เมารถเหรอ
อาการที่ดูเหมือนว่าใครก็เป็นได้ในชีวิตประจำวันแบบนี้อาจเป็นเครื่องมือเร่งตายในช่วงเวลาสำคัญได้!
อาการที่พบได้บ่อยตอนเมารถก็คือเวียนศีรษะ พะอืดพะอม หน้าซีด ถ้ารุนแรงก็จะอาเจียน หรือถึงกับหายใจแรงขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดทำงานหนัก
เดิมทีผู้ป่วยก็มีภาวะผนังกั้นห้องหัวใจล่างฉีกขาด บวกกับอาการหัวใจวายที่เกิดขึ้นตามมา ถ้าอาเจียนรุนแรง จะถึงกับทำให้หัวใจรับภาระเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทันทีที่เกิดภาวะเกลือแร่ในเลือดขาดสมดุล รถฉุกเฉินเที่ยวนี้อาจจะเปลี่ยนเป็นรถบรรทุกศพเมื่อไรก็ได้!
นี่ไม่ได้ล้อเล่น
บางครั้ง ทุกคนอาจไม่รู้ว่าภาระหน้าที่ของแพทย์ฉุกเฉินคนหนึ่งเป็นอย่างไร
ความสามารถที่สำคัญที่สุดของแพทย์ฉุกเฉินก็คือส่งผู้ป่วยถึงโรงพยาบาล ‘โดยสมบูรณ์’ จากนั้นจึงรักษาชีวิตของผู้ป่วยให้คงที่ด้วยการใช้กระบวนท่าบู๊ลิ้มต่างๆ พอไม่เสี่ยงอันตรายแล้วค่อยส่งต่อให้แผนกเฉพาะทางที่เกี่ยวข้อง
เพราะอย่างนี้แพทย์ฉุกเฉินจึงต้องมีความรู้ความสามารถ รวมถึงโลกทัศน์เพียงพอ เพื่อจัดการเรื่องที่จะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ให้เรียบร้อย
และคำว่า ‘โดยสมบูรณ์’ นี้ ก็คือแนวทางที่พวกเขาพยายามทำ ร่องรอยเล็กน้อยใดๆ ก็ปล่อยผ่านไม่ได้ทั้งนั้น
เฉินชางเริ่มไตร่ตรอง!
ผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินชางก็พูดออกมาทันทีว่า “เสี่ยวหลิน เตรียมไดเฟนไฮดรามีนเข็มหนึ่ง ฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ!”
เสี่ยวหลินพยักหน้า เปิดกล่องฉุกเฉินที่เธอพกติดตัวไปทุกที่แล้วเริ่มเตรียมยา
ตอนนี้ผู้อำนวยการก็ทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลเสร็จแล้ว ชายคนนั้นร้อนรนมาหาพวกน้องชาย รีบวิ่งไประดมเงิน
อย่างไรครอบครัวก็อยู่ในหมู่บ้านทั้งนั้น จึงอยู่ไม่ไกลกันมาก ไม่นานนักก็สะพายกระเป๋าใบหนึ่งมาเตรียมของใช้จำเป็น
พอเจอเฉินชางก็เอ่ยถามเบาๆ “หมอ…ต้องใช้เงินเท่าไร ผมจะได้เตรียมไว้ก่อน”
คำถามนี้ทำเอาเฉินชางไปไม่เป็น “ผมเองก็ยังไม่รู้จริงๆ ว่าต้องใช้เงินเท่าไรกันแน่ คุณพกไว้สักหมื่นสองหมื่น ไปถึงแล้วค่อยทำเรื่องค้างชำระได้ ไม่ต้องกังวลครับ”
ชายคนนี้ถอนใจ ยิ้มพลางเกาหัว “ผมยังนึกว่าแผนกฉุกเฉินถ้าไม่จ่ายเงินจะไม่รักษาให้น่ะ”
เฉินชางก็มาสนใจคุยเล่นกับชายคนนี้ไม่ได้ พูดกับเสี่ยวหลินต่อ
“สารละลายกลูโคสเพิ่มโตรกลีเซอรินสิบมิลลิกรัม ลดปริมาณเลือดหัวใจก่อนสูบฉีด!”
“ฉีดมอร์ฟีนสามมิลลิกรัมเข้าชั้นกล้ามเนื้อ!”
เป้าหมายทั้งหมดของเฉินชางก็เพื่อระงับประสาทผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด!
นอน!
ถ้านอนนิ่งได้ตลอดทาง ไม่เกิดปฏิกิริยาจากการเมารถอย่างเช่นการอาเจียน แบบนี้จะดีที่สุด
แน่นอนว่าปริมาณมอร์ฟีนก็จะใช้มากเกินไปไม่ได้ เพราะร่างกายผู้สูงอายุต้านทานไม่ได้เสมอไปจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงเริ่มยกคุณยายลงมาข้างล่าง
ที่จริงโรงพยาบาลที่ไม่มีลิฟต์แบบนี้สร้างเป็นอาคารชั้นเดียวยังจะดีเสียกว่า เคลื่อนย้ายผู้ป่วยก็สะดวก มิหนำซ้ำชนบทมีพื้นที่กว้างขวาง ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่ ตรงกันข้าม พอสร้างเป็นอาคารแบบนี้ บางครั้งกลับรับมือได้ยากมาก
หลังจากเตรียมการทั้งหมดแล้ว คุณยายก็ถูกส่งขึ้นรถฉุกเฉินไป เฉินชางกับเสี่ยวหลินมาถึงทีหลัง
เพราะทางสายนี้มีอุปสรรคไม่ขาด!
เสี่ยวหลินค่อนข้างกังวล เธอเอาเครื่องช่วยหายใจชนิดมือบีบกับอะมิโอดาโรน[1]ออกมาเตรียมวางไว้ข้างๆ แล้ว พร้อมกู้ชีพได้ทุกเมื่อ
ในที่สุดก็ทำทุกอย่างเสร็จ!
เริ่มออกเดินทางบนหนทางที่ยากลำบาก!
เหล่าหยางมองเฉินชางแล้วถามคำถาม “กังวลไหม”
เฉินชางส่ายหัว “ทำใจนิ่งๆ หน่อย”
เหล่าหยางพยักหน้า
พอรถเคลื่อนตัว ผู้อำนวยการกับหมอเจ้าของไข้ศูนย์สุขภาพเมืองหนานเฉียวที่อยู่ข้างหลังก็ต่างถอนใจโล่งอก
สำหรับพวกเขาแล้ว ผู้ป่วยที่มีระดับความยากสูงแบบนี้เป็นภาระจริงๆ ช่วงเวลาสองวันตั้งแต่เมื่อวานจนวันนี้ ทั้งสองต่างลงแรงไปมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