุ่ยฟื้นแล้ว
บนใบหน้ายังมีรอยยิ้มมีน้ำมีนวลแบบนั้นเหมือนเคย เธอนอนนิ่งไม่ขยับ แต่ทำตาหยีแล้วดูน่ารักจริงๆ
เจี่ยงเหวินรุ่ยมองดูหญิงร่างใหญ่คนนี้อย่างเอ็นดู จู่ๆ ก็รู้สึกว่าพูดคำพูดเอ็นดูหรือขอโทษแบบนั้นไม่ออก จึงอดพูดล้อเล่นเหมือนแต่ก่อนไม่ได้ “ฮุ่ยฮุ่ย คราวนี้ได้พักดีๆ แล้วใช่ไหม”
ฮุ่ยฮุ่ยยิ่งหัวเราะเบิกบานใจ
เสี้ยวเจิ้นไห่นั่งอยู่ข้างๆ บีบมือฮุ่ยฮุ่ยเอาไว้ มีความรู้สึกเหมือนรอดจากภัยพิบัติ
“ฮุ่ยฮุ่ย ต่อไปคุณอยากกินอะไรผมจะทำจะซื้อให้หมดเลย คุณไม่ต้องลดความอ้วนแล้ว”
“อ้วนหน่อยดีจะตาย จริงๆ นะ!”
ขณะที่พูดเขาก็รู้สึกแสบจมูก “ขอแค่คุณอยู่ดีมีชีวิตรอด ต่อให้คุณเป็นแบบไหนผมก็ชอบทั้งนั้น”
ฮุ่ยฮุ่ยเห็นสามีเป็นแบบนี้ น้ำตาก็ไหลลงมาจากหางตา
“เจิ้นไห่ พวกเธอเอาแต่พูดว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณ บอกว่าฉันทั้งอ้วนทั้งโง่ แถมไม่ปราดเปรียว ตอนนี้ฉัน…ยิ่งไม่คู่ควรกับคุณซะแล้ว” เสียงอ่อนแรงดังขึ้นข้างหูเสี้ยวเจิ้นไห่ ชายที่ได้พบกับผู้ป่วยจากภัยพิบัติเพียงไหนก็ไม่เคยขมวดคิ้วให้ วันนี้ร้องไห้ไปกี่ครั้งแล้ว
เธอหันมามองเฉินชาง “ฉันจำคุณได้…คุณช่วยฉันไว้ ขอบคุณที่ช่วยนะคะ”
เฉินชางยิ้มให้ “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ ผมควรช่วยอยู่แล้ว”
เจี่ยงเหวินรุ่ยพลันพูดขึ้นว่า “ฮุ่ยฮุ่ย หายแล้วก็กลับบ้านไปคลอดลูกเถอะ รอลาคลอดเสร็จแล้วค่อยกลับมาทำงาน คราวนี้ก็คิดซะว่าเพิ่มวันลาให้เธอ”
บใบหน้าอ้วนๆ ของฮุ่ยฉุ่ย ขอเพียงยิ้มครั้งเดียว ตาก็จะหยีไปด้วย
อู๋ถงฝู่ก็พยักหน้า “รอคุณคลอดลูกแล้วไปทำงานที่แผนกพยาบาลเถอะ ที่นั่นขาดรองหัวหน้าอยู่คนหนึ่ง”
ฮุ่ยฮุ่ยได้ยินเข้าก็ตาเบิกกว้างทันที “หัวหน้าเจี่ยง…คุณไม่ต้องการฉันแล้วเหรอคะ”
พอพูดคำนี้ น้ำตาก็ไหลลงมา
เจี่ยงเหวินรุ่ยได้ยินแล้วใจอ่อนยวบทันที รู้สึกแสบจมูกเหมือนกับเป็นหวัด “นี่ไม่ใช่เพราะคิดถึงร่างกายของคุณหรือไง ทำงานกะดึกไม่ได้แล้วนะ ต่อไปต้องดูแลลูกให้ดี”
“จะว่าไป อยู่ไหนไม่ทำงานบ้างล่ะ ฮุ่ยฮุ่ย คุณต้องทำตามการจัดการขององค์กร”
