เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 966

เฉินชางเห็นว่าวันเสาร์อาทิตย์ยิ่งใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เขาพลัน
รู้สึกว่าภารกิจของตนยิ่งยุ่งวุ่นวายขึ้นมา
บรรณาธิการหลักวารสารประจำ ปีศัลยกรรมทรวงอกคุยกับ
เฉินชางอยู่พักหนึ่ง ด้วยหวังว่าจะได้สัมภาษณ์พิเศษเฉินชางสักครั้ง
พอได้ข่าวนี้แล้ว ตัวเฉินชางก็ไม่มีความเห็นอะไร แต่…
เดือนนี้ตารางของเฉินชางเต็มแล้ว!
เสาร์อาทิตย์นี้มีงานชุมนุมระบบย่อยอาการที่ซุนกว่างอวี่เป็น
คนจัด เสาร์อาทิตย์หน้ามีงานอบรมเพิ่มพูนความรู้การผ่าตัด
ตับอ่อนฉุกเฉินพื้นฐานขององค์การระดับชาติ
อีกสองสัปดาห์ก็ต้องไปอเมริกาเพื่อร่วมประชุมระบบ
ทางเดินอาหารของเมโย
ช่วงนี้เฉินชางยุ่งมากจริงๆ เขาจึงทำได้แค่เลื่อนออกไป
แต่ที่ทำให้เฉินชางสงสัยก็คือ อีกฝ่ายเข้าใจและรับได้หมด
จริงๆ กระทั่งยังรู้สึกว่าสมเหตุสมผลดูท่าเวลาของคนดังจะไม่ใช่เวลาของตัวเองจริงๆ สินะ
พอกลับบ้านตอนค่ำ เฉินชางก็เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อทำ
โครงร่างเทคนิคการใช้กล้องส่องที่อยู่ในหัว
ถ้ารู้แต่แรก เฉินชางคงไม่ใช้เวลาในการตีพิมพ์บทความช่วง
ก่อนหน้านี้มากขนาดนั้นแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็มีนักเรียนมากขนาดนี้
จึงอยากหาเวลาให้คนกลุ่มนี้เขียนบทความมาคนละฉบับ วิเคราะห์
วิธีการผ่าตัดจากมุมมองและจุดเน้นต่างๆ กันไป
ตอนนี้เฉินชางเข้าใจแล้วว่าทำไมบรรดาเทพพวกนั้นถึง
มีบทความมากมายขนาดนั้น ย่อมไม่ใช่เพราะเขียนเอง พวกเขา
มีเวลาขนาดนั้นเสียที่ไหน
เป็นเพราะมีทีมของตัวเองทั้งนั้น
ที่จริงหนังสือเทคนิคการใช้และแนวทางการส่องกล้องยัง
พัฒนาได้อีกมาก เพราะการส่องกล้องก็แบ่งออกเป็นการส่องกล้อง
ช่องท้อง ส่องกล้องทรวงอก เป็นต้น การผ่าตัดที่แตกต่างกันย่อม
ต้องมีผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ถึงทำได้แต่แทนที่จะทำงานเกินตัว สู้ตั้งใจทำให้สำ เร็จเพียงอย่างเดียว
เสียดีกว่า
นั่นก็คือการใช้กล้องส่องช่องท้อง
ถ้าครบถ้วนกระบวนความ มีภาพผ่าตัดของทุกเทคนิคจะดี
ที่สุด
แบบนี้แล้วตอนเรียนรู้จะได้สะดวกขึ้นหน่อย
แต่บรรณาธิการหลักกับกรรมการรองบรรณาธิการมากมาย
ขนาดนี้ ย่อมให้ตนทำงานคนเดียวไม่ไหว
เฉินชางตัดสินใจเรียบเรียงแนวคิดโดยรวม แล้วแบ่งงาน
โดยละเอียดให้เรียบร้อยก่อน ถ้าตั้งทีมกรรมการผู้เชี่ยวชาญในงาน
ชุมนุมครั้งนี้ได้จะดีที่สุด
จากนั้นจึงค่อยเอางานและภาพที่ชัดเจนพวกนั้นให้กรรมการ
พวกนี้ทำให้เสร็จ
ที่จริงแต่งหนังสือถือเป็นงานช้าง!
ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆเคยเขียนหนังสือเล่มหนึ่งอยู่สิบกว่าปีหรือแม้กระทั่งหลายสิบปี
เคสรักษาของคนดังเห่ลานั้นต่างวาดเองทีละเส้นทั้งนั้น
แต่ตอนนี้ล่ะ
ตำราของศาสตราจารย์บางคนที่คุณเห็นอยู่ล้วนเป็นสิ่งที่
นักศึกษาจัดทำทั้งนั้น
ถึงกับดึงเอาสิ่งละอันพันละนิดของหนังสือสองสามเล่ม
มารวมกันด้วยซ้ำ
ในสังคมนี้มีคนที่จดจ่อกับการทำงานวิชาการได้จริงๆ น้อยลง
ไปทุกที
ในสายตาคนเหล่านี้ การเขียนหนังสือเป็นเรื่องใหญ่!
