เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 972

ผู้อาวุโสถูเชิญพ่อครัวใหญ่มาทำอาหารกลางวันโดยเฉพาะ
อาหารวางอยู่บนโต๊ะสามตัว ดื่มอวยพรด้วยน้ำชาแทนเหล้าก็
มีรสชาติไปอีกแบบ
ในที่นั่งทานอาหาร ผู้อาวุโสถูยังมาดื่มชาถ้วยหนึ่งทั้งยังพูดคุย
กับเฉินชางด้วยตัวเอง
จะว่าไปถูเฉิงก็ทึ่งกับเฉินชางมากเหมือนกัน
คนหนุ่มแบบนี้ทำได้ยังไงกันแน่
ใครก็อยากผูกมิตรกับอัจฉริยะทั้งนั้น
ผู้อาวุโสถูเวียนพูดคุยกับทุกคนพักหนึ่งแล้วจึงกลับไปพักผ่อน
ที่ลานบ้านด้านหลัง
ทุกคนก็ต่างพักผ่อนในห้องพักแขกแล้วเตรียมการแลกเปลี่ยน
ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
แต่เออร์สเต็ดค่อนข้างร้อนรน เขาตามหลังเฉินชาง อดถามขึ้น
ไม่ได้ว่า “หมอเฉิน…ผม…”เฉินชางมองเออร์สเต็ด “ศาสตราจารย์เออร์สเต็ด มีอะไรพูด
ตามตรงได้เลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ”
เออร์สเต็ดกระแอมเบาๆ “เอ่อ ผมก็อยากเข้าเป็น
กองบรรณาธิการด้วย บอกตามตรง ผมมาคราวนี้ก็หวังว่า
จะเขียนหนังสือเล่มนี้ให้เสร็จร่วมกับหมอเฉิน!
ผมมีความเชี่ยวชาญเรื่องระบบตับและน้ำดี พวกการผ่าตัด
ทางเดินน้ำดีด้วยการส่องกล้องก็ถนัด ผมหวังว่าจะเสนอแนวคิด
และไอเดียให้หนังสือของหมอเฉินได้บ้าง”
เฉินชางได้ยินแล้วตาเป็นประกายทันที สิ่งที่เออร์สเต็ด
เชี่ยวชาญ…นี่ต้องระดับสมบูรณ์ใช่ไหมนะ
ขี้เหร่สุดก็ต้องระดับกึ่งสมบูรณ์!
แต่เฉินชางมีคำถามอยู่ข้อหนึ่ง “ศาสตราจารย์เออร์สเต็ด
จะทันไหมครับ คุณไม่ต้องกลับไปลอนดอนหรือครับ”
เออร์สเต็ดอดยิ้มไม่ได้ ส่ายหน้า “ที่ผมมาครั้งนี้คือมุ่งมั่นตั้งใจ
แล้วว่าทำ และจะอยู่ที่นี่ช่วงหนึ่งผมแจ้งทางโรงพยาบาลแล้วเหมือนกัน มาคราวนี้ถือว่า
มาทำงานแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ที่ประเทศจีน”
ที่จริงระดับอย่างเออร์สเต็ดไปแลกเปลี่ยนเยี่ยมเยียนประเทศ
ไหนก็เป็นที่ต้อนรับทั้งนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น การผ่าตัดในประเทศหลายเคสก็ยังใช้แนวทาง
ของเออร์สเต็ดเสียด้วย
เช่นแนวคิดการตรวจคลินิกและแนวทางใหม่ล่าสุดของการ
ผ่าตัดไส้ติ่ง ถุงน้ำดีหรือทางเดินน้ำดีที่พบได้บ่อยก็มีเออร์สเต็ดเป็น
ผู้จัดทำทั้งนั้น
เฉินชางคิดไปคิดมาแล้วพลันรู้สึกว่ามีคนแบบนี้
มาเขียนหนังสือร่วมกับตนก็ไม่เลว!
