ในห้องผ่าตัดเตรียมดำ เนินการต่อแล้ว!
อวี๋หย่งกังตัดสินใจว่าจะไปดูที่หน้างานเอง
ส่วนเหล่าหม่าก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะสงสัย ยิ่งไม่ใช่
เพราะอยากเห็นเฉินชางโชว์เทพ แต่เป็นเพราะเขาต้องทำ วาระ
สำ คัญล้วนๆ
มิหนำ ซ้ำ ต้องเป็นเขาเท่านั้น
ที่จริงตอนนี้เหล่าหม่าพบว่าตนมีประโยชน์ที่คนอื่นทำ แทนไม่
ได้
ด้านผู้นำ โรงพยาบาลก็รู้ว่าเออร์สเต็ดมาที่โรงพยาบาลเพื่อ
แลกเปลี่ยนความรู้ สำ หรับอู๋ถงฝู่แล้วนี่ก็เป็นเรื่องได้หน้าเรื่องหนึ่ง
เช่นกัน
และแผนกประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลย่อมไม่มีทางปล่อย
โอกาสแบบนี้ไป ถึงกับเชิญสื่อในระบบสาธารณสุขมาประชาสัมพันธ์
ศูนย์ฉุกเฉินแต่ข่าวเออร์สเต็ดดึงดูดความสนใจของสื่อสัญชาติต่าง
ประเทศของอังกฤษสื่อหนึ่ง พวกเขาหวังว่าจะตามมาสัมภาษณ์ด้วย
กัน
ดังนั้นพวกผู้นำ โรงพยาบาลกับนักข่าวจึงพากันมาที่ห้อง
ทำ งานของห้องผ่าตัด เพราะหวังว่าจะได้บันทึกเนื้อหาพวกนี้แล้ว
แต่งเติมเพิ่มเพื่อประชาสัมพันธ์ เช่นนี้แล้วทั้งได้ยกระดับการดำ เนิน
การของโรงพยาบาล แล้วยังเพิ่มอิทธิพลในวงการให้กับโรงพยาบาล
ด้วย
พอมาถึงออฟฟิศ อู๋ถงฝู่ก็เห็นว่ามีคนอยู่ไม่น้อย
“หัวหน้าอวี๋ล่ะ” อู๋ถงฝู่เอ่ยถาม
คราวนี้เหอจื้อเชียนลุกขึ้นตอบ “ไปห้องผ่าตัดครับ การผ่าตัด
เคสต่อไปก็เป็นการผ่าตัดไส้ติ่งเหมือนกัน”
อู๋ถงฝู่พยักหน้า แล้วเรียกพวกนักข่าวเข้ามานั่งรอเออร์สเต็ด
ออกมา
ตอนนี้เอง เขาก็ส่งสายตาให้เหอจื้อเชียน
เหอจื้อเชียนจึงลุกออกไปจากห้องกับอู๋ถงฝู่อู๋ถงฝู่มองเหอจื้อเชียนแล้วพูดเสียงค่อย “เอ่อ การผ่าตัดเคส
ต่อไปคุณผ่าดีไหม คุณดูสิ สื่อนอกมีคนมาด้วย ต่อให้บอกว่า
เป็นการแลกเปลี่ยน แต่ก็คงขายหน้าไม่ได้อยู่ดีหรือเปล่า”
พอได้ยินคำ ของอู๋ถงฝู่ เหอจื้อเชียนอดไม่ได้ยิ้มให้ “ผู้อำ นวยกา
รอู๋ คุณไม่ต้องกังวล เฉินชางก็อยู่ตรงนั้นนี่! อีกอย่างเคสต่อไปเขา
เป็นแพทย์ผู้นำ ทีม!”
อู๋ถงฝู่สีหน้าอึมครึมทันที “หาเรื่อง ตอนนี้จะให้เสี่ยวเฉินก่อ
เรื่องวุ่นวายไม่ได้ สื่อนอกนี่ชอบจับผิดอยู่ด้วย ถ้าเกิดไปใส่สีตีไข่
อะไรขึ้นมา
เดี๋ยวผู้นำ กระทรวงสาธารณสุขได้โมโหอีก!”
อู๋ถงฝู่มองเหอจื้อเชียนแล้วสูดหายใจลึกๆ “คุณรีบไป เรื่อง
จริงจังอย่าชักช้า”
เหอจื้อเชียนจนใจจริงๆ เขาจึงเล่าเรื่องของเฉินชางกับเออร์ส
เต็ดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้อย่างละเอียด
พอเล่าจบ จู่ๆ เหอจื้อเชียนก็นิ่วหน้าในทันใด “ใช่ ผมต้องไป
เตือนเฉินชาง จะให้วิจารณ์เออร์สเต็ดต่อหน้าสื่ออังกฤษไม่ได้ แบบนี้ไม่ดีแน่!”
พอคิดถึงตรงนี้ เหอจื้อเชียนก็ลุกขึ้นเตรียมตัวเปลี่ยนชุดแล้ว
เดินไปห้องผ่าตัด
อู๋ถงฝู่ได้ยินแล้วอึ้งไปทันที “เอ่อ…เสี่ยวเฉินผ่าตัดไส้ติ่งเก่งกว่า
เออร์สเต็ดอีกหรือ”
เหอจื้อเชียน “เออร์สเต็ดพูดเอง ผมก็ไม่เคยเห็นเสี่ยวเฉิน
ผ่าตัดไส้ติ่งอยู่ดี เลยฟันธงไม่ถูกเหมือนกัน”
อู๋ถงฝู่รีบเอ่ย “คุณรีบไป…”
พอพูดจบ อู๋ถงฝู่ก็กลับห้องทำ งาน
ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยก็นอนอยู่บนเตียงในห้องผ่าตัดแล้ว!
แต่…พอเห็นว่ามีชาวต่างชาติคนหนึ่งในกลุ่มหัวหน้าที่อยู่รอบๆ
แล้ว จู่ๆ ก็สะดุดกึกในใจ
“หมอ คุณหลอกฉันหรือเปล่า ฉันไม่ได้ไส้ติ่งอักเสบใช่ไหมคะ
ฉันต้องป่วยเป็นโรคร้ายแน่เลย!”
ผู้ป่วยเป็นคุณป้าร่างอวบอายุห้าสิบกว่าปีคนหนึ่ง พูดไปพูดมา
ก็ออกจะปวดใจ“พวกลูกๆ ต้องหลอกฉันมา ปิดบังอะไรฉันอยู่แน่เลย…หมอคะ
คุณบอกความจริงเถอะ ฉันไม่กลัวหรอกค่ะ ฉันเป็นมะเร็งกระเพาะ
หรือเปล่าคะ”
ถามประโยคเดียวทำ เอาเฉินชางออกจะทำ หน้าไม่ถูก!
คิดไปคิดมาก็ได้แต่พูดว่า “ถ้าผ่าตัดเสร็จแล้วเดี๋ยวผมเอา
ไส้ติ่งคุณให้ดูนะครับ ทีนี้คุณจะได้รู้ว่าหลอกคุณหรือเปล่า”
“ผ่าตัดไม่นานครับ ใช้เวลาไม่เท่าไร”
แม้ว่าคุณป้าคนนี้จะไม่วางใจ แต่ก็ทำ อะไรไม่ได้
เธอมองหัวหน้าที่อยู่รอบๆ แต่ละคนอย่างกระวนกระวาย ถึง
กับมีผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติด้วย ในใจจึงรู้สึกไม่มั่นใจอยู่ดี
ผู้ป่วยค่อนข้างอ้วน ชั้นไขมันค่อนข้างหนา แบบนี้แล้วความ
ยากในการผ่าตัดแผลเล็กจึงเพิ่มขึ้นไม่น้อย
เออร์สเต็ดมองเฉินชาง “หมอเฉิน ถ้าคราวนี้ใช้การผ่าตัดแผล
เล็กจะยากกว่าไหมนะ”
เฉินชางส่ายหน้า “พอไหวครับ ความจริงสิ่งที่สำ คัญที่สุดจริงๆ
ในการผ่าตัดแผลเล็กก็คือการหาตำ แหน่งที่เหมาะสม แล้วค่อยเลือกเปิดแผลอย่างเหมาะสม…”
พอพูดจบ วิสัญญีแพทย์ก็เตรียมวางยาชา
แต่เฉินชางกลับพูดว่า “รอเดี๋ยวหนึ่งครับ!”