แต่ในสายตาของใครหลายๆ คนการเขียนหนังสือกลาย
เป็นการชุบตัวไปแล้ว
วารสารใหญ่กับแพลตฟอร์มต่างๆ เริ่ม ‘รับตำแหน่ง’ ‘รอง
บรรณาธิการ’ และ ‘คณะกรรมการบรรณาธิการ’ อย่างเปิดเผยเสีย
ด้วยซ้ำการศึกษาและงานวิชาการกลายเป็น ‘สินค้าแลกเปลี่ยน’
อย่างหนึ่งตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้เสียแล้ว
ต่อให้เฉินชางเทียบกับคนดังเหล่านั้นไม่ได้ แต่ก็หวังว่าการ
เขียนหนังสือเล่มนี้จะมีประโยชน์อย่างแท้จริง ไม่ใช่การชุบตัว
เป็นแนวทางส่องกล้องของศัลยแพทย์ทั่วไปหลายคนได้!
ตอนที่เฉินชางยุ่งอยู่ ฉินเยว่ก็ไม่ได้รบกวน หยิบหนังสือไปอ่าน
เอง
เฉินชางใช้เวลาทั้งคืนจึงเรียบเรียงสิ่งที่อยู่ในหัวแล้วจัดระเบียบ
โครงร่างจนเสร็จ
ก่อนอื่น เล่มแรกจะเป็นแนวทางการใช้กล้องส่องฉบับใช้ทั่วไป
ต่อมา เล่มที่สอง เขาหวังว่าจะเขียนเทคนิคตามวิธีการอย่าง
ประเภทของอาการป่วยได้
……
……
กลางวันออกตรวจคลินิก กลางคืนเขียนหนังสือ ชีวิตแบบนี้
ถือว่าเต็มอิ่มจริงๆ พูดให้ง่ายหน่อยคือเหนื่อยมากแต่เหนื่อยก็ส่วนเหนื่อย งานที่มีความหมายเช่นนี้ต้องสงบใจ
แล้วอดทนตั้งใจทำ
ที่จริงเขารู้ดีว่าตัวเองฉวยโอกาส เทคนิคและประสบการณ์การ
ใช้กล้องส่องระดับสมบูรณ์ในสมองฉายวาบไม่หยุดเหมือนกับ
ภาพสะท้อน เฉินชางเพียงแค่ต้องนำสิ่งเหล่านี้มาจัดประเภทก็
เป็นอันใช้ได้แล้ว
แต่ตอนเช้าวันพฤหัส ซุนกว่างอวี่จากปักกิ่งยูเนียนก็โทรศัพท์
มาบอกว่าคุณปอผู้พ่ออยากพบเฉินชางเพื่อแสดงความขอบคุณ
ด้วยตัวเอง
เฉินชางได้ยินแล้วรู้สึกเป็นเกียรติมาก พอเลิกงานแล้วจึงไป
ซูเปอร์มาร์เก็ตตั้งใจคัดของกินที่เหมาะสมให้คุณปอผู้พ่อรับประทาน
ในเวลาปกติจำ นวนหนึ่ง
ตอนเที่ยง เขาตั้งใจไปพบคุณปอผู้พ่อที่ปักกิ่งยูเนียน
โดยเฉพาะ
คุณปอผู้พ่อเห็นว่าเฉินชางมาแล้วจึงเรียกครอบครัว
มาประคองให้เขาเอนนอนดีๆ เขายิ้มมองเฉินชางพลางเอ่ยว่า“มาแล้วยังอุตส่าห์เอาของมาให้อีก”
เฉินชางยิ้มพลางส่ายหัว “ผมซื้อตัวอย่างมาน่ะครับ หลังจาก
อาจารย์ปอออกจากโรงพยาบาลแล้วซื้อของตามที่ผมซื้อมาได้นะ
ครับ มีประโยชน์กับทางเดินอาหารของคุณ”
พอได้ยินคำพูดของเฉินชาง ปอฮั่นอวี๋พลันยิ้มขึ้นมาทันที
คนที่อยู่รอบๆ คุณปอผู้พ่อเห็นเขามีความสุขขนาดนี้แล้วอด
ชื่นชมทันทีไม่ได้ว่าคนมีการศึกษานี่มันต่างกันจริงๆ ให้ของขวัญยังดู
มีหลักการขนาดนี้ เล่นเอาคนรับใจอ่อนได้เลย
นี่เป็นห้องผู้ป่วยวีไอพี มีห้องรับแขกโดยเฉพาะ ในห้องมีคนอยู่
มากมาย
วันนี้คุณปอผู้พ่อท่าทางจะรับแขกได้ หลายคนจึงรีบมาหา
