เทพสงครามพิทักษ์โลก นิยาย บท 220

เมื่อพูดถึงสำนักปาจี๋เฉินตงก็จงใจมองมายังหยางเฟิงเป็นการเฉพาะ

ทว่าใบหน้าหยางเฟิงไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร

ช่วงก่อนหน้านี้

สำนักปาจี๋ที่ตั้งอยู่ในมณฑลเจียงหนานล่มสลายกะทันหันทำให้ทั่ววงการนักบู๊สั่นสะเทือน

ถึงแม้สำนักปาจี๋จะเป็นรองแต่ก็จัดเป็นหนึ่งในแปดสำนัก

แต่กลับถูกทำลายแบบไร้สุ้มเสียงและตอนนี้ยังหาตัวผู้ร้ายไม่เจอเรื่องนี้จึงกลายเป็นข้อถกเถียงกันในวงการนักบู๊แคบภาคใต้ไม่อยู่

หลายสำนักส่งคนไปตรวจสอบสาเหตุการล่มสลายของสำนักปาจี๋

ทว่าก็เสมือนงมเข็มในมหาสมุทรไม่ได้รับเบาะแสใดๆ

และคดีสำนักปาจี๋ถูกกำจัดก็กลายเป็นคดีใหญ่

ถ้าไม่ใช่ทูตแห่งนครก็จะไม่มีสิทธิ์สืบสวนคดีนี้

เรื่องสำนักปาจี๋ถูกกำจัดกลายเป็นปริศนาสำหรับนักบู๊ทิศใต้ทันที

และจากที่เฉินตงตรวจสอบหยางเฟิงมาจากตงไห่

และตงไห่ก็จัดอยู่ในมณฑลเจียงหนาน

ดังนั้นเขาคาดคะเนว่าสำนักปาจี๋ถูกกำจัดเกี่ยวข้องกับหยางเฟิงสูง

ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าเรียบเฉยของหยางเฟิงเขาก็อดสงสัยไม่ได้

เฉินตงเล่าต่อไปว่า“สำหรับพวกสิบสามพรรคพวกเขาเป็นเพียงแก๊งระดับล่างไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงครับ”

จากที่เฉินตงเล่ามา

หยางเฟิงก็พอใจรู้เรื่องราวในวงการนักบู๊พอสังเขป

เขาถามด้วยความอยากรู้“แล้วแก๊งฟ้าดินจัดเป็นแก๊งระดับไหน?และยังมีสำนักหงของพวกนายด้วย

“เอ่ออันนี้...”เฉินตงลังเลชั่วครู่“ถ้าพูดกันตรงๆแก๊งฟ้าดินไม่ถือว่าเป็นสำนักเพราะจัดตั้งแก๊งฟ้าดินขึ้นเพื่อต่อต้านราชวงส์ชิงและฟื้นฟูราชวงส์หมิงจึงแตกต่างจากสำนักทั่วไปแต่อำนาจของแก๊งฟ้าดินในตอนนี้ถ้าอยู่ในหนึ่งร้อยปีก่อนก็นับว่าเป็นสำนักระดับต้นมีความสามารถเก่งกาจ……”

“สำหรับสำนักหงของพวกเราและแก๊งเขียวด้วยพวกเราเป็นเพียงอำนาจพื้นที่สีเทาเท่านั้นไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับนักบู๊มากนักครับ”

“อ่อ”

หยางเฟิงพยักหน้าไม่ได้ตอบสิ่งใดอีก

แก๊งฟ้าดินคงมีอำนาจยิ่งใหญ่จริงๆ!

มิน่าล่ะถึงมีความทะเยอทะยานสูงอยากรวบรวมนักบู๊ในภาคใต้ไว้หมด

เขารู้สึกว่าตัวเองสนใจงานประลองบู๊ขึ้นมากะทันหัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก