พอได้ยิน
ชายผมแดงก็ขรึมลงในทันที
แม้เขาจะโมโหอยู่ในใจ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางไหนที่จะจัดการปีศาจหงอได้
เพราะปีศาจหงอพูดถูก
ถ้าเสียเขาไป เขาก็ไม่มีทางควบคุมสำนักยมบาลได้!
น่าแค้นใจ!
น่าแค้นใจจริง ๆ!
ถ้าไม่เพราะเรื่องนั้นในตอนนั้น ปีศาจหงอจะยะโสต่อหน้าเขาได้หรือ?
ขอแค่ตระกูลปลีกวิเวทออกจากหุบเขา
สำนักยมบาลอะไรนั่น ก็มีแค่ชื่อใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เหมือนดินปั้นไก่กระเบื้องรูปหมา
เสียดายที่……
พอคิดถึงเงาของคนผู้นั้น เขาก็อดตัวสั่นไม่ได้
“หึ!”
ชายผมแดงแสยะเสียง: “ฉันไม่สนว่านายจะมีข้ออ้างอะไร สรุปคำเดียวคือ รีบรวบรวมชิ้นส่วนมงกุฎภาพมังกรให้เร็วที่สุด!ขอแค่รวบรวมชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรได้ครบ ตระกูลเฟิงของฉันจะได้ออกจากภูเขาสักที!”
“ครับ!”
ปีศาจหงอพยักหน้าแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าทแม่ง ๆ ว่า: “ท่านเฟิงหวูตี่ ตอนนี้ชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรปรากฏอย่างน้อยหกชิ้นแล้ว!”
“อะไรนะ?หกชิ้น!”
พอได้ยินคำนี้
ดวงตาของก็หดลงอย่างฉับพลัน
เขานึกไม่ถึงว่าชิ้นส่วนมงกุฎภาพมังกรจะปรากฏมามากมายเช่นนี้แล้ว
ปีศาจหงอเอ่ยแนะนำว่า: “ในมือของเจ้าสำนักยมบาล มีชิ้นส่วนภาพมงกุฎสองชิ้นแล้ว ส่วนชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรที่เหลืออีกสี่ชิ้น อยู่ในมือคนผู้หนึ่งที่ชื่อว่าหยางเฟิง……”
ปีศาจหงอก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อไปอีก
เฟิงหวูตี่ยกมือขึ้นปัด เอ่ยอย่างรำคาญว่า: “ฉันไม่อยากฟังเรื่องพวกนี้ ฉันไม่สนว่าชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรจะอยู่ในมือใคร นายต้องเอาทั้งหมดกลับมาให้ฉัน!ถ้านายเอากลับมาได้ ฉันจะรายงานผู้นำตระกูลหมิง ให้นายเข้าตระกูลเฟิง ได้เพลิดเพลินกับทรัพยากรตระกูลปลีกวิเวทของเรา!”
“แต่ถ้านายเอากลับมาไม่ได้……นายก็คงรู้ผลลัพธ์ดี!”
“แน่นอน”
“ถ้าผมได้ชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรทั้งหมด ผมมอบให้นายท่านแน่ เพียงแต่……”
พูดถึงตรงนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...