เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 929

ระหว่างทางกลับ ในขณะที่ซุนกว่างอวี่ขับรถอยู่ สิ่งที่เฉิน
ชางพูดเมื่อครู่นี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว!
‘ผมอยากคุมส่องกล้องให้คุณครับ!’
เฮ้อ…
นี่สินะที่เรียกว่าอัจฉริยะ
เก่งมากแล้วแท้ๆ กลับยังจะเป็นลูกมือให้ตนเอง ไม่อายที่จะ
ถาม น้อมรับคำสอน คิดดูแล้ว ถ้าเขาไม่ประสบความสำ เร็จ แล้วใคร
จะประสบความสำ เร็จ
คิดถึงตรงนี้ ซุนกว่างอวี่ยิ่งรู้สึกว่าเฉินชางเป็นคนที่ควรค่าแก่
การผูกมิตรอย่างลึกซึ้ง!
ทว่า สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ ลูกศิษย์ของตนกลับเป็นว่าที่ภรรยา
ของเฉินชาง
เรื่องนี้ทำให้ซุนกว่างอวี่ดีใจจริงๆ!ทันใดนั้น…
เขาพลันนึกถึงเรื่องที่มีคลิปวิดีโออยู่ในฮาร์ดดิสก์พกพา พลัน
หลุดยิ้มออกมา
ทุกอย่างชัดเจนกระจ่างแจ้งแล้ว
มนุษย์เรา ช่างมีบุญสัมพันธ์จริงๆ!
……
……
จากการพูดคุยกับซุนกว่างอวี่ เฉินชางเองก็ตระหนักได้
ถึงความแตกต่างระหว่างตนกับผู้มีอิทธิพลในวงการแผนก
ศัลยกรรมทางเดินอาหารอย่างแท้จริง
เทคนิคการฟื้นฟูระบบทางเดินอาหาร…
ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ตอนนี้เฉินชางมีความคิดหนึ่ง!
โครงสร้างคือรากฐานของการทำงาน!
และมีเพียงโครงสร้างที่เหมาะสมเท่านั้นที่จะทำให้ทำงานได้
ดีขึ้นการฟื้นฟูระบบทางเดินอาหารถือเป็นโครงการใหญ่ เกี่ยวข้อง
ไปถึงกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่และตับอ่อน
เฉินชางสะบัดหัว ตั้งเป้าหมายให้ตนเอง นั่นก็คือบรรลุไป
ทีละขั้นๆ!
รอจนกว่าตนจะเชี่ยวชาญทั้งห้าหมวดหมู่ จึงเริ่มปรับเปลี่ยน
จากมุมมองของแนวคิดโดยรวมและร่างกายมนุษย์
ตนคิดเรื่องนี้ตอนนี้ดูเหมือนจะยากเกินไป
……
ช่วงเช้าวันถัดมา หลังจากซุนกว่างอวี่เปลี่ยนเวรก็มองทุกคน
พร้อมพูดว่า “จริงสิ เสี่ยวฉิน ต่อไปคุณเรียนกับผมโดยตรงเลยนะ
ครับ”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนมึนงงเล็กน้อย!
ซุนกว่างอวี่มีนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกในมือ
มากมายแต่ไม่เคยสอนด้วยตัวเอง แม้แต่วิทยานิพนธ์
สำ เร็จการศึกษายังต้องให้อาจารย์ผู้สอนช่วยคิด อย่างมากก็แค่ตอน
โต้แย้งป้องกันวิทยานิพนธ์ ซุนกว่างอวี่จะเข้าร่วมพอเป็นพิธี จากนั้นพวกอาจารย์กรรมการหลายคนเห็นแก่ซุนกว่างอวี่ ก็อา าจจะ
ให้คะแนนสูงและให้รางวัลผลงานดีเด่น
หลังเรียนจบออกมาทำงาน ซุนกว่างอวี่ก็อาจจะให้
ความช่วยเหลือบ้าง
ปกติซุนกว่างอวี่มีเวลาสอนนักศึกษาด้วยตัวเองเสียที่ไหน!
พวกหัวหน้าใหญ่ของวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนต่างยุ่ง
มาก มักจะเข้าร่วมการประชุมทั้งในและต่างประเทศบ่อยครั้ง!
และซุนกว่างอวี่ยังมีอีกหนึ่งภารกิจพิเศษนั่นก็คือ หมอ
ประจำ ตัว!