จากนั้นเขาก็เริ่มแตะท้องส่วนล่างของคุณป้าคนนี้โดยไล่ระดับ
จากเบาไปหนัก ภาพสี่มิติในหัวเฉินชางเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นเค้าโครง
ไส้ติ่งอย่างเป็นระบบตามเสียงร้องโอดโอยของคุณป้า
เขากำ หนดจุดบนผนังช่องท้องของผู้ป่วยตามการเตือนผลการ
ฉายภาพ
จากนั้นยาชาเฉพาะที่ก็เริ่มออกฤทธิ์
เฉินชางรับมีดผ่าตัดมาเริ่มผ่าตัด
ผู้ป่วยที่ชั้นไขมันช่องท้องค่อนข้างหนาแบบนี้จะต้องระวัง เฉิน
ชางไม่ได้พยายามให้แผลเล็กลง กลับกัน ปากแผลยังมีขนาดราว
สองเซ็นติเมตร
แต่ในการผ่าตัดขั้นต่อไป เฉินชางได้อธิบายอย่างแท้จริงว่าสิ่ง
ใดคือผ่าตัดผ่อนคลายดุจเมฆเหินน้ำ ไหล สิ่งใดเรียกว่ารู้จักการ
ผ่าตัดดีเหมือนนิ้วมือตัวเองสิ่งที่เกิดขึ้นในช่องท้องเหมือนกับล้วงหยิบของ!
มิหนำ ซ้ำ แต่ละขั้นก็เป็นระเบียบเรียบร้อย พอเหมาะพอเจาะไป
หมด!
ไม่น้อยหรือมากเกินไป ไม่เพิ่มเติมหรือลดหย่อน!
เออร์สเต็ดดูจนหายใจถี่กระชั้น ส่วนอวี๋หย่งกัง เหล่าหม่าและ
เหอจื้อเชียนก็เป็นแบบนี้เช่นกัน
ขณะที่ทุกคนมองใบหน้าอันผ่อนคลายของเฉินชางก็ตกอยู่ใน
ภวังค์ความคิด
ตกลงเขามีสิ่งที่ทำ ไม่เป็นไหมนะ
พอคิดถึงตรงนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ถอนหายใจออกมา
การผ่าตัดค่อยๆ จบลงท่ามกลางเสียงถอนหายใจยาวๆ นี้
ถ้าผ่าตัดได้ผล การผ่าตัดเคสนี้จะต้องเปล่งประกายอร่ามเรือง
มีเมฆมงคลเหลือบรุ้งโอบล้อม บัวเขียวผลิบานดอกแล้วดอกเล่า
รอจนเฉินชางเย็บแผลเสร็จ พอทั้งสี่คนก้มลงไปดูก็อึ้งไปทันที!
แทบหาแผลไม่เจอ!พอดูดีๆ ก็เห็นว่าแผลอยู่ที่รอยย่นผิวหนังที่พับกันอยู่ของหญิง
คนนั้น!
เพราะคนอ้วนพอนั่งนานแล้ว ช่วงท้องมักจะเกิดรอยย่นของ
เนื้อรอยหนึ่ง…
คราวนี้จึงซ่อนรอยแผลไว้ได้พอดี
ถ้าบอกว่าคนในห้องตั้งใจมองแล้วยังเห็นรางๆ ทว่าทุกคนที่ดู
เว็บแคมอยู่ด้านนอกกลับหาแผลไม่เจอทันที!