ถึงอย่างไรแบบนี้แล้วเทคนิคการใช้กล้องส่องที่ทำจะต้องได้รับ
การยอมรับมากยิ่งขึ้นแน่ๆ
พอคิดถึงตรงนี้เฉินชางจึงเอ่ยว่า “งั้น…ไอเดียของหมอ
เออร์สเต็ดคือ?”เออร์สเต็ดพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “ติดตามหมอเฉิน! หมอเฉิน
ไปไหนผมไปด้วย”
เฉินชางอึ้งทันที “สะดวกเหรอครับ”
เออร์สเต็ดยิ้มให้ “ผมจะแจ้งกระทรวงสาธารณสุข น่าจะได้
ครับ”
เฉินชางอดสบถในใจไม่ได้ นี่คงเพราะเป็นตัวพ่อล่ะสิ
ตอนบ่ายทุกคนดูตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ถึงอย่างไรวันนี้การปรากฏตัวของเฉินชางก็ทำให้ทุกคน
ประหลาดใจและตื่นเต้นมากจริงๆ
โดยเฉพาะเรื่องกองบรรณาธิการหนังสือเทคนิคและแนว
ทางการส่องกล้อง พอทุกคนคิดว่าในอนาคตชื่อของตนจะดังก้องไป
ทั่วทุกแห่งบนโลกนี้ก็ดีใจเนื้อเต้น
แต่ถึงอย่างไรหัวข้อหลักในวันนี้ก็คือการฟื้นฟูระบบ
ทางเดินอาหาร ทุกคนจึงออกมาแบ่งปันกลเม็ดที่ตนถนัด
ทว่าขณะที่เฉินชางตั้งใจฟังอยู่ข้างล่าง จู่ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้น!
นั่นก็คือแถบประสบการณ์ของเขาเพิ่มสูงขึ้นช้าๆ!มิหนำซ้ำ ยังเดี๋ยวช้าเดี๋ยวเร็วด้วย!
ตอนนี้เฉินชางอึ้งไปทันที
หรือนี่จะเป็นความห่างชั้นระหว่างน้ำกับเนื้อเน้น
เฉินชางรับรู้ได้อย่างเฉียบแหลมว่านี่ก็เป็นเทคนิคหนึ่งสิน่า
ด้วยสิ่งนี้ ตนสามารถรู้ได้ว่าสิ่งไหนเป็นแก่นสำ คัญที่
มีประโยชน์ สิ่งไหนไม่สำ คัญจะฟังผ่านหูไปก็ได้
สุดท้ายเออร์สเต็ดก็ไม่พลาด ขึ้นไปพูดความคิดของตนเช่นกัน!
และในตอนนี้เฉินชางก็พบอย่างประหลาดใจ!
นี่มันเนื้อเน้นๆ เลยนี่นา
แถบประสบการณ์เพิ่มขึ้นพรวดพราดเลย!
ดูท่าถึงตาเคราเฟิ้มคนนี้ดูเหมือนดุ แต่เป็นคนดีใช้ได้
หลังจากงานชุมนุมจบลง
ทุกคนก็พากันกลับไป สิ่งที่เก็บเกี่ยวได้วันนี้เหลือเฟือนัก!
เฉินชางเองก็เช่นกัน ไม่ว่าจะวิสัยทัศน์หรือประสบการณ์ก็
เพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมากตอนที่การประชุมจบลง ความสำ เร็จของเฉินชางก็ทะลวงถึงเล
เวลห้าสิบแล้ว
……
……
ตอนเริ่มงานวันจันทร์ เฉินชางมีผู้ติดตามรุ่นเฮฟวี่เวทเพิ่ม
มาหนึ่งคน
เขาตัวสูงเมตรแปดสิบกว่า น้ำหนัก…อย่างน้อยที่สุดก็ราวๆ
เก้าสิบกิโลกรัม และรูปลักษณ์เคราเฟิ้มเต็มหน้านั้นดูแล้วค่อนข้างดุ
และน่าตกใจ
นี่ทำให้เหล่าหม่ายังไม่กล้าลงไม้ลงมือกับเฉินชางไปพักหนึ่ง!
ถึงอย่างไรชายชาตรีแบบนี้มาเดินตามหลังเฉินชาง แถมยัง
เรียก ‘หมอเฉิน’ อยู่ทุกคำ ก็ทำให้เหล่าหม่าสงสัยว่าถ้าตนตบเฉิน
ชางเข้าสักป้าบ เจ้าฝรั่งคนนี้จะชกตนสักหมัดหรือเปล่า
เหล่าหม่าคิดถึงตรงนี้ จึงตัดสินใจอดทนไว้
และพอทุกคนเห็นเฉินชางพาฝรั่งคนหนึ่งมา มิหนำซ้ำ ฝรั่งยัง
พินอบพิเทากับเฉินชาง ก็มีสีหน้าประหลาดใจไปหมด!แม้ว่าโรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉินจะมีนักวิชาการจากภายนอก
มาเยือน แต่ก็ไม่ได้สูงวัยขนาดนี้ ทุกคนเห็นเออร์สเต็ดที่เครายาว
กว่าผมคนนี้แล้วจึงเริ่มสงสัย
ตอนเปลี่ยนเวร อวี๋หย่งกังแนะนำเออร์สเต็ดอย่างจริงจัง
ตอนนี้เองทุกคนจึงอึ้งไป!
ไอ้เคราเฟิ้มนี่ดันเก่งขนาดนี้เลยหรือ
มิหนำซ้ำ ประเด็นคือนอบน้อมกับเฉินชางขนาดนี้เพราะอะไร
กันแน่
เฉินชางเก่งขนาดนี้เลยหรือ
เฉินชางเก่งไหมพวกเขาไม่รู้ แต่เออร์สเต็ดคนนี้จากที่ได้ยิน
กิตติศัพท์แล้วก็เก่งจริงๆ
ดังนั้นวันนี้พวกเขาจึงตั้งใจจัดให้เออร์สเต็ดผ่าตัดหลายเคส
กับเรื่องนี้!
เออร์สเต็ดตั้งตาคอยมานานแล้ว ถึงกับค่อนข้างตื่นเต้น
ด้วยซ้ำเพราะมาได้สองสามวันแล้ว ในที่สุดก็มีโอกาสแสดงฝีมือสักที
เขาพบว่ากิตติศัพท์ของตนเหมือนจะไม่ได้สร้างความหวั่นเกรงให้
เฉินชางเท่าไรนัก
นี่ทำให้เขาอยากพิสูจน์ตัวเองเป็นอย่างมาก
พอได้ยินว่ามีโอกาสแสดงฝีมือ เออร์สเต็ดย่อมตื่นเต้นเป็น
ที่สุด นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาตั้งตาคอยการผ่าตัดขนาดนี้
ต่อให้เป็นการผ่าตัดไส้ติ่งก็ไม่เกี่ยง ขอแค่ได้ผ่าตัดก็ยินดี
ทำให้หมอเฉินมองตนใหม่ก็พอแล้ว
เออร์สเต็ดยิ้มให้อวี๋หย่งกังแล้วเอ่ยว่า “หัวหน้าอวี๋ ในเมื่อผม
มาแลกเปลี่ยน ผมหวังว่าจะจัดการผ่าตัดเพื่อแสดงให้ทุกคนดู
มากขึ้นหน่อย จะได้เป็นการแลกเปลี่ยนกัน
ผมว่าตัวผมเองมีความรู้ความเข้าใจด้านการผ่าตัดไส้ติ่ง
ถุงน้ำดี ให้หมอบางคนมาผ่าด้วยกันเพื่อแลกเปลี่ยนกันด้วยก็ได้”
อวี๋หย่งกังได้ยินแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผลเหมือนกัน จะพลาดโอกาส
นี้ไม่ได้!
หลังจากมองไปรอบๆ สายตาก็หยุดลงที่เฉินชาง“เสี่ยวเฉิน คุณไปแลกเปลี่ยนกับหมอเออร์สเต็ดสักครั้งเถอะ!
แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเสียหน่อยเป็นไง”
เฉินชางได้ยินแล้วจึงพยักหน้า “ได้ครับ”
แม้ว่าเขาจะค่อนข้างเอนเอียงไปทางเป็นผู้ช่วย แต่มีเออร์สเต็ด
ชี้แนะก็เป็นเรื่องดี
ทว่า…
พอเออร์สเต็ดได้ยินว่าเป็นเฉินชาง ดูเผินๆ เหมือนผ่อนคลาย
สบายอารมณ์ แต่ในใจเก็บกลั้นความตื่นเต้นเร้าใจไว้ไม่อยู่มาก่อน
แล้ว
หัวหน้าอวี๋เป็นคนดีจังเลยนะ
เออร์สเต็ดคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้แล้ว เฉินชางถึงมาสังเกตการณ์
การผ่าตัดของตนได้อย่างใกล้ชิด รับรู้ได้ว่าตนก็เก่งเหมือนกัน!
ไม่แน่ว่าตนอาจจะยังได้ชี้แนะหมอเฉินไปพลางเสียด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าตอนที่เออร์สเต็ดแนะนำจะต้องเตือนตัวเองไม่หยุด
ว่าต้องระมัดระวัง น้ำเสียงต้องนุ่มนวลหน่อย
ตอนที่เขาคิดอยู่…ก็อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้ม