รับผิดชอบดูแลความแข็งแรงด้านระบบย่อยอาหารของผู้นำ
หลายคนโดยเฉพาะ
เส้นสายกว้างขวางมาก!
เพราะฉะนั้น การจะหางานให้ลูกศิษย์จึงถือเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
แม้แต่จวงเยว่หมิงหัวหน้าทีมระบบทางเดินอาหารยังแปลกใจ
เล็กน้อย ถึงอย่างไรหัวหน้าซุนก็ยุ่งมาก อย่าว่าแต่สอนลูกศิษย์
ด้วยตัวเองเลย แม้แต่ลูกของตนเองก็คงไม่ค่อยได้ดูแลสวี่รุ่ยเห็นแบบนี้ แม้ไม่แสดงสีหน้า แต่ก็เสียใจเล็กน้อย พูด
ตามตรง ช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินเยว่ไม่เลวเลย
สวี่รุ่ยรู้สึกว่าตนไม่มีเพื่อน เห็นในอินเตอร์เน็ตโพสต์รูปอวด
เพื่อนสาวกัน เธอคิดว่าก็แค่เสแสร้งเท่านั้น
ทำให้ต่างคนต่างรู้สึกว่าตนมีเพื่อนที่แสนจอมปลอม จะได้ไม่ดู
โดดเดี่ยวจนเกินไป
ความจริงสวี่รุ่ยรู้สึกว่า จิตใจมนุษย์โดดเดี่ยวอยู่แล้ว
เมื่อเราแข็งแกร่งมากพอ เราจะไม่สนใจสายตาของคนอื่น
ถึงขั้นมีความสุขกับความโดดเดี่ยว
สวี่รุ่ยประสบความสำ เร็จมาก เป็นรองหัวหน้าตั้งแต่อายุสาม
สิบห้าปี เป็นรองศาสตราจารย์ของวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน
เธอคิดมาตลอดว่าตนไม่จำ เป็นต้องพึ่งใคร แต่ในช่วงหลายปี
ที่ผ่านมา เธอพบว่าคำคมสอนใจที่เธอยึดถือมาโดยตลอดไม่ได้
ถูกต้องเสียทั้งหมด
จู่ๆ เธอก็ค้นพบว่า คนเราไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ความจริงก็
ต้องการที่ระบายการปรากฏตัวของฉินเยว่ ทำให้สวี่รุ่ยค้นพบชีวิตที่เธอไม่เคย
มีมาก่อน
เธออิจฉาฉินเยว่…
ช่วงที่ผ่านมา เธอมักจะคุยกับฉินเยว่ ฉินเยว่เองก็มักจะแบ่งปัน
เรื่องราวและมุมมองความคิดให้เธอฟัง ถึงขั้นให้ตัวอย่างสินค้า
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกับเธอ ส่วนสวี่รุ่ยจะพาฉินเยว่เข้าร่วมการผ่าตัด
สอนเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ให้เธอ
มิตรภาพของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้น
คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าจะสอนฉินเยว่ด้วยตัวเอง…
ถ้าเป็นเมื่อก่อน สวี่รุ่ยจะคิดว่าฉินเยว่เป็นภาระ นี่ถือเป็นเรื่องที่
ดี แต่ตอนนี้ เธอรู้สึกอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย
ซุนกว่างอวี่เห็นท่าทางของสวี่รุ่ยก็ชะงักไปทันที
ฉินเยว่เปลี่ยนสวี่รุ่ยได้งั้นเหรอ
ซุนกว่างอวี่อึ้งเล็กน้อย…
ซุนกว่างอวี่ใคร่ครวญครู่หนึ่ง “เสี่ยวฉิน ปกติคุณติดตามผม
ถ้าช่วงไหนผมยุ่ง คุณไปติดตามรุ่นพี่สวี่รุ่ยของคุณนะครับ”ซุนกว่างอวี่เปลี่ยนคำพูด
สวี่รุ่ยและฉินเยว่ได้ยินแล้วสบตากัน ต่างเผยรอยยิ้ม
การผ่าตัดช่วงบ่ายวันนี้เป็นการผ่าตัดผู้นำที่เกษียณอายุแล้ว
อายุแปดสิบเอ็ดปี เป็นการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะพบเนื้อร้าย
ไว การผ่าตัดถือว่าง่าย ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก
ตอนประมาณบ่ายสาม เฉินชางได้รับสายจากหัวหน้าซุนกว่า
งอวี่แห่งวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน บอกว่าอีกหนึ่งชั่วโมงการ
ผ่าตัดจะเริ่มขึ้น
พอเฉินชางวางสาย ก็ขับรถออกไปทันที!
