“ฉันบอกเลยว่าเงินทั้งหมดนี่ในวันนี้เป็นของฉัน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เอาไปไม่ได้ทั้งนั้น!”
“ถ้าใครกล้าขวางฉันล่ะก็ คนของฉันจะฆ่าทิ้งให้หมด เจอพระฆ่าพระ เจอผีฆ่าผี!”
ในชั่วขณะนั้นเอง ทุกคนต่างนิ่งเงียบไปกับคำพูดของหลงเปียว ไม่มีใครคิดว่าหลงเปียวจะกล้าประกาศขนาดนี้ออกมาต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ในสถานที่เช่นนี้
“ไอ้หนุ่ม รนหาที่ตายเหลือเกินนะ!”
หลงเปียวโมโหสุดขีด หัวเสียอย่างแรง เขาไม่คิดเลยว่าหยางเฟิงจะกล้าตบหน้าเขาแบบนั้น
เพี๊ยะ!
ยังไม่ทันที่หลงเปียวจะพูดจบประโยคดีนัก หยางเฟิงก็ตบหน้าหลงเปียวเข้าอีกฉาด ความแรงเท่าเดิม น้ำหนักเท่าเดิม จังหวะเวลาเดิม เพิ่มเติมคือตบเข้าที่ใบหน้าอีกข้าง เพราะคนตบกะว่าจะให้บวมเท่ากันพอดี
“สวะอย่างแก กล้าดียังไงมาทำตัวแบบนี้ต่อหน้าฉัน”
หลังจากพูดจบ หยางเฟิงก็พุ่งเข้าใส่หลงเปียวทั้งตัวอย่างรวดเร็ว มือซ้ายกระชากคอเสื้อไว้แน่น มือขวาจู่โมเข้าไปที่ตำแหน่งกระดูกต้นคอของหลงเปียว
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่อึดใจนั้นทำให้ทุกคนตาค้าง แม้แต่หลงเปียวก็ยังประมวลผลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปทันไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนเขาจะทันรู้ตัวหรือตอบสนองอะไร เขาก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของหยางเฟิงแล้ว
หยางเฟิงจ้องมองหลงเปียวอย่างเย็นชา เขาพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “วันนี้ คุณต้องแลกเปลี่ยนชิบทั้งหมดของผมให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้น วันนี้ คุณตายแน่”
สิ้นเสียงของหยางเฟิง คลื่นพลังจิตสังหารแสนเย็นชาก็ปลดปล่อยออกมาจากร่างของหยางเฟิง ทำเอาแข้งขาของหลงเปียวอ่อนยวบ แทบทรงตัวไว้ไม่อยู่ ร่างกายเย็นยะเยือก เต็มไปด้วยความกลัว
เฮ้ย ลูกพี่
ลูกน้องคนหนึ่งของหลงเปียวอุทานออกมา เขาตั้งสติได้ก่อนคนอื่นๆ และเสียงเรียกของเขาทำให้คนอื่นตั้งสติได้เช่นกัน
แต่หลังจากตั้งสติได้เมื่อเห็นหลงเปียวตกอยู่ในกำมือของหยางเฟิง แทนที่จะคอยระวังสถานการณ์ คนของพรรคมังกรทองจำนวนมากกลับหมายจะกรูเข้ามาจัดการชิงตัวหลงเปียวจากเงื้อมมือของหยางเฟิง
เดี๋ยวก่อน!
หลงเปียวรีบตะโกนร้องบอก “อย่าเข้ามา ทุกคน หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ”
นิ้วมือขวาของหยางเฟิงยังคออยู่ที่รอบลำคอของหลงเปียว หากเกิดอะไรขึ้นมาแล้วหยางเฟิง “บังเอญตกใจ” ลงมือบีบคอหลงเปียว “เต็มกำลัง” ขึ้นมา จะเป็นเรื่องใหญ่
ลูกน้องทั้งหลายของหลงเปียวก็ไม่กล้าลงมือเช่นกัน ความปลอดภัยของ “ตัวประกัน” หรือ “ลูกพี่” ต้องมาก่อน ตราบใดที่หยางเฟิงมีท่าทีจะหักคอหลงเปียวได้ในพริบตา ลูกน้องของหลงเปียวทั้งหลายต่างก็ไม่กล้าเสี่ยงด้วยทั้งนั้น
เมื่อหลงเปียวร้องห้ามด้วยความตกใจกลัวแล้ว ห้องนั้นก็เงียบสงบลงไปครู่หนึ่ง สาขาของแต่ละคนต่างจับจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างระแวดระวัง ขามุงเฝ้ามองด้วยท่าที่สนใจและสายตาที่จับจ้องไม่กระพริบ หยางเฟิงก็ใช้สายตาเย็นชาที่ไม่ยี่หระสังคมแวดล้อมเลยในการจับจ้องมองคนโดยรอบ
แน่นอนว่าสภาพในตอนนี้ ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าขยับ คนของหลงเปียวก็ไม่กล้าลงมือและไม่กล้าถอยหนีเช่นกัน
หลงเปียวหันไปมองหยางเฟิงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ ถ้อยคำแฝงเร้นภัยคุกคาม และสายตาคับแค้นจากใจจริง “ไอ้หนู แกรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน นี่คื่อเขตแดนของสำนักมักกรทองแห่งสำนักหง ต่อให้แกเก่งสร้างสามารถจากไหน ต่อให้แกออกไปจากที่นี่ได้ แกก็ออกไปจากสิงเถาไม่ได้หรอก ถ้าไม่อยากตายล่ะก็ ฉันแนะให้แกปล่อยฉันแต่โดยดีซะ อย่าขัดขืนเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น...”
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
ไม่ต้องรอให้หลงเปียวพูดจบทุกถ้อยคำที่เขาต้องการสื่อสาร หยางเฟิงก็ตบหน้าหลงเปียวสลับซ้ายขวาอย่างต่อเนื่องจนฟันบางซี่ของหลงเปียวกระเด็นหลุดออกมาบนพื้น หยางเฟิงตบหน้าไปหลายสิบครั้ง ตบจนรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมือชา แต่ก็ยังคิดว่าหลงเปียวคงไม่สงบปากคำแต่โดยดีอีกแน่นอน
“อยากข่มขู่ผมเหรอ ระดับของคุณยังไม่ถึงขั้นนั้นครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...