ปอฮั่นอวี๋เรียกเฉินชางมาพูดคุยที่ข้างเตียง
เดิมทีเฉินชางนึกว่าเขาจะพูดจายืดยาวมากหลักการ แต่กลับ
ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
คุณปอผู้พ่อกำชับเฉินชางว่าตอนยังหนุ่มต้องดูแลรักษา
ร่างกาย ร่างกายเป็นต้นทุนของการปฏิวัติ ที่เขาป่วยแบบนี้ก็เพราะผลพวงจากสมัยหนุ่ม เขาชื่นชมเฉินชางด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอยู่นาน
เฉินชางอยู่คุยกับปอฮั่นอวี๋พักหนึ่งแล้วจึงเตรียมบอกลา
ถึงอย่างไรผู้สูงอายุก็เพิ่งอาการดีขึ้น จะให้เหนื่อยเกินไปไม่ได้
จนเฉินชางเตรียมจากไป คุณปอผู้พ่อจึงเรียกเขาไว้ หลุบตาลง
แล้วพูดช้าๆ ว่า “เอ่อ เสี่ยวเฉินเอ๋ย คุณก็ถือว่าช่วยชีวิตผมแล้วนะ!
ต่อไปถ้าเจอปัญหาอะไรก็มาหาผมได้ ตาแก่อย่างผมยังพอทำอะไร
ได้นิดหน่อย”
ประโยคเดียวทำเอาเฉินชางอึ้งไป ขนาดคนที่อยู่ในห้องรับแขก
ยังผงะไปทันที
นี่เป็นถึงสัญญาจากผู้อาวุโส ดูท่าเขาจะให้ความสำ คัญกับเฉิน
ชางมากทีเดียว!
นี่ถึงกับปฏิบัติอย่างผู้มีพระคุณกันเลย
ทันใดนั้นทุกคนก็ทอดถอนใจไม่ว่างเว้น!
เฉินชางย่อมซาบซึ้งกับเรื่องนี้อย่างไร้ที่สิ้นสุด
ต่อให้ดูเหมือนชายชราจะเป็นแค่คนแก่วัยไม้ใกล้ฝั่ง อ่อนแอ
มิอาจต้านลมได้คนหนึ่ง แต่พอนึกถึงคุณงามความดีของเขาแล้วอาจจะเทียบกับคนทั่วไปไม่ได้จริงกระมัง!
พอเฉินชางขอบคุณยกใหญ่แล้วเตรียมลุกขึ้นจะออกไป เขาก็
กำชับชายชราให้พักฟื้นดีๆ พอออกจากโรงพยาบาลแล้วจะไปเยี่ยม
ถึงที่
แต่ในเมื่อมาที่ปักกิ่งยูเนียนแล้ว เฉินชางจึงตัดสินใจไปหาหวัง
ทงที่แผนกศัลยกรรมหัวใจเสียหน่อย!
ช่วงนี้หวังทงที่ค่อยๆ เชี่ยวชาญการผ่าตัดโดยหัวใจไม่หยุดเต้น
ยุ่งจนปลีกตัวไม่ได้ เข้าผ่าตัดอย่างไม่มีว่าง ภรรยาก็ถูกเขาจับเข้าวัง
เย็นไปนานแล้ว
หวังทงในตอนนี้แทบจะกลายเป็น ‘แพทย์ประจำ บ้าน’ วิจัย
เทคนิคการผ่าตัดโดยหัวใจไม่หยุดเต้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
พอเห็นว่าเฉินชางมาแล้ว หวังทงจึงวางกล่องข้าวในมือลง
“อาจารย์เฉิน มาได้ไงครับ”
หวังทงเรียกอาจารย์เฉินแบบนี้ได้โดยไม่ตะขิดตะขวง
เฉินชางยิ้ม “ผ่านมาพอดีเลยมาหาคุณหน่อยครับ”
หวังทงพยักหน้ายิ้มให้แล้วเชิญเฉินชางเข้าห้องทำงานพอเห็นกล่องข้าวกับคอมพิวเตอร์ที่เปิดไว้ รวมทั้งบทความที่
พิมพ์ออกมาวางอยู่บนโต๊ะ เฉินชางก็รู้สึกทันทีว่าหัวหน้าของปักกิ่งยู
เนี่ยนไม่ได้เป็นกันง่ายขนาดนั้นจริงๆ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