ฮุ่ยฮุ่ยสะอึกสะอื้น ทั้งยังไม่พูดจา บนใบหน้าอ้วนจ้ำม่ำเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม “ฉัน…ฉันชอบห้องฉุกเฉินค่ะ ฉันอยากทำงานคลินิก ฉันไม่อยากไปทำงานแนวหลัง…”
“หัวหน้า ฉันไม่กลัว ฉันไม่กลัวจริงๆ นะคะ ผู้อำนวยการคะ ฉันหายแล้วยังทำงานแนวหน้าได้ คุณอย่าเอาฉันไม่อยู่แนวหลังเลยนะคะ…”
คำพูดเดียว ทุกคนได้ยินแล้วรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มแทงใจ
เป็นคนดีจังเลย! ทำไมคนแบบนี้ถึงต้องบาดเจ็บด้วยนะ
เสี้ยวเจิ้นไห่มองฮุ่ยฮุ่ยแล้วส่ายหัว “ฮุ่ยฮุ่ย ความจริงแล้วผมคิดแบบนี้ตั้งนานแล้ว ผมอยู่แนวหน้าก็ลำบากมากแล้ว นอกจากครอบครัวใหญ่แล้ว พวกเรายังมีครอบครัวน้อยๆ ของพวกเราเองด้วยนะ!”
“ลูกจะคลอดแล้ว คุณจะส่งไปให้บ้านคุณเลี้ยงเหรอ”
ฮุ่ยฮุ่ยนอนนิ่ง ไม่ได้พูดจา หลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา
……
……
ทุกคนเห็นสถานการณ์แล้วพากันถอนใจ หลังจากปลอบแล้วก็ให้เสี้ยวเจิ้นไห่พักร้อน เพื่อให้ช่วงนี้เขาได้อยู่เป็นเพื่อนภรรยา ดูแลภรรยาให้ดี
ทันทีที่อู๋ถงฝู่ออกจากห้องคนไข้ก็ได้รับโทรศัพท์จากสำนักงานผู้อำนวยการ
“ผู้อำนวยการอู๋ เมื่อกี้มีผู้นำจากคณะกรรมการสุขภาพมาหาคุณ คุณไม่รับโทรศัพท์ เขาเลยมาที่ออฟฟิศเลย รอคุณอยู่ที่ประตูน่ะ”
อู๋ถงฝู่ได้ยินแล้วชะงักไปทันที นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
“คุณให้เขารอไปเถอะ!”
เขาพูดประโยคเดียวแล้วก็วางสาย ทำให้ทุกคนอึ้งไป!
เจี่ยงเหวินรุ่ยมองผู้อำนวยการแล้วเลื่อมใสขึ้นมา อู๋ถงฝู่เป็นผู้ทรงอิทธิพลจริงๆ!
แต่ชื่อเสียงของเขาไม่ได้ได้มาเพราะถูกอุ้มชู เขาต่อสู้จึงได้มาต่างหาก!
ตอนน้ำท่วมใหญ่ช่วงปีเก้าศูนย์ เขาก็เป็นกำลังหนุนบุคลากรทางการแพทย์มาถึงแนวหน้า
ปีสองพัน ตอบสนองเสียงเรียกของประเทศชาติไปบรรเทาทุกข์ชายแดนสองปี!
ทันทีที่เกิดโรคระบาดปีศูนย์สามขึ้น เขาที่เพิ่งเป็นหัวหน้าก็พาคนกลุ่มหนึ่งมุ่งสู่แนวหน้าอย่างห้าวหาญ
แผ่นดินไหวที่เขตเวิ่นยิ่งสร้างวีรกรรมอันโดดเด่น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