ถูกต้อง!
ไม่ได้มีแต่กวนจิ้งซานที่งง ขนาดทุกคนที่นั่งอยู่ยังงงไปด้วย หัวหน้ากับรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเหล่านั้นต่างสีหน้าสับสน!
นี่หัวหน้ากวนเลยนะ! ผู้อำนวยการอู๋จะแข็งไปแล้วมั้ง!
วันนี้กวนจิ่งซานโกรธจะตายอยู่แล้ว จู่ๆ ก็ฉุนเฉียวขึ้นมา
เมื่อกี้ก็ให้ผมรออยู่ตรงนั้นแล้วเมินเราไปเลย
ดูตอนนี้สิ ผมอุตส่าห์มาหาถึงที่ ยังให้ผมออกไปเฉย!
ผมก็เป็นหัวหน้าไหมล่ะ จะไว้หน้ากันหน่อยไม่ได้เหรอ!
กวนจิ่งซานเดือดดาลแล้ว “ผมไม่ออก!”
อู๋ถงฝู่กำลังโมโห เห็นเจ้านี่แล้วหงุดหงิด! คุณจะมาแข็งใส่ผมเหรอ
เขาพลันเอ่ยอย่างฉุนเฉียวว่า “ยามล่ะ เรียกเข้ามาให้ผมที!”
กวนจิ่งซานเสียความมั่นใจเสียแล้ว นี่เป็นอาณาเขตของเขา จากการแสดงออกของตาแก่นี่ เรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น เขาจึงถามเสียงดังไปเลยว่า “อู๋ถงฝู่ นี่คุณจะทำอะไร!”
ทันใดนั้นห้องประชุมขนาดมหึมาก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
หัวหน้าใหญ่หกสิบกว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นทำตัวไม่ถูก
อู๋ถงฝู่เห็นกวนจิ่งซาน เอ่ยด้วยแววตาแน่วแน่ว่า “คุณมาทำอะไร พูดมาเลยเถอะ พูดจบก็ไปได้แล้ว ผมประชุมอยู่นะ”
กวนจิ่งซานได้ยินเข้าก็โมโหมาก สนใจกาลเทศะอะไรเสียที่ไหน “คุณนึกว่าเรื่องนี้คุณมีสิทธิ์ตัดสินใจคนเดียวเหรอ คุณคนเดียวจะเก่งกล้าสามารถได้ขนาดไหนกัน เก่งขนาดนี้ไม่ขึ้นสวรรค์ไปเลยล่ะ! อู๋ถงฝู่! นิสัยเสียแก้ไม่หาย!”
ตอนนี้อู๋ถงฝู่ก็ของขึ้นแล้ว “ผมเก่งเทพเลยละ! นี่ไม่ใช่บ้านคุณสักหน่อย นี่ไม่ใช่พนักงานคุณด้วย คุณที่นั่งอยู่สำนักงานไม่ได้เห็นเหตุการณ์ฆ่าคนเปื้อนเลือดนั่นย่อมไม่ร้อนรนอยู่แล้ว!”
“คุณเป็นผู้นำ ผมเป็นหมอ! พวกเราต่างกัน!”
“คุณไม่เห็นว่าผมรู้สึกผิดขนาดไหนตอนที่คนสองพันกว่าคนยืนจ้องผมอยู่ในสวน!”
“คุณรู้ไหมว่าผมรู้สึกยังไงตอนที่ดวงตาสองพันกว่าคู่นั้นจ้องผมอย่างเฝ้าคอย ผมแสนจะละอายกับตำแหน่งนี้ แสนจะละอายต่อบุคลากรพวกนั้น!
“ที่พวกเขาตามผมก็เพราะเชื่อมั่นในตัวผม ถ้าพูดแย่ๆ หน่อยก็คือมอบชีวิตให้ผมแล้ว!”
“คุณเข้าใจไหม”
“คุณรู้ไหมว่าพยาบาลน้อยคนเมื่อกี้นั่นพูดกับผมว่ายังไง”
“พูดว่าผู้อำนวยการ ฉันยังอยากทำงานแนวหน้า ไม่อยากไปเป็นหัวหน้าแผนกพยาบาล พูดออกมาแบบนี้คุณไม่กลุ้มใจได้เหรอ ถูกมีดแทงแล้วยังพูดแบบนี้ออกมาได้ คุณเข้าใจไหม คุณไปดูสิ เลือดที่ไหลอยู่บนเสื้อกาวน์ไม่ใช่เลือดจากตอนไปช่วยชีวิตผู้ป่วย แต่เป็นเลือดของตัวเอง!
ผมนิสัยเสียแก้ไม่หายเหรอ กวนจิ่งซาน คุณมันจะเข้าใจอะไร ถ้าพูดแบบนี้อีก...คุณไสหัวออกไปเลย! เราขาดกัน!”
คำพูดแต่ละประโยคกังวานทรงพลัง พูดจนสุดท้ายอู๋ถงฝู่ก็ตบโต๊ะดังโครมคราม
หมอที่อยู่ในที่ประชุมแต่ละคนต่างนิ่งเงียบ!
พออู๋ถงฝู่พูดจบเขาก็โมโหจนเจ็บหน้าอก ล้วงไนโตรกลีเซอรีน[1]ในกระเป๋าเม็ดหนึ่งมาใส่ไว้ใต้ลิ้น
ตอนนี้กวนจิ่งซานก็โมโหจนระเบิดแล้วเหมือนกัน!
“ให้ผมไสหัวไปเหรอ ผมไม่ใช่หมอหรือไง ระยะเวลาที่ผมเป็นหมอมาทั้งชีวิตสั้นกว่าคุณหรือไง คุณอู๋ถงฝู่เก่งกาจงั้นสิ”
“เป็นผู้อำนวยการแล้ววิเศษวิโสงั้นเหรอ”
“มีแต่คุณที่ยอมสละตัวเองเพื่อความถูกต้อง! มีแต่คุณที่มีเกียรติ มีแต่คุณที่อยากทำอะไรเพื่อหมองั้นเหรอ!”
“จะว่าไปแล้วคุณเทียบกับผมอยู่ใช่ไหม ผมถามหน่อยคุณเก่งอะไรเหรอ ที่ที่คุณไปมีที่ไหนที่ผมไม่เคยไปบ้าง!”
“แผ่นดินไหวตอนนั้นยังไม่ใช่ผมเหรอที่ช่วยคุณ”
“คุณเห็นหรือเปล่าว่าทำไมผมไปแนวหลัง มือผมนี่ยังผ่าตัดได้ไหม คุณก็คิดดูหน่อยสิว่าผมผ่าตัดได้หรือเปล่า!”
“เห็นไหม นิ้วนี่ ตอนนั้นมันเน่าตายเพราะขาดเลือด เลยต้องเปลี่ยนไปใส่นิ้วปลอม!”
“คุณเก่งเหรอ ทุกวันผมกินนิเฟดิพีน[2] แอมโลดิพีนเบซิเลต[3] เมตฟอร์มิน[4] โคลพิโดเกรล[5]…เป็นกำๆ เลย”
อู๋ถงฝู่โมโหจนดึงแหวกเสื้อตรงหน้าอกแล้วเอ่ยว่า “ความดันสูงวิเศษวิโสมากงั้นสิ เป็นเบาหวานแล้วเจ๋งมากเหรอ มีพลัค[6]แล้วเก่งมากหรือไง เห็มไหม ขดลวดสองเส้นนี่! เป็นเพราะผ่าตัดหนักสี่สิบแปดชั่วโมง!”
“อีกอย่าง นี่ไนโตรกลีเซอรีน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