รู้สึกเหมือนพริบตาเดียวแผลก็หายไปแล้ว!
แต่ไส้ติ่งที่ตัดออกมาก็อยู่บนจานแล้ว นี่…มันมายากลหรือไง
เสกไส้ติ่งออกมาด้วยมือเปล่าหรือ
ท้องไม่มีแผลชัดๆ ผ่าตัดยังแทรกอากาศดึงไส้ติ่งออกมาได้
หรือไง!
เออร์สเต็ดมองเฉินชางแล้วรู้สึกเลื่อมใสจากใจจริง!
มิน่าเมื่อกี้ถึงชี้ข้อบกพร่องของเราออกมาได้หมด
ต่อให้ดูเหมือนเข้มงวดไปหน่อย แต่เรื่องพวกนี้กลับเป็นสิ่งที่ตน
อยากพัฒนาจริงๆ อีกอย่าง เฉินชางทำ เรื่องพวกนี้ได้ดีพอแล้วการผ่าตัดจบลง พอคุณป้าคนนี้ลุกขึ้นมา เธอก็มองทุกคนแล้ว
มองไส้ติ่ง “นะ…นี่ไส้ติ่งหรือคะ”
อืม น้ำ เสียงเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ!
แต่เธอก็รู้ว่าเวลายังไม่ผ่านไปนานเท่าไร
เธอทอดถอนใจ ถึงกับมองดูผิวหน้าหน้าท้องของตน แทบหา
แผลไม่เจอ!
ถ้าไม่ใช่ว่ายาชาหมดฤทธิ์จนความเจ็บแล่นปราดมา เธอยังไม่
ค่อยมั่นใจนักว่าได้ผ่าตัดหรือยัง หมอได้เอาเนื้อหมูสักชิ้นมาหลอก
ตนหรือเปล่า!
“ขอบคุณค่ะหมอ!” คุณป้ายิ้ม
พูดจบเธอก็ถูกพยาบาลเข็นออกไปอย่างเบิกบานใจ
ข้อความหลังแก้ไข:
ในห้องผ่าตัดเตรียมดำ เนินการต่อแล้ว!
อวี๋หย่งกังตัดสินใจว่าจะไปดูที่หน้างานเอง
ส่วนเหล่าหม่าก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะสงสัย ยิ่งไม่ใช่
เพราะอยากเห็นเฉินชางโชว์เทพ แต่เป็นเพราะเขาต้องทำ วาระ
สำ คัญล้วนๆ
มิหนำ ซ้ำ ต้องเป็นเขาเท่านั้น
ที่จริงตอนนี้เหล่าหม่าพบว่าตนมีประโยชน์ที่คนอื่นทำ แทนไม่
ได้
ด้านผู้นำ โรงพยาบาลก็รู้ว่าเออร์สเต็ดมาที่โรงพยาบาลเพื่อ
แลกเปลี่ยนความรู้ สำ หรับอู๋ถงฝู่แล้วนี่ก็เป็นเรื่องได้หน้าเรื่องหนึ่ง
เช่นกัน
และแผนกประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลย่อมไม่มีทางปล่อย
โอกาสแบบนี้ไป ถึงกับเชิญสื่อในระบบสาธารณสุขมาประชาสัมพันธ์
ศูนย์ฉุกเฉินแต่ข่าวเออร์สเต็ดดึงดูดความสนใจของสื่อสัญชาติต่าง
ประเทศของอังกฤษสื่อหนึ่ง พวกเขาหวังว่าจะตามมาสัมภาษณ์ด้วย
กัน
ดังนั้นพวกผู้นำ โรงพยาบาลกับนักข่าวจึงพากันมาที่ห้อง
ทำ งานของห้องผ่าตัด เพราะหวังว่าจะได้บันทึกเนื้อหาพวกนี้แล้ว