ช่วงนี้เฉินชางภาระหนักหน่วงมาก อยากเรียนรู้ทักษะมากมาย
ขนาดนั้น ความกดดันย่อมสูงมาก
หลังจากเฉินชางมาถึงวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน
ความจริงก็ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย!
หลังจากจอดรถเสร็จ มองป้ายวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน
นี่ก็คือเป็นที่ที่ตนเคยใฝ่ฝันคิดถึงตรงนี้ จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกเสียดายที่ตนปฏิเสธการ
มาบรรยายเมื่อวาน
แม้ไม่ได้มาเรียนที่นี่ แต่…มาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่นี่ได้!
แบบนี้ก็ถือว่าฝันเป็นจริงไม่ใช่หรือ
คิดแล้วเฉินชางก็อดยิ้มไม่ได้
เฉินชางเดินตรงไปที่ห้องผ่าตัด ซุนกว่างอวี่รอเฉินชางอยู่ก่อน
แล้ว
หลังจากเห็นเฉินชาง เขาก็พูดยิ้มๆ “วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยู
เนี่ยนยินดีต้อนรับครับหมอเฉิน”
เฉินชางยิ้ม จากนั้นทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้า เข้าห้องผ่าตัดไป
หลังจากเฉินชางอ่านชาร์ตผู้ป่วยก็อึ้งงันไป นี่มัน…คนที่ตน
มักจะเจอในโทรทัศน์ตอนเด็กไม่ใช่เหรอ
ชื่อนี้ถ้าพูดออกมาคงจะโดนฆ่าปิดปากแน่!
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางสะเทือนใจเล็กน้อย
ทว่า ความจริงเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเฉินชางมากนัก
คนที่นอนอยู่บนเตียงล้วนเป็นคนไข้ ไม่ว่าเขาจะเคยทำอะไรมาก่อนเห็นท่าทางของเฉินชาง ซุนกว่างอวี่ยิ้ม “ไม่ต้องตื่นเต้น น ถือเสีย
ว่าเป็นคนไข้ทั่วไป”
เฉินชางพยักหน้า “ครับ”
การผ่าตัดส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่ครึ่งขวาที่เป็นจุดเริ่มต้น
ของมะเร็งยากกว่าการผ่าตัดส่องกล้องแบบอื่นมาก
เพราะมีหลอดเลือดที่ต้องจัดการมากเกินไป ปัจจัยเสี่ยงจึง
ซับซ้อนมาก
อีกอย่าง การผ่าตัดแบบส่องกล้องเป็นการทำงานเป็นทีม
ความสำ คัญของผู้คุมกล้องเป็นสิ่งที่ศัลยแพทย์แบบส่องกล้องทุกคน
สัมผัสได้อย่างลึกซึ้ง!
โดยทั่วไป ทุกคนล้วนให้คนรู้จักทำ ถึงขั้นล้วนเป็นคนเก่าคนแก่
มักมีบุคลากรเฉพาะทางจากทีมศัลยกรรมมาทำหน้าที่ผู้คุมกล้อง!
จวงเยว่หมิงมองเฉินชางแล้วพูดยิ้มๆ ด้วยความหวังดี “หมอ
เฉิน ให้ผมทำไหมครับ”
เฉินชางยิ้ม “ไม่เป็นไร ผมเป็นซัพพอร์ตมืออาชีพ ถือว่าพึ่งพา
ได้ ถ้าทำได้ไม่ดี ต้องรบกวนหัวหน้าจวงต้องรับหน้าที่แทนด้วยตัวเองนะครับ”
ซุนกว่างอวี่อดพูดไม่ได้ “วันนี้มาสัมผัสเทคนิคการคุมกล้อง
ของหมอเฉินสักหน่อย!”
ทุกคนต่างหัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมา
ฉินเยว่เห็นทั้งสามคุยกันอย่างออกรส จู่ๆ ก็รู้สึกว่า…ตนเหมือน
เป็นเด็กที่พูดแทรกไม่ทัน