แต่งเติมเพิ่มเพื่อประชาสัมพันธ์ เช่นนี้แล้วทั้งได้ยกระดับการดำ เนิน
การของโรงพยาบาล แล้วยังเพิ่มอิทธิพลในวงการให้กับโรงพยาบาล
ด้วย
พอมาถึงออฟฟิศ อู๋ถงฝู่ก็เห็นว่ามีคนอยู่ไม่น้อย
“หัวหน้าอวี๋ล่ะ” อู๋ถงฝู่เอ่ยถาม
คราวนี้เหอจื้อเชียนลุกขึ้นตอบ “ไปห้องผ่าตัดครับ การผ่าตัด
เคสต่อไปก็เป็นการผ่าตัดไส้ติ่งเหมือนกัน”
อู๋ถงฝู่พยักหน้า แล้วเรียกพวกนักข่าวเข้ามานั่งรอเออร์สเต็ด
ออกมา
ตอนนี้เอง เขาก็ส่งสายตาให้เหอจื้อเชียน
เหอจื้อเชียนจึงลุกออกไปจากห้องกับอู๋ถงฝู่อู๋ถงฝู่มองเหอจื้อเชียนแล้วพูดเสียงค่อย “เอ่อ การผ่าตัดเคส
ต่อไปคุณผ่าดีไหม คุณดูสิ สื่อนอกมีคนมาด้วย ต่อให้บอกว่า
เป็นการแลกเปลี่ยน แต่ก็คงขายหน้าไม่ได้อยู่ดีหรือเปล่า”
พอได้ยินคำ ของอู๋ถงฝู่ เหอจื้อเชียนอดไม่ได้ยิ้มให้ “ผู้อำ นวยกา
รอู๋ คุณไม่ต้องกังวล เฉินชางก็อยู่ตรงนั้นนี่! อีกอย่างเคสต่อไปเขา
เป็นแพทย์ผู้นำ ทีม!”
อู๋ถงฝู่สีหน้าอึมครึมทันที “หาเรื่อง ตอนนี้จะให้เสี่ยวเฉินก่อ
เรื่องวุ่นวายไม่ได้ สื่อนอกนี่ชอบจับผิดอยู่ด้วย ถ้าเกิดไปใส่สีตีไข่
อะไรขึ้นมา
เดี๋ยวผู้นำ กระทรวงสาธารณสุขได้โมโหอีก!”
อู๋ถงฝู่มองเหอจื้อเชียนแล้วสูดหายใจลึกๆ “คุณรีบไป เรื่อง
จริงจังอย่าชักช้า”
เหอจื้อเชียนจนใจจริงๆ เขาจึงเล่าเรื่องของเฉินชางกับเออร์ส
เต็ดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้อย่างละเอียด
พอเล่าจบ จู่ๆ เหอจื้อเชียนก็นิ่วหน้าในทันใด “ใช่ ผมต้องไป
เตือนเฉินชาง จะให้วิจารณ์เออร์สเต็ดต่อหน้าสื่ออังกฤษไม่ได้ แบบนี้ไม่ดีแน่!”
พอคิดถึงตรงนี้ เหอจื้อเชียนก็ลุกขึ้นเตรียมตัวเปลี่ยนชุดแล้ว
เดินไปห้องผ่าตัด
อู๋ถงฝู่ได้ยินแล้วอึ้งไปทันที “เอ่อ…เสี่ยวเฉินผ่าตัดไส้ติ่งเก่งกว่า
เออร์สเต็ดอีกหรือ”
เหอจื้อเชียน “เออร์สเต็ดพูดเอง ผมก็ไม่เคยเห็นเสี่ยวเฉิน
ผ่าตัดไส้ติ่งอยู่ดี เลยฟันธงไม่ถูกเหมือนกัน”
อู๋ถงฝู่รีบเอ่ย “คุณรีบไป…”
พอพูดจบ อู๋ถงฝู่ก็กลับห้องทำ งาน
ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยก็นอนอยู่บนเตียงในห้องผ่าตัดแล้ว!
แต่…พอเห็นว่ามีชาวต่างชาติคนหนึ่งในกลุ่มหัวหน้าที่อยู่รอบๆ
แล้ว จู่ๆ ก็สะดุดกึกในใจ
“หมอ คุณหลอกฉันหรือเปล่า ฉันไม่ได้ไส้ติ่งอักเสบใช่ไหมคะ
ฉันต้องป่วยเป็นโรคร้ายแน่เลย!”
ผู้ป่วยเป็นคุณป้าร่างอวบอายุห้าสิบกว่าปีคนหนึ่ง พูดไปพูดมา
ก็ออกจะปวดใจ“พวกลูกๆ ต้องหลอกฉันมา ปิดบังอะไรฉันอยู่แน่เลย…หมอคะ
คุณบอกความจริงเถอะ ฉันไม่กลัวหรอกค่ะ ฉันเป็นมะเร็งกระเพาะ
หรือเปล่าคะ”
ถามประโยคเดียวทำ เอาเฉินชางออกจะทำ หน้าไม่ถูก!
คิดไปคิดมาก็ได้แต่พูดว่า “ถ้าผ่าตัดเสร็จแล้วเดี๋ยวผมเอา
ไส้ติ่งคุณให้ดูนะครับ ทีนี้คุณจะได้รู้ว่าหลอกคุณหรือเปล่า”
“ผ่าตัดไม่นานครับ ใช้เวลาไม่เท่าไร”
แม้ว่าคุณป้าคนนี้จะไม่วางใจ แต่ก็ทำ อะไรไม่ได้
เธอมองหัวหน้าที่อยู่รอบๆ แต่ละคนอย่างกระวนกระวาย ถึง
กับมีผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติด้วย ในใจจึงรู้สึกไม่มั่นใจอยู่ดี
ผู้ป่วยค่อนข้างอ้วน ชั้นไขมันค่อนข้างหนา แบบนี้แล้วความ
ยากในการผ่าตัดแผลเล็กจึงเพิ่มขึ้นไม่น้อย
เออร์สเต็ดมองเฉินชาง “หมอเฉิน ถ้าคราวนี้ใช้การผ่าตัดแผล
เล็กจะยากกว่าไหมนะ”
เฉินชางส่ายหน้า “พอไหวครับ ความจริงสิ่งที่สำ คัญที่สุดจริงๆ
ในการผ่าตัดแผลเล็กก็คือการหาตำ แหน่งที่เหมาะสม แล้วค่อยเลือกเปิดแผลอย่างเหมาะสม…”
พอพูดจบ วิสัญญีแพทย์ก็เตรียมวางยาชา
แต่เฉินชางกลับพูดว่า “รอเดี๋ยวหนึ่งครับ!”
จากนั้นเขาก็เริ่มแตะท้องส่วนล่างของคุณป้าคนนี้โดยไล่ระดับ
จากเบาไปหนัก ภาพสี่มิติในหัวเฉินชางเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นเค้าโครง
ไส้ติ่งอย่างเป็นระบบตามเสียงร้องโอดโอยของคุณป้า
เขากำ หนดจุดบนผนังช่องท้องของผู้ป่วยตามการเตือนผลการ
ฉายภาพ
จากนั้นยาชาเฉพาะที่ก็เริ่มออกฤทธิ์
เฉินชางรับมีดผ่าตัดมาเริ่มผ่าตัด
ผู้ป่วยที่ชั้นไขมันช่องท้องค่อนข้างหนาแบบนี้จะต้องระวัง เฉิน
ชางไม่ได้พยายามให้แผลเล็กลง กลับกัน ปากแผลยังมีขนาดราว
สองเซ็นติเมตร
แต่ในการผ่าตัดขั้นต่อไป เฉินชางได้อธิบายอย่างแท้จริงว่าสิ่ง
ใดคือผ่าตัดผ่อนคลายดุจเมฆเหินน้ำ ไหล สิ่งใดเรียกว่ารู้จักการ
ผ่าตัดดีเหมือนนิ้วมือตัวเองสิ่งที่เกิดขึ้นในช่องท้องเหมือนกับล้วงหยิบของ!
มิหนำ ซ้ำ แต่ละขั้นก็เป็นระเบียบเรียบร้อย พอเหมาะพอเจาะไป
หมด!
ไม่น้อยหรือมากเกินไป ไม่เพิ่มเติมหรือลดหย่อน!
เออร์สเต็ดดูจนหายใจถี่กระชั้น ส่วนอวี๋หย่งกัง เหล่าหม่าและ
เหอจื้อเชียนก็เป็นแบบนี้เช่นกัน
ขณะที่ทุกคนมองใบหน้าอันผ่อนคลายของเฉินชางก็ตกอยู่ใน
ภวังค์ความคิด
ตกลงเขามีสิ่งที่ทำ ไม่เป็นไหมนะ
พอคิดถึงตรงนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ถอนหายใจออกมา
การผ่าตัดค่อยๆ จบลงท่ามกลางเสียงถอนหายใจยาวๆ นี้
ถ้าผ่าตัดได้ผล การผ่าตัดเคสนี้จะต้องเปล่งประกายอร่ามเรือง
มีเมฆมงคลเหลือบรุ้งโอบล้อม บัวเขียวผลิบานดอกแล้วดอกเล่า
รอจนเฉินชางเย็บแผลเสร็จ พอทั้งสี่คนก้มลงไปดูก็อึ้งไปทันที!
แทบหาแผลไม่เจอ!พอดูดีๆ ก็เห็นว่าแผลอยู่ที่รอยย่นผิวหนังที่พับกันอยู่ของหญิง
คนนั้น!
เพราะคนอ้วนพอนั่งนานแล้ว ช่วงท้องมักจะเกิดรอยย่นของ
เนื้อรอยหนึ่ง…
คราวนี้จึงซ่อนรอยแผลไว้ได้พอดี
ถ้าบอกว่าคนในห้องตั้งใจมองแล้วยังเห็นรางๆ ทว่าทุกคนที่ดู
เว็บแคมอยู่ด้านนอกกลับหาแผลไม่เจอทันที!
รู้สึกเหมือนพริบตาเดียวแผลก็หายไปแล้ว!
แต่ไส้ติ่งที่ตัดออกมาก็อยู่บนจานแล้ว นี่…มันมายากลหรือไง
เสกไส้ติ่งออกมาด้วยมือเปล่าหรือ
ท้องไม่มีแผลชัดๆ ผ่าตัดยังแทรกอากาศดึงไส้ติ่งออกมาได้
หรือไง!
เออร์สเต็ดมองเฉินชางแล้วรู้สึกเลื่อมใสจากใจจริง!
มิน่าเมื่อกี้ถึงชี้ข้อบกพร่องของเราออกมาได้หมด
ต่อให้ดูเหมือนเข้มงวดไปหน่อย แต่เรื่องพวกนี้กลับเป็นสิ่งที่ตน
อยากพัฒนาจริงๆ อีกอย่าง เฉินชางทำ เรื่องพวกนี้ได้ดีพอแล้วการผ่าตัดจบลง พอคุณป้าคนนี้ลุกขึ้นมา เธอก็มองทุกคนแล้ว
มองไส้ติ่ง “นะ…นี่ไส้ติ่งหรือคะ”
อืม น้ำ เสียงเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ!
แต่เธอก็รู้ว่าเวลายังไม่ผ่านไปนานเท่าไร
เธอทอดถอนใจ ถึงกับมองดูผิวหน้าหน้าท้องของตน แทบหา
แผลไม่เจอ!
ถ้าไม่ใช่ว่ายาชาหมดฤทธิ์จนความเจ็บแล่นปราดมา เธอยังไม่
ค่อยมั่นใจนักว่าได้ผ่าตัดหรือยัง หมอได้เอาเนื้อหมูสักชิ้นมาหลอก
ตนหรือเปล่า!
“ขอบคุณค่ะหมอ!” คุณป้ายิ้ม
พูดจบเธอก็ถูกพยาบาลเข็นออกไปอย่างเบิกบานใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